“ณวัฒน์” เดือด! ซัดแรง “ไอโอช่วยกัน จอมพลัง” ปั่นข่าว “ลิซ่าให้ 3 ล้าน” เตรียมแจ้งความเพียบ
🔥 ดราม่าไม่แผ่ว! “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ฟาดแรง “กัน จอมพลัง” ปมเงินบริจาค – ซัดไอโอปล่อยข่าว “ลิซ่า” โอน 3 ล้าน ช่วยกัน “ทุเรศที่สุด!”
เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์ดราม่าที่ร้อนแรงที่สุดในโลกออนไลน์ช่วงนี้ สำหรับกรณีของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เจ้าของเวที มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ที่ออกมาฟาดเดือด “กัน จอมพลัง” นักเคลื่อนไหวคนดัง ปมเงินบริจาคที่กลายเป็นเรื่องวุ่นวายจนต้องมีการ “ทวงคืน” และ “ฟ้องกลับ” กันไปมาอย่างต่อเนื่อง
ต้นเรื่องเกิดขึ้นจากการที่ ณวัฒน์ ได้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิ “กัน จอมพลังช่วยสู้ช่วยทหารชายแดน” ด้วยความตั้งใจจะช่วยเหลือสังคม แต่ต่อมากลับเกิดความสับสน เมื่อพบว่า กัน จอมพลังไม่ได้เป็นประธานมูลนิธิดังกล่าวจริง ๆ และยังมีประเด็นในข้อบังคับของมูลนิธิที่ระบุว่า “หากมูลนิธิล้มเลิก ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของมูลนิธิ ธรรมนัส พรหมเผ่า”
เรื่องนี้ทำให้ ณวัฒน์ ไม่พอใจอย่างหนัก และออกมาทวงถามความโปร่งใส พร้อมเรียกร้องให้คืนเงินบริจาคจำนวน 100,000 บาทที่ได้โอนไปก่อนหน้านั้น
💥 จุดเริ่มต้นของดราม่า “เงินบริจาค 1 แสนบาท”
เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจส่วนตัว แจ้งว่าตนได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมูลนิธิของ “กัน จอมพลัง” เพื่อสนับสนุนกิจกรรมช่วยเหลือทหารชายแดน โดยมีความเชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อสังคมและประเทศชาติ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน กลับมีคนตั้งข้อสังเกตว่า มูลนิธิ “กัน จอมพลังช่วยสู้ช่วยทหารชายแดน” ยังไม่ได้จดทะเบียนอย่างสมบูรณ์ หรืออย่างน้อยก็มีความคลุมเครือในสถานะทางกฎหมาย ขณะที่ “กัน” เองก็ไม่ได้เป็น “ประธานมูลนิธิ” อย่างที่หลายคนเข้าใจ
เมื่อข่าวเริ่มบานปลาย ณวัฒน์จึงออกมาชี้แจงว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะหากมูลนิธินั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เงินบริจาคที่ให้ไปอาจไม่ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้
⚖️ “กัน จอมพลัง” โอนคืนครึ่งเดียว “ณวัฒน์” ไม่ยอม
พลังถูกกระแสกดดันอย่างหนัก กัน จอมพลัง จึงตัดสินใจโอนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาท คืนให้กับณวัฒน์ โดยให้เหตุผลว่า ต้องรอให้มูลนิธิเป็นผู้โอนคืนส่วนที่เหลืออีก 50,000 บาท เนื่องจากเงินที่บริจาคเข้าไปนั้นเป็นเงินของมูลนิธิ ไม่ใช่บัญชีส่วนตัวของตน
แต่ณวัฒน์กลับไม่ยอมรับการคืนเงินในลักษณะนี้ พร้อมออกมาพูดชัดว่า
“โอนเข้ามูลนิธิ ก็ต้องให้มูลนิธิเป็นฝ่ายคืน ไม่ใช่ให้เจ้าตัวโอนเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องขององค์กรที่ต้องโปร่งใส”
เขาย้ำด้วยว่า การบริจาคของเขานั้นมีเจตนาดี แต่เมื่อพบความไม่ชัดเจน ก็ต้องการให้ทุกอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย
💬 การตอบโต้รอบใหม่: “กัน” โอนเพิ่มอีก 50,000 ผ่านมูลนิธิ
ต่อมา “กัน จอมพลัง” ก็ได้ออกมาประกาศผ่านเพจของตนว่า ได้จัดการโอนเงินจำนวน 50,000 บาท เข้ามูลนิธิของตนเอง แล้วให้มูลนิธิเป็นผู้โอนคืนให้กับ “ณวัฒน์” เพื่อให้จบเรื่องอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
แต่พร้อมกันนั้น “กัน” ก็ยังพูดถึงเงินอีก 50,000 บาทแรกที่ตนโอนคืนด้วยเงินส่วนตัวว่า
“ส่วนอีกห้าหมื่นแรก ผมขอไม่เอาคืนแล้ว ให้เอาไปซื้อน้ำพริกแจกคนแทน เอาที่สบายใจเลยครับ!”
ข้อความดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ เพราะหลายคนมองว่าเป็นการประชดประชันเบา ๆ ต่ออีกฝ่าย ขณะที่แฟนคลับของณวัฒน์ก็ออกมาปกป้อง พร้อมติดแฮชแท็ก #ทีมณวัฒน์ และ #คืนเงินให้ถูกต้อง
🔥 ณวัฒน์ฟาดกลับแรง! “คอนเสิร์ตไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เลื่อน”
ในเวลาต่อมา ณวัฒน์ ได้โพสต์ยาว ฟาดกลับคนที่พยายามบิดเบือนเหตุผลในการทวงเงินของเขา โดยมีบางคนกล่าวหาว่า ที่เขาออกมาเคลื่อนไหวหนัก เพราะ “ต้องการกระแส” หรือ “อยากปั่นข่าว” ซึ่งเจ้าตัวตอบกลับทันทีว่า
“ผมไม่จำเป็นต้องสร้างกระแสอะไรทั้งนั้นครับ เรื่องนี้มันคือเรื่องของความถูกต้อง ผมทำธุรกิจ ผมทำงาน ผมเข้าใจระบบของเงินบริจาคดี เพราะทุกบาทที่มาจากประชาชน ต้องตรวจสอบได้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่จะปล่อยผ่าน”
ณวัฒน์ยังระบุเพิ่มเติมว่า การที่อีกฝ่ายพยายามนำเรื่องนี้ไปโยงกับคอนเสิร์ต หรือกิจกรรมอื่น ๆ เป็นเรื่อง “ไม่สร้างสรรค์” และ “เบี่ยงประเด็นจากความจริง”
🧾 จุดแตกหัก! เมื่อเพจ “ท่านเปา” แฉแผนจับคนแกล้งโอนเงิน
ท่ามกลางกระแสดราม่าไม่หยุด ล่าสุดเพจ “ท่านเปา” ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลใหม่ว่า ณวัฒน์ เตรียมดำเนินคดีและ “แจ้งจับ” กลุ่มบุคคลกว่า 100 คน ที่ตั้งใจ “แกล้งโอนเงินจำนวนเล็กน้อย” เข้าบัญชีบริษัทของเขา เช่น 1 บาท 2 บาท หรือแม้แต่ 25 สตางค์
เหตุผลที่ทำให้ณวัฒน์โกรธคือ พวกนี้บางคนแคปหน้าจอไปโพสต์บนโซเชียล พร้อมข้อความเยาะเย้ยว่า “บริจาคให้แล้วนะครับ” ทั้งที่ไม่ใช่การบริจาคจริงจัง แถมยังทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่า บริษัทของณวัฒน์เปิดรับบริจาค
ณวัฒน์โพสต์ตอบแรงว่า
“คนที่แกล้งโอนเงินเข้าบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต และเอาไปโพสต์ลงโซเชียล ถือว่ามีเจตนากลั่นแกล้งผู้อื่น และอาจเข้าข่ายความผิดทางอาญา อย่าคิดว่าเงิน 2 บาทจะไม่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมันคือพฤติกรรมที่เจตนาทำร้ายคนอื่นให้เสียหายทางชื่อเสียง!”
💣 เดือดต่อรอบสอง! ซัด “ไอโอ” ปั่นข่าว “ลิซ่า BLACKPINK” โอนเงิน 3 ล้านช่วยกัน จอมพลัง
ในขณะที่ดราม่าแรกยังไม่จบดี โลกออนไลน์กลับต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อมีข่าวปลอมแพร่สะพัดว่า “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ศิลปินสาวระดับโลกจากวง BLACKPINK ได้บริจาคเงินจำนวน 3 ล้านบาทให้ “กัน จอมพลัง” เพื่อช่วยกิจกรรมมูลนิธิ
ข่าวนี้ถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็วในหลายเพจ และแน่นอนว่า ณวัฒน์ ไม่รอช้า ออกมา “ฟาด” ทันที
เขาโพสต์ข้อความเดือดถึงประเด็นนี้ว่า
“บอกว่าลิซ่าให้ 3 ล้าน ทุเรศ! คนพวกนี้ทุเรศที่สุด ลิซ่าเขามีสมองนะครับ เขาไม่ได้ให้เงินใครทั้งนั้น มันเป็นไอโอสร้างข่าวเพื่อช่วยคุณกันโดยเฉพาะ!”
ณวัฒน์ตั้งคำถามแรงว่า เหตุใด “มูลนิธิของกัน” หรือแม้แต่ตัว “กัน จอมพลัง” เอง ถึงมักมี “ไอโอ” หรือกลุ่มคนออนไลน์ที่คอยช่วยปั่นข่าวในเชิงสนับสนุนอยู่เสมอ
“คุณดูสิ ทำไมมูลนิธิหรือคุณกันถึงมีไอโอช่วยเหลืออยู่ตลอด มันเป็นคำถามที่ผมอยากรู้จริง ๆ ผมไม่ได้กล่าวหา แต่อยากให้ชี้แจงให้สังคมเข้าใจ เพราะข่าวปลอมแบบนี้มันทำให้คนอื่นเสียหาย และบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคมมาก”
🧠 วิเคราะห์: ดราม่านี้สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
กรณี “ณวัฒน์ vs กัน จอมพลัง” ไม่ใช่เพียงแค่การทะเลาะส่วนตัว แต่สะท้อนให้เห็นถึงหลายมิติในสังคมไทยปัจจุบัน
1. ประเด็นเรื่องความโปร่งใสของมูลนิธิ
หลายองค์กรที่อ้างว่า “ไม่แสวงหากำไร” กลับมีข้อกังขาเรื่องการบริหารเงินบริจาค การที่ณวัฒน์ออกมาทวงถาม จึงกลายเป็นกระจกสะท้อนให้สังคมตั้งคำถามกับองค์กรการกุศลมากขึ้น
2. พลังของโซเชียลมีเดีย
ดราม่านี้ลุกลามอย่างรวดเร็วจากเพียงโพสต์ไม่กี่โพสต์ เพราะโซเชียลมีเดียสามารถขยายเสียงของแต่ละฝ่ายได้ในพริบตา
3. การใช้ข่าวปลอมเป็นเครื่องมือ
ข่าว “ลิซ่าโอน 3 ล้าน” เป็นตัวอย่างคลาสสิกของ “Fake News” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปั่นกระแสและเบี่ยงเบนความสนใจ สะท้อนว่าความจริงในโลกออนไลน์กำลังถูกบิดเบือนมากขึ้นเรื่อย ๆ
4. บทบาทของคนดังในประเด็นสังคม
การที่ณวัฒน์ในฐานะบุคคลสาธารณะกล้าออกมาเรียกร้องความโปร่งใส ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงคนในวงการบันเทิงว่า การทำความดีต้องมีความชัดเจนและตรวจสอบได้
🧭 สรุปสถานการณ์ล่าสุด
ณ ปัจจุบัน (ปลายเดือนตุลาคม 2568) ดราม่าระหว่าง ณวัฒน์ และ กัน จอมพลัง ยังไม่จบลงอย่างเป็นทางการ โดย
ณวัฒน์ยืนยันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่แกล้งโอนเงิน
กัน จอมพลัง ยังคงยืนยันว่าตนคืนเงินครบแล้ว และไม่มีเจตนาทุจริต
ส่วนข่าว “ลิซ่าโอน 3 ล้าน” ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็น “ข่าวปลอม” ที่ไม่มีมูลความจริง
ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตยังคงแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเห็นด้วยกับการยืนหยัดของณวัฒน์ ส่วนอีกฝั่งมองว่าเรื่องนี้ถูกขยายเกินจริง
แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ดราม่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญของวงการบันเทิงและสังคมไทย เกี่ยวกับ “ความโปร่งใส” “ความรับผิดชอบ” และ “พลังของข่าวปลอม” ที่สามารถสร้างความเสียหายได้ในพริบตา
💬 ปิดท้ายด้วยคำพูดจาก “ณวัฒน์” ที่สะท้อนใจใครหลายคน
“ผมไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดนะครับ เรื่องนี้ไม่ใช่การหาเรื่องใคร แต่คือการเรียกร้องความถูกต้อง เงินบริจาคทุกบาทมีค่าความหมาย ถ้าเรายังปล่อยให้ความคลุมเครืออยู่ต่อไป มันก็จะไม่มีใครกล้าทำความดีอย่างมั่นใจอีกต่อไป”
นาซายืนยัน โลกมีดวงจันทร์ที่ 2
เงียบกว่าที่เคย บรรยากาศรอบ “อังกอร์วัด” ซบเซา แม่ค้าได้แต่นั่งมองหน้ากันเอง
การตามหาแร่ธาตุหายาก ระหว่างไทย-สหรัฐ ฯ
ยังไม่จบ! ดราม่า “Alphard ค้างอู่” เจ้าของโพสต์แซ่บ ประกาศจะตามหาคนหายด้วยตัวเอง
ปิดฉากดราม่า! “ครูเต้ย – ขนม ศศิ กานต์” เคลียร์ทุกอย่าง จ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร 10 ล้าน ไม่ต้องมีใบเสร็จ
“เต้ มงคลกิตติ์” เดือดจัด! โพสต์ถึง “กัน จอมพลัง” หลังรู้ความจริง ปมดราม่าที่หลายคนจับตา
“ดัง พันกร” แจงแล้ว! เหตุเลื่อนคอนเสิร์ตต้นปีหน้า ไม่ใช่เพราะขายบัตรไม่หมดอย่างที่ลือ


