“ก้อง ศรันย์” เจอดราม่า! แคะจมูก-ล้วงเป้ากลางไลฟ์ ทัวร์ถล่มยับ เจ้าตัวยันแค่คอนเทนต์

ก้อง ศรันย์ พ่อค้าส้มตำดังจากอุดรธานี ตกเป็นประเด็นร้อน หลังคลิปไลฟ์สดแคะจมูก-ทำพฤติกรรมขยะแขยงบนครกส้มตำ ว่อนเน็ต

โลกโซเชียลมีเดียกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังปรากฏคลิปวิดีโอที่ทำให้หลายคนถึงกับตกใจและรู้สึกขยะแขยง เกี่ยวกับ ก้อง ศรันย์ พ่อค้าส้มตำชื่อดังจากจังหวัดอุดรธานี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังปรากฏภาพขณะ ไลฟ์สดขายส้มตำ โดยในคลิปเขาได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อหน้ากล้อง ทั้งแคะจมูกและใช้มือหยิบจับของกินใส่ครกส้มตำ สร้างความไม่พอใจและกระแสตีกลับอย่างรุนแรงในโลกออนไลน์

เพจชื่อดัง “ท่านเปา” ได้โพสต์ข้อความรายงานสถานการณ์ โดยระบุว่า หลังจากเคยตกเป็นข่าวด้านลบมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง ล่าสุดพ่อค้าส้มตำสุดแซ่บรายนี้ต้องงานเข้าอีกครั้งกับคลิปคอนเทนต์ที่เขาแสดงพฤติกรรมสุดยีใส่กล้อง หลายคนเห็นคลิปแล้วออกมาคอมเมนต์ในเชิงไม่พอใจอย่างชัดเจน เช่น “แบบนี้เกินไป รับไม่ได้!” หรือ “ไม่โอเค กับการเล่นแบบนี้ โดยเฉพาะของกิน”

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับ สุขอนามัยของอาหารและความเหมาะสมของคอนเทนต์ออนไลน์ โดยเฉพาะเมื่อผู้ที่มีชื่อเสียงหรือพ่อค้าขายอาหารทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อหน้ากล้อง

✨การโต้กลับของก้อง ศรันย์

เมื่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ก้อง ศรันย์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คลิปดังกล่าวถูก ตัดต่อ และพฤติกรรมที่เห็นทั้งหมดเป็นเพียง การสร้างคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง

เขายืนยันว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการตอบสนองต่อคอมเมนต์ที่แฟนคลับแซวขณะไลฟ์สด โดยช่วงหนึ่งที่เขาเผลอแคะจมูกต่อหน้ากล้อง จากนั้นมีคนแซวในคอมเมนต์ว่า “แคะจมูกแล้วยังตำส้มต่ออีก” ทำให้เขาตอบโต้ด้วยการแสดงท่าประชด ทั้งแคะจมูกและควักให้ดู ซึ่งในคลิปฉบับเต็มจะเห็นบริบททั้งหมดว่าการกระทำเกิดขึ้นเพราะเป็น การประชดคอมเมนต์

นอกจากนี้ ก้องยังอธิบายว่าเพจอื่นได้นำคลิปบางส่วนไป ตัดต่อ เผยแพร่ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าพฤติกรรมแคะจมูกและหยิบจับของกินเกิดขึ้นต่อเนื่องจริง ๆ ทั้งที่จริงเป็นเพียงช่วงประชดที่ถูกแยกออกมา

✨ความเห็นจากเพจ “ท่านเปา”

เพจ “ท่านเปา” ได้เข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ประเด็นของเรื่องเกิดจากบริบทของการไลฟ์สดขายส้มตำจริง ๆ ในคลิปเต็ม ก้องกำลังตำส้มอยู่ และเกิดเผลอแคะจมูกต่อหน้ากล้องหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นเขาเดินไปหยิบถุงตามที่แฟนคลับแซว ซึ่งเป็น การสร้างมุกประชดคอมเมนต์

แต่มีเพจหนึ่งนำคลิปบางช่วงไปตัดต่อ เผยแพร่เฉพาะตอนที่เจ้าตัวเดินไปหยิบถุง ทำให้คนดูเกิดความเข้าใจผิดว่าพฤติกรรมแคะจมูกเป็นการกระทำต่อเนื่องกับส้มตำ ทำให้หลายคนออกมาตำหนิอย่างรุนแรง

✨มุมมองเกี่ยวกับคอนเทนต์และความรับผิดชอบของผู้ขายอาหาร

เหตุการณ์นี้สร้างคำถามใหญ่เกี่ยวกับ ขอบเขตของคอนเทนต์ออนไลน์ และ ความรับผิดชอบต่อสุขอนามัยอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางสำคัญของธุรกิจอาหาร

นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า แม้จะเป็นการแสดงคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง การแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อหน้ากล้อง เช่น แคะจมูกหรือใช้มือสัมผัสอาหารโดยตรง อาจส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือของผู้ขายอาหาร และอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้านค้า

ขณะเดียวกัน ผู้ชมออนไลน์จำนวนมากก็ชี้ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ ควรจำกัดให้เกิดในบริบทที่เหมาะสม ไม่ควรนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยไม่ได้มีการทำความเข้าใจบริบททั้งหมด

✨ความเห็นของก้อง ศรันย์เกี่ยวกับดราม่า

ก้อง ศรันย์ ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า การที่เขาโดนดราม่าหนัก ๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขามาหลายครั้งแล้ว แต่เขาไม่เคยปกป้องตัวเองเพราะมักเลือกให้อภัยสื่อและผู้คน

เขายืนยันว่า คลิปฉบับเต็มเป็นเพียงการสร้างสีสันและตอบโต้คอมเมนต์เท่านั้น และการถูกนำไปตัดต่อเผยแพร่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งสิ่งนี้ไม่ควรนำไปเป็นข้อสรุปของพฤติกรรมจริงของเขา

ข้อความบางส่วนจากโพสต์ของก้อง ระบุว่า:

 "ถ้าเข้าใจคำว่า 'ทำงานบนหลังคน' จะเข้าใจโลกใบนี้ขึ้นเยอะ ดราม่าแคะจมูกก็เริ่มเอาไปขยี้กัน จริง ๆ มันคือคอนเทนต์ ชีวิตจริงทำอะไรแบบนี้ให้ลูกค้าไหม? คลิปนี้ถูกถ่ายผ่าน Live TikTok ร้านจะปิดครัวพอดี แต่ลูกค้า VIP (ผีเป้า) มาขอข้าวที่ร้าน กินประจำ ทำให้ก่อนปิดร้าน คลิปเต็ม ๆ ก็มี แต่ช่วงกลางคลิปถูกตัดไปทำให้คนเข้าใจผิด"

✨ผลกระทบต่อภาพลักษณ์และธุรกิจ

ดราม่าครั้งนี้แม้จะเกิดจาก การเข้าใจผิดและการตัดต่อคลิป แต่ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของก้อง ศรันย์ และร้านส้มตำของเขาโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่ผู้คนสามารถแชร์คลิปและแสดงความเห็นได้อย่างรวดเร็ว

การตกเป็นประเด็นดังกล่าว อาจส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ

ด้านบวก: ความโด่งดังของคลิปอาจสร้าง การรับรู้และความสนใจต่อร้านส้มตำ ทำให้มีลูกค้าเข้ามาชิมอาหารเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ติดตามคอนเทนต์ออนไลน์

ด้านลบ: พฤติกรรมที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสมอาจทำให้ เสียความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ขายอาหาร และกระทบต่อภาพลักษณ์ร้านในระยะยาว

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึง ความท้าทายของการทำคอนเทนต์ออนไลน์ในธุรกิจอาหาร ผู้ประกอบการยุคใหม่มักใช้สื่อโซเชียลเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ แต่การสร้างสีสันหรือมุกตลกบางครั้งอาจถูก ตีความผิด และกลายเป็นดราม่าได้ง่าย

นักการตลาดออนไลน์แนะนำว่า การทำคอนเทนต์ในธุรกิจอาหาร ควรเน้นความ สนุกและสร้างสรรค์โดยไม่กระทบต่อสุขอนามัยของอาหาร เพื่อรักษาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของร้าน

ในกรณีของก้อง ศรันย์ แม้เขาจะมีจุดประสงค์เพื่อ สร้างสีสันและตอบโต้คอมเมนต์ประชด แต่การที่คลิปถูกตัดต่อและเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญของผู้ประกอบการทุกคน

สรุป

กรณีของ ก้อง ศรันย์ พ่อค้าส้มตำชื่อดังจากอุดรธานี ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของ ดราม่าออนไลน์ ที่เกิดจากความเข้าใจผิด การตัดต่อคลิป และการตีความคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน

แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าเป็นเพียง คอนเทนต์ประชดคอมเมนต์ และคลิปฉบับเต็มแสดงบริบททั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ได้

เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ การสร้างคอนเทนต์ออนไลน์อย่างรับผิดชอบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับ อาหารและสุขอนามัย และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการและนักสร้างคอนเทนต์ทุกคน

สุดท้าย สิ่งที่เกิดขึ้นกับก้อง ศรันย์ เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้ความตั้งใจในการสร้างคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงจะดี แต่ การตระหนักถึงบริบท ความเหมาะสม และผลกระทบต่อผู้ชม ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด