เศร้าใจ! สิ้นแล้ว “วิโรจน์ เปาอินทร์” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วัย 91 ปี
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 91 ปี เสาหลักของการเมืองไทย
วันนี้ วงการการเมืองไทยต้องสูญเสียบุคคลสำคัญอีกหนึ่งคน เมื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีตรองนายกรัฐมนตรี เสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัย 91 ปี สร้างความเศร้าเสียใจให้กับเพื่อนร่วมงาน นักการเมือง และประชาชนที่ติดตามผลงานของท่านมาตลอดหลายทศวรรษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเสียใจต่อการจากไปของอดีตผู้นำพรรค โดยระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการจากไปของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยช่วง 2557-2562 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อในปัจจุบัน ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือมาก เมตตาต่อน้องๆ ในพรรคทุกคน คอยให้คำแนะนำด้านกฎหมายและการบริหารพรรคมาตลอด ท่านเป็นหัวหน้าพรรคในช่วงที่คสช.เข้ายึดอำนาจ ต้องแบกรับแรงกดดันจากเผด็จการทหาร แต่ท่านวิโรจน์และท่านภูมิธรรม (เลขาพรรคในขณะนั้น) ยืนหยัดไม่ยอมรับการยึดอำนาจ และเรียกร้องให้คืนอำนาจสู่ประชาชนไทยโดยเร็ว ทำให้พรรคเพื่อไทยสามารถผ่านสถานการณ์นั้นมาได้อย่างมั่นคง ผมจะเก็บความทรงจำและคุณงามความดีของท่านไว้ตลอดไป ขอให้ดวงวิญญาณของท่านได้พักผ่อนในที่สงบและไปสู่สุคติครับ”
ข้อความนี้สะท้อนถึงความนับถือและความเคารพที่เพื่อนร่วมงานและพรรคเพื่อไทยมีต่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ ท่านเป็นทั้งที่ปรึกษา นักกฎหมายมือฉมัง และผู้นำที่มั่นคงในยามวิกฤตการณ์ทางการเมือง
ประวัติและเส้นทางชีวิต พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ท่านเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในฐานะ นายตำรวจมือฉมัง มีประสบการณ์เป็นทั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ ก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว
เส้นทางการเมืองของท่านถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชาชนในอดีต แม้จะพบกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งหลายครั้ง แต่ท่านไม่เคยย่อท้อ และยังคงมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประชาชนและพรรคการเมืองของตน
ในปี พ.ศ. 2548 พล.ต.ท.วิโรจน์ ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดอ่างทอง แต่พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคไทยรักไทย หลังจากนั้นท่านได้เข้าร่วมกับ พรรคพลังประชาชน ในปี พ.ศ. 2550 แม้ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่ท่านยังคงได้รับความไว้วางใจในบทบาทสำคัญของพรรค และต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญของ พรรคเพื่อไทย รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค
ความเก๋าเกมและประสบการณ์การเมืองของพล.ต.ท.วิโรจน์ ทำให้ท่านได้รับตำแหน่งสำคัญในฝ่ายบริหารหลายครั้ง ทั้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของ พลเอกสุจินดา คราประยูร และ รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย เมื่อปี พ.ศ. 2543
การยืนหยัดในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมือง
พล.ต.ท.วิโรจน์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยช่วงปี 2557-2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง หลังการยึดอำนาจของ คสช. ในปี พ.ศ. 2557
ท่านต้องแบกรับแรงกดดันจากเผด็จการทหารอย่างมหาศาล แต่ยังสามารถนำพรรคเพื่อไทยให้ผ่านพ้นสถานการณ์นั้นได้อย่างมั่นคง ด้วยความอดทนและวิสัยทัศน์ทางการเมือง ท่านร่วมกับเลขาพรรคในขณะนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย ประกาศจุดยืนของพรรค ไม่ยอมรับการยึดอำนาจ และเรียกร้องให้คืนอำนาจสู่ประชาชนโดยเร็ว
ความกล้าหาญและความมั่นคงของพล.ต.ท.วิโรจน์ ทำให้พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นพรรคการเมืองที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะที่เต็มไปด้วยความท้าทายทางการเมืองและแรงกดดันจากรัฐบาลเผด็จการ
การกลับเข้าสู่สภาและบทบาทสำคัญ
หลังจากพรรคเพื่อไทยผ่านช่วงวิกฤติการณ์ทางการเมือง พล.ต.ท.วิโรจน์ กลับเข้าสู่ สภาผู้แทนราษฎร อีกครั้งในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และได้รับบทบาทสำคัญในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ท่านทำหน้าที่เป็น รองประธานวิปรัฐบาล และ ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในสภาฯ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในปี พ.ศ. 2555
การทำงานในช่วงนี้เป็นตัวอย่างของการทุ่มเทเพื่อพรรคและประเทศ แม้ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ซับซ้อน พล.ต.ท.วิโรจน์ ยังสามารถนำพรรคไปสู่ความมั่นคงและเป็นที่ยอมรับในวงการการเมืองไทย
การเลือกตั้งปี 2562 และ 2566
ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2562 พล.ต.ท.วิโรจน์ ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 แต่กลับพลาดการเข้าสู่สภาอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากสูตรคำนวณที่ซับซ้อนของการเลือกตั้ง ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับ ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี พ.ศ. 2566 พล.ต.ท.วิโรจน์ กลับมาลงสมัครในบัญชีรายชื่ออันดับ 1 อีกครั้ง และสามารถ ได้รับการเลือกตั้งกลับเข้าสู่สภา ได้สำเร็จ ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความไว้วางใจจากประชาชนและสมาชิกพรรคที่ยังเชื่อมั่นในความสามารถและวิสัยทัศน์ของท่าน
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกของสภาฯ ชุดที่ 26 พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้รับเกียรติทำหน้าที่ ประธานสภาฯ ชั่วคราว เนื่องจากท่านเป็น ส.ส.ที่มีอายุสูงสุด (90 ปี ในขณะนั้น) เพื่อดำเนินการเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ตัวจริง
บทบาทนี้เป็นสัญลักษณ์ของความเคารพและการยกย่องต่อประสบการณ์และความสามารถของพล.ต.ท.วิโรจน์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญต่อการเมืองไทยมายาวนาน
คุณูปการต่อพรรคเพื่อไทยและประเทศชาติ
ตลอดชีวิตการเมืองของพล.ต.ท.วิโรจน์ ท่านได้ฝากผลงานและคุณูปการไว้มากมาย ทั้งในด้านการบริหารประเทศ การปราบปรามทุจริต การเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และการนำพาพรรคเพื่อไทยให้ผ่านวิกฤตการณ์ทางการเมือง
ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำทางการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ ท่านยังเป็น ผู้ใหญ่ใจดีและเมตตา ต่อสมาชิกพรรครุ่นใหม่ คอยให้คำแนะนำและเป็นแบบอย่างในด้านความซื่อสัตย์ การยึดมั่นในหลักการ และความอดทนต่อความยากลำบาก
ทั้งนี้ การยืนหยัดไม่ยอมรับการยึดอำนาจและเรียกร้องให้คืนอำนาจสู่ประชาชนในช่วงคสช. ถือเป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญที่สุดที่ทำให้พรรคเพื่อไทยสามารถอยู่รอดและเป็นพรรคการเมืองหลักในประเทศไทย
การสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการเมืองไทย
การจากไปของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการการเมืองไทย ทั้งเพื่อนร่วมงาน นักการเมือง และประชาชนทั่วไปที่ติดตามผลงานของท่าน
หลายฝ่ายต่างแสดงความเสียใจและร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของท่าน เช่น ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมถึงผู้สื่อข่าว นักวิเคราะห์การเมือง และนักการเมืองจากพรรคอื่น ต่างยกย่องถึงบทบาทและคุณูปการที่ท่านมีต่อประเทศชาติ
สรุป
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารบ้านเมืองอย่างโชกโชน ท่านเคยดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, และ ประธานสภาฯ ชั่วคราว
ตลอดชีวิตการเมือง ท่านเป็นทั้งผู้ใหญ่ใจดี คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่สมาชิกพรรครุ่นใหม่ และเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องและความยุติธรรมทางการเมือง
การจากไปของพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ จึงไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญทางการเมือง แต่ยังเป็นการสูญเสียบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นหลัง
สุดท้ายนี้ ขอให้ ดวงวิญญาณของพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ได้พักผ่อนอย่างสงบ และไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
ไขข้อสงสัย หากใช้เงินคนละครึ่งพลัสไม่หมดสามารถสมทบไปวันต่อไปได้ไหม
ดราม่ากลางสภา..! เสื้อผ้าไหมสีชมพูของ "ส.ส.สมศักดิ์" จุดกระแสถล่มสนั่นโซเชียล – พรรครีบแจง 5 ข้อ ยันเป็นเรื่องเข้าใจผิด
😉 ชวนลองเข้ามาดูสถานการณ์น่าอึดอัดที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 😠
ดราม่าปลากระป๋องลาม! “บักบอย” ลั่น ปลากระป๋องตรา 3 แม่ครัว มีรากเหง้ามาจาก “กำแพงนครวัด” คนไทยสวนแรง “
เปิดวาร์ป 10 อันดับ "สถานที่หลอนที่สุดในโลก" เมืองแม่มด "ซาเลม" ครองแชมป์! ในเอเชียมีแค่ญี่ปุ่นที่ติดโผ!
กองทัพอิสราเอลบุกโจมตีเลบานอนอย่างร้ายแรง
ชาวนาเขมรโอด! ปิดด่านทำพิษ “ข้าวราคาตก” – ขายไม่ได้ วอนรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ
ดราม่าปลากระป๋องลาม! “บักบอย” ลั่น ปลากระป๋องตรา 3 แม่ครัว มีรากเหง้ามาจาก “กำแพงนครวัด” คนไทยสวนแรง “
บุกทลายโกดังใหญ่! เครื่องสำอางเถื่อนกว่า 70,000 ชิ้น มูลค่าทะลุ 7 ล้านบาท
"ปู มัณฑนา" ร้องเรียน "หนุ่ม กรรชัย" และ "โหนกระแส"..ไร้จรรยาบรรณสื่อ บิดเบือนข้อเท็จจริง
เปิดสาเหตุ “เจนนี่” ยังไม่โอนเงิน 3 ล้าน หลัง “แม่เกตุ” ตัดพ้อสุดเจ็บกลางโซเชียล!
สังคมสลด! เปิดประวัติหมอผู้ราดน้ำร้อนเด็ก 3 ขวบ แผลเหวอะ-รักษาช้า สุดท้ายดับ เจอข้อมูลไม่ธรรมดา
คาร์นีย์จะพบกับผู้นำจีนในเกาหลีใต้
