ปิดฉากดราม่า! “ครูเต้ย – ขนม ศศิ กานต์” เคลียร์ทุกอย่าง จ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร 10 ล้าน ไม่ต้องมีใบเสร็จ

ปิดฉากดราม่า “ครูเต้ย – ขนม ศศิกานต์” หลังศึกศาลยืดเยื้อ ครูเต้ยเหมา “ค่าเลี้ยงดูบุตร” 10 ล้าน ผ่อนจ่าย 20 ปี – สัญญาใจห้ามโพสต์พาดพิงกันอีก!

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่คนทั้งประเทศติดตามอย่างใกล้ชิด กับกรณีดราม่าระหว่างนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ครูเต้ย อภิวัฒน์” และอดีตภรรยา “ขนม ศศิกานต์” ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายมีประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับเรื่อง การดูแลบุตรทั้งสองคน จนต้องพากันขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อหาข้อยุติทางกฎหมาย หลังเรื่องราวถูกเผยแพร่ในโซเชียลและกลายเป็นดราม่าที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานก็ได้ ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ เมื่อทนายความของฝ่ายหญิง “ทนายพัฒน์” ได้ออกมาโพสต์สรุปผลคดีผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ทุกประเด็น และศาลได้มีคำสั่งรับรองข้อตกลงดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

🔹 บทสรุปแห่งศึกยืดเยื้อ — 4 ข้อสรุปชัดระหว่าง “ครูเต้ย” และ “ขนม ศศิกานต์”

จากโพสต์ของ ทนายพัฒน์ ได้มีการเปิดเผยเนื้อหาข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยินยอมร่วมกัน โดยมีสาระสำคัญทั้งหมด 4 ข้อหลัก ๆ ดังนี้

1. มารดายินยอมให้บิดารับรองบุตรทั้งสองได้ตามกฎหมาย

ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยวกับสิทธิ์ของ “ครูเต้ย” ในการรับรองบุตร แม้จะเป็นบิดาโดยสายเลือด แต่ตามกฎหมายจำเป็นต้องมีการยินยอมจากฝ่ายมารดา และในที่สุด ขนม ศศิกานต์ ก็ยินยอม เพื่อให้ลูกทั้งสองมีชื่อของบิดาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

2. มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรเพียงผู้เดียว

หมายความว่า ขนมจะเป็นผู้ตัดสินใจหลักเกี่ยวกับชีวิต การศึกษา และการเลี้ยงดูของลูกทั้งสอง แต่ก็เปิดโอกาสให้ครูเต้ยสามารถมาเยี่ยมเยียนได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นแนวทางที่หลายครอบครัวเลือกใช้ในกรณีที่แยกทางกันแต่ยังคงต้องร่วมกันดูแลลูก

3. บิดายอมจ่ายค่าเลี้ยงดูแบบเหมา 10 ล้านบาท ไม่ต้องมีใบเสร็จ

โดยจะผ่อนชำระเดือนละไม่น้อยกว่า 30,000 บาท ให้ครบภายในระยะเวลา 20 ปีเต็ม ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงพอสมควร และสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบของครูเต้ยที่ต้องการดูแลลูกแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน พร้อมกับตกลงว่าเงินจำนวนนี้ไม่ต้องมีใบเสร็จใด ๆ แต่ให้ถือเป็นการเหมาเพื่ออนาคตของลูกทั้งสองโดยตรง

4. ทั้งสองฝ่ายตกลงจะไม่โพสต์พาดพิงกันอีก

ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ ข้อความ หรือสื่อสารใด ๆ ที่อาจทำให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย หากฝ่าฝืน ต้องเสียค่าปรับครั้งละ 50,000 บาท ซึ่งข้อนี้ถือเป็น “เงื่อนไขสำคัญ” ที่มาจากบทเรียนในอดีต เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งคู่เคยมีการตอบโต้กันผ่านโซเชียลหลายครั้ง จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์

 

🔹 “ขนม ศศิกานต์” โพสต์เคลื่อนไหวเรียบง่าย แต่ความหมายลึก

หลังจากศาลมีคำสั่ง ขนม ศศิกานต์ ก็ได้แชร์โพสต์ของทนายพัฒน์ไปยังเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมเขียนข้อความสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมายว่า

 “ที่เหลือ เป็นหน้าที่หม่ามี้เอง ❤️”

เพียงประโยคเดียวแต่สะเทือนใจผู้เป็นแม่หลายคน เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของขนม ที่จะทำหน้าที่ “แม่” อย่างเต็มที่ แม้ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง แต่เธอก็เลือกเดินหน้าต่อด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง

โพสต์ดังกล่าวได้รับคอมเมนต์และกำลังใจมากมายจากแฟนคลับและชาวเน็ตที่ติดตามเรื่องราวของเธอมาตลอด โดยหลายคนชื่นชมว่า

 “ขนมคือแม่ที่อดทนและมีสติที่สุดคนหนึ่ง”

“ยินดีด้วยค่ะ ขอให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี เพื่อเด็ก ๆ จะได้เติบโตในบรรยากาศที่สงบสุข”

🔹 ฝั่ง “ครูเต้ย” เคลื่อนไหวเช่นกัน – โพสต์สั้นแต่ชัดเจน “เพื่อความสุขของลูก”

ในขณะเดียวกัน ทางด้าน ครูเต้ย อภิวัฒน์ ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเช่นกัน หลังจากคดีจบลง โดยเขียนไว้ว่า

 “ผ่านไปด้วยดี ที่เหลือทำเพื่อความสุขของเด็ก ๆ ❤️”

ข้อความสั้น ๆ แต่สะท้อนถึงความตั้งใจของผู้เป็นพ่อ ที่แม้จะผ่านมรสุมข่าวมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็เลือกที่จะปล่อยวาง และหันกลับมามุ่งเน้นในสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา — นั่นคือ ลูกทั้งสองคน

แฟนคลับของครูเต้ยต่างเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจจำนวนมาก เช่น

“เป็นพ่อที่น่ารักมากค่ะ ขอให้ลูก ๆ เติบโตอย่างมีความสุขนะคะ”

“ดีใจที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี ครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดจริง ๆ”

 

🔹 เส้นทางดราม่าที่ผ่านมา: จากรักหวานถึงรอยร้าวแห่งความเข้าใจ

ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่คดีจะมาถึงจุดสิ้นสุดนี้ เรื่องราวของ ครูเต้ย และ ขนม ศศิกานต์ เคยเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เพราะทั้งคู่เคยมีช่วงเวลาหวานชื่นในฐานะคู่รัก และมีลูกด้วยกันสองคน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์เริ่มมีปัญหา จนในที่สุดต้องแยกทางกัน

หลังจากนั้น ก็เริ่มเกิดประเด็นเกี่ยวกับการดูแลบุตร การรับรองบุตร และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งกลายเป็นหัวข้อถกเถียงในโซเชียล บางช่วงมีการโพสต์ตอบโต้กันอย่างรุนแรง ทำให้แฟนคลับแบ่งออกเป็นสองฝั่ง มีทั้งคนที่เห็นใจฝ่ายแม่ และคนที่เข้าใจฝ่ายพ่อ

แต่สุดท้ายแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับว่า สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การเอาชนะกันในโซเชียล แต่คือ การหาทางออกที่ดีที่สุดให้ลูก

 

🔹 การเหมา “ค่าเลี้ยงดูบุตร” 10 ล้าน – จุดจบแห่งการต่อสู้ หรือจุดเริ่มต้นของสันติ?

ข้อตกลงที่ “ครูเต้ย” ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูแบบเหมา 10 ล้านบาท ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะในวงการบันเทิง ไม่บ่อยนักที่จะมีกรณีตกลงค่าเลี้ยงดูในจำนวนสูงเช่นนี้

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การเลือก “เหมา” เป็นจำนวนเงินชัดเจนและไม่ต้องมีใบเสร็จ เป็นการลดปัญหาในอนาคต ป้องกันความขัดแย้งเรื่องการตรวจสอบรายจ่ายหรือการกล่าวหากันในภายหลัง อีกทั้งยังเป็นวิธีที่สะท้อนถึงความเชื่อใจในฐานะ “พ่อ-แม่” ที่แม้จะแยกทางกันแต่ยังคงต้องร่วมมือกันเพื่ออนาคตของลูก

🔹 กฎหมาย-สังคม: คดีแบบนี้สะท้อนอะไร?

คดีของ “ครูเต้ย-ขนม” นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของ กรณีพิพาทในครอบครัว ที่สังคมไทยให้ความสนใจ เพราะมีทั้งมิติทางอารมณ์ กฎหมาย และภาพลักษณ์ของคนดังเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัวมองว่า การยอมรับข้อตกลงร่วมกันและให้ศาลรับรอง เป็นสิ่งที่ “ผู้ใหญ่ควรทำ” เพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจของเด็ก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการทะเลาะกันในที่สาธารณะ ซึ่งในคดีนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจจบปัญหาด้วยการเจรจา ถือเป็นสัญญาณที่ดีและสมควรได้รับคำชื่นชม

 

🔹 เสียงจากโซเชียล: เมื่อดราม่าถูกปิดฉากอย่างสงบ

หลังข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชาวโซเชียลจำนวนมากต่างแสดงความดีใจที่ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกร่วมกันได้ โดยมีทั้งข้อความให้กำลังใจและคำอวยพร เช่น

“จบแบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ เพื่อเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันอีก”

“ชื่นชมทั้งคู่ที่เลือกยุติด้วยความเข้าใจ ไม่ใช้อารมณ์นำหน้า”

“เงิน 10 ล้านซื้อความสงบไม่ได้ แต่การยอมกันและกันนี่แหละมีค่าที่สุด”

 

🔹 สุดท้ายแล้ว… เรื่องนี้สอนอะไร?

เรื่องราวของ ครูเต้ย อภิวัฒน์ และ ขนม ศศิกานต์ อาจเป็นบทเรียนสำคัญให้กับหลายครอบครัวที่กำลังเผชิญปัญหาในความสัมพันธ์ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งมากเพียงใด “ลูก” คือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

การที่ทั้งสองฝ่ายเลือกปิดฉากดราม่าด้วยการพูดคุย เจรจา และยอมถอยคนละก้าว จึงเป็นตัวอย่างของ “ความเป็นผู้ใหญ่” ที่แท้จริง

🔹 บทส่งท้าย: เมื่อความรักเปลี่ยนรูป แต่ไม่หายไป

แม้ “ครูเต้ย” และ “ขนม ศศิกานต์” จะไม่ได้อยู่ในสถานะคู่รักอีกต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่คือ “ความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อลูก” ซึ่งไม่อาจถูกลบเลือนไปได้

ข้อตกลง 10 ล้านบาทที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจไม่ใช่เพียงเรื่องของตัวเงิน แต่คือสัญลักษณ์ของการ “เริ่มต้นใหม่” — จุดเริ่มต้นของความสงบ ความเข้าใจ และความร่วมมือ เพื่อให้ลูกทั้งสองเติบโตขึ้นในโลกที่เต็มไปด้วยความรักและความสันติ

 “จบด้วยดี เพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างสงบ”

— คือข้อความที่สรุปเรื่องนี้ได้ดีที่สุด

 

สรุปสั้น ๆ:

คดีระหว่าง “ครูเต้ย อภิวัฒน์” และ “ขนม ศศิกานต์” จบลงแล้วอย่างสงบ โดยฝ่ายพ่อยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรทั้งสองเป็นเงิน 10 ล้านบาท ผ่อนจ่ายภายใน 20 ปี ขณะที่ฝ่ายแม่เป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว พร้อมทั้งตกลงไม่โพสต์พาดพิงกันอีกต่อไป เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด