หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“เมย์” เปิดใจกลางดราม่า! ถูกหักเงินเหลือแค่ 6,000 บาท ยืนยันทุกอย่างคือเรื่องจริง

เนื้อหาโดย bbb1236555

🔥 “ดราม่าเบี้ยเลี้ยงแบดมินตันซีเกมส์” เดือดสะเทือนวงการ! “เมย์ รัชนก – วิว กุลวุฒิ” ถูกหักเหลือ 6,000 บาท “หมิว พรปวีณ์” ถอนตัวกลางคัน ก่อนเปลี่ยนใจหลังได้ “ธรรมนัส” ช่วยไกล่เกลี่ย

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดของวงการกีฬาไทยในช่วงปลายเดือนตุลาคม เมื่อมีข่าวดราม่าการ หักเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่ทำให้แฟนกีฬาทั้งประเทศต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อชื่อของสองซูเปอร์สตาร์แห่งวงการ “เมย์ รัชนก อินทนนท์” และ “วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ถูกเอ่ยถึงว่าได้รับเบี้ยเลี้ยงเพียง 6,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ทั้งคู่เพิ่งสร้างผลงานระดับโลกให้กับประเทศไทย

เรื่องราวเริ่มต้นจากกระแสในโลกออนไลน์ที่มีการพูดถึง “เบี้ยเลี้ยง” ของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติชุดซีเกมส์ โดยมีรายงานว่า นักกีฬาบางคนถูกหักเบี้ยเลี้ยงในจำนวนที่มากผิดปกติ จนหลายคนตั้งคำถามถึงเกณฑ์การพิจารณา และความยุติธรรมในการจัดสรรเงินดังกล่าว

 

🏸 จุดเริ่มต้นของดราม่า: เมื่อ “วิว” และ “เมย์” ถูกหักเบี้ยเลี้ยงเหลือ 6,000 บาท

ต้นเรื่องมาจากข่าวว่า นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ต้องเข้ารับการ ทดสอบสมรรถภาพร่างกายตามกำหนดของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนมาตรฐานก่อนการคัดเลือกตัวผู้เล่นเข้าสู่ทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีนักกีฬาบางคน ไม่สามารถเข้าทดสอบได้ตามกำหนดเวลา เนื่องจากติดภารกิจลงแข่งขันรายการระดับนานาชาติให้กับประเทศ

กรณีนี้เกิดขึ้นกับ “เมย์ รัชนก” และ “วิว กุลวุฒิ” ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งคู่กำลังแข่งขันในรายการต่างประเทศ และแทบไม่มีเวลาพักหรือกลับมาไทยเพื่อเข้ารับการทดสอบตามวันเวลาที่กำหนด ส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์บางส่วนตามระเบียบ รวมถึงถูก “หักเบี้ยเลี้ยง” เหลือเพียง 6,000 บาท

เรื่องดังกล่าวกลายเป็น ประเด็นร้อนในวงการกีฬาไทย เพราะทั้งเมย์และวิวถือเป็นนักกีฬาระดับโลก ที่เพิ่งคว้าแชมป์รายการสำคัญมาหมาด ๆ การถูกหักเบี้ยเลี้ยงในลักษณะนี้จึงทำให้แฟน ๆ จำนวนมากรู้สึกไม่พอใจและมองว่า “ไม่เป็นธรรม” กับนักกีฬาที่ทุ่มเทเพื่อชาติ

🗣️ “โค้ชท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ ยืนยัน! ไม่มีใครรู้กฎนี้มาก่อน

ภายหลังจากกระแสข่าวเริ่มรุนแรงขึ้น “โค้ชท็อป ภควัฒน์ วิไลลักษณ์” อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมผู้ฝึกสอน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า

“ไม่มีใครทราบกฎเรื่องการหักเบี้ยเลี้ยงหากไม่ไปทดสอบร่างกายตามกำหนดมาก่อนเลย นักกีฬาทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมและแข่งขันเพื่อชาติเต็มที่ โดยเฉพาะ ‘เมย์’ กับ ‘วิว’ ที่ในช่วงนั้นมีคิวแข่งขันแน่นมากจนแทบไม่ได้กลับไทย ดังนั้นการหักเงินเพราะเหตุผลนี้ จึงถือว่าไม่ยุติธรรมกับนักกีฬา”

โค้ชท็อปยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่นักกีฬาไม่ได้เข้ารับการทดสอบในช่วงเวลาที่กำหนด ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาละเลยหน้าที่ แต่เป็นเพราะต้องเดินทางแข่งขันแทบทุกสัปดาห์ ทั้งในเอเชียและยุโรป ซึ่งเป็นการแข่งที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเช่นเดียวกัน

 

😔 “หมิว พรปวีณ์” ถอนตัวจากซีเกมส์กลางคัน หลังผิดหวังกับระบบ

ผลพวงจากดราม่าเรื่องนี้ทำให้ “หมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์” นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวอีกหนึ่งความหวังของไทย ตัดสินใจ ถอนตัวจากการแข่งขันซีเกมส์ ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้ โดยให้เหตุผลว่ารู้สึกเสียใจกับการจัดการภายในที่ไม่ชัดเจน และต้องการให้ผู้ใหญ่ในวงการรับฟังเสียงของนักกีฬามากกว่านี้

การประกาศถอนตัวของหมิวสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมาก เพราะเธอถือเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติ และมักคว้าเหรียญให้ไทยได้ในหลายทัวร์นาเมนต์ แฟนกีฬาและเพื่อนนักกีฬาต่างออกมาให้กำลังใจ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางออก

 

🏛️ เข้าพบ “ธรรมนัส” รองนายกฯ เพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง

เมื่อกระแสเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด “หมิว พรปวีณ์” พร้อมด้วย “โค้ชท็อป ภควัฒน์” ได้เข้าพบ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและขอความเป็นธรรม

ผลการพูดคุยเป็นไปในทิศทางที่ดี โดย ร.อ.ธรรมนัส รับปากว่าจะ ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และดูแลให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้นักกีฬาทุกคนกลับมาทุ่มเทเพื่อประเทศอีกครั้ง

หลังการพูดคุย “หมิว พรปวีณ์” จึงประกาศ เปลี่ยนใจกลับมารับใช้ชาติ พร้อมยืนยันว่าจะลงแข่งขันซีเกมส์ในนามทีมชาติไทยอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงปรบมือและกำลังใจจากแฟน ๆ ที่เฝ้ารอคอย

💬 “เมย์ รัชนก” เปิดใจผ่าน IG Story ยืนยัน “ทุกอย่างคือเรื่องจริง”

ท่ามกลางกระแสดราม่า “เมย์ รัชนก อินทนนท์” ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Instagram Story เพื่อชี้แจงมุมของตัวเอง โดยเธอระบุว่า

 “จากดราม่าของวงการแบดมินตัน ทุกอย่างคือเรื่องจริงค่ะ... ช่วงนั้นหนูไปแข่งแทบจะไม่ได้กลับไทยเลย แข่งตั้งแต่รายการมาเลเซียต้นปี จนถึงสิ้นเดือนตอนรายการไทยแลนด์มาสเตอร์ ระหว่างทางหนูดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์อินโดนีเซียได้ อย่างที่ทุกคนทราบ หนูตั้งใจฝึกซ้อมและแข่งขันเต็มที่ แต่ระหว่างนั้นก็อยู่ในช่วงไตรมาสที่ 1 ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งหนูสะดวกจะไปทดสอบหลังแข่งจบทั้งหมด ซึ่งก็เกือบเดือนกุมภาพันธ์เข้าแล้ว...”

เมย์ยอมรับว่า เธอรู้สึกเสียใจและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้มาก่อนว่าจะมีการหักเบี้ยเลี้ยงในกรณีดังกล่าว

“จริง ๆ หนูไม่แฮปปี้กับเรื่องนี้เลยค่ะ เสียใจมาก แต่ก็พยายามเข้าใจ และไม่อยากติดใจอะไร แค่อยากให้ผู้ใหญ่ช่วยพิจารณาอย่างเหมาะสม ทุกอย่างขอให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และขอไม่ตอบอะไรเพิ่มเติมกับแฟน ๆ นะคะ เพราะมีหลายคนถามเข้ามาเยอะมาก ขอบคุณทุกคนที่คอยส่งกำลังใจให้เสมอค่ะ แล้วพบกันในซีเกมส์นะคะ ฝากส่งเสียงเชียร์ดัง ๆ ด้วยนะคะ ❤️”

โพสต์ของเมย์ได้รับการแชร์อย่างรวดเร็วในหมู่แฟนกีฬา หลายคนชื่นชมที่เธอยังรักษาความเป็นมืออาชีพ และพูดด้วยถ้อยคำสุภาพแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่อ่อนไหว

 

📊 วิเคราะห์: ปัญหา “ระบบบริหารจัดการ” มากกว่าเรื่องตัวเงิน

นักวิเคราะห์กีฬาหลายรายมองว่า ปัญหาครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ “ระบบบริหารจัดการ” และ “การสื่อสาร” ภายในองค์กรกีฬา ที่ยังขาดความชัดเจนและความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้บริหารกับนักกีฬา

หลายคนตั้งคำถามว่า หากนักกีฬาอยู่ในช่วงแข่งขันต่างประเทศ การใช้กฎแบบเดียวกับคนที่อยู่ในประเทศอาจไม่เหมาะสม เพราะพวกเขากำลังทำหน้าที่เพื่อชาติอยู่แล้ว การลงโทษในลักษณะหักเงินจึงดูไม่เป็นธรรม และอาจกระทบขวัญกำลังใจในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้มีการ ทบทวนระเบียบและวิธีการสื่อสารภายในสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน และหลีกเลี่ยงการเกิดดราม่าซ้ำในอนาคต

❤️ แฟนกีฬาร่วมให้กำลังใจ “ทีมแบดมินตันไทย” แน่นโซเชียล

หลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป แฟน ๆ แบดมินตันทั้งในไทยและต่างประเทศต่างออกมา ให้กำลังใจนักกีฬา โดยเฉพาะ “เมย์ รัชนก” ที่ยังคงเป็นขวัญใจของแฟน ๆ ทั่วโลก

คอมเมนต์ส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจและชื่นชมในความพยายามของนักกีฬาทุกคนที่ทุ่มเทเพื่อชาติ บางคนถึงกับโพสต์ข้อความว่า

 “เงินแค่ไม่กี่พันไม่สำคัญเท่าความทุ่มเทของพวกเขา”

“อย่าทำให้นักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศต้องเสียใจ”

“หวังว่าผู้ใหญ่ในวงการจะเห็นคุณค่าของความตั้งใจ ไม่ใช่แค่กฎระเบียบ”

กระแสเหล่านี้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มหันมาใส่ใจระบบภายในมากขึ้น

 

🏅 สรุป: บทเรียนจากดราม่าครั้งนี้ – โปร่งใส ยุติธรรม และเห็นหัวใจนักกีฬา

ดราม่าเบี้ยเลี้ยงแบดมินตันครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง “ปัญหาซ้ำซาก” ที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาไทยมานาน ทั้งในแง่ของการสื่อสาร การบริหารจัดการ และความเข้าใจต่อกันระหว่าง “ผู้บริหาร” กับ “ผู้ปฏิบัติ” ซึ่งในที่นี้คือ “นักกีฬา”

นักกีฬาระดับโลกอย่าง “เมย์ รัชนก” และ “วิว กุลวุฒิ” ต่างผ่านการฝึกฝนและแข่งขันอย่างหนักเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ การดูแลพวกเขาด้วยระบบที่ไม่ชัดเจน ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมและบั่นทอนขวัญกำลังใจ

อย่างไรก็ตาม การที่ทุกฝ่ายสามารถเปิดใจพูดคุยกัน โดยมี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการเริ่มต้นแก้ไขอย่างจริงจัง

และท้ายที่สุด สิ่งที่แฟนกีฬาทั้งประเทศอยากเห็นมากที่สุดคือ “ความโปร่งใส ความยุติธรรม และความสามัคคี” ในวงการกีฬาไทย เพราะเมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกัน นักกีฬาก็จะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ และนำความภาคภูมิใจกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง

 

🎯 สรุปประเด็นสำคัญอีกครั้ง

“เมย์ รัชนก” และ “วิว กุลวุฒิ” ถูกหักเบี้ยเลี้ยงเหลือ 6,000 บาท เพราะไม่ไปทดสอบร่างกายตามกำหนด

“โค้ชท็อป” ชี้แจงว่าไม่มีใครทราบกฎนี้มาก่อน และนักกีฬาไม่ได้ละเลย แต่ติดภารกิจแข่งเพื่อชาติ

“หมิว พรปวีณ์” ถอนตัวจากซีเกมส์ ก่อนเปลี่ยนใจหลังได้เข้าพบ “ร.อ.ธรรมนัส”

“เมย์ รัชนก” ยืนยันทุกอย่างคือเรื่องจริง พร้อมขอให้ผู้ใหญ่พิจารณาอย่างโปร่งใส

แฟน ๆ แห่ให้กำลังใจและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนักกีฬา

 

ในตอนนี้บรรยากาศในทีมแบดมินตันไทยเริ่มกลับมาสงบลง นักกีฬาทุกคนเตรียมตัวอย่างเต็มที่เพื่อการแข่งขันซีเกมส์ที่จะมาถึง และแฟนกีฬาทั้งประเทศต่างพร้อมส่งแรงใจให้ทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองกลับมาอีกครั้ง

 💬 “เงินอาจไม่มาก... แต่ศักดิ์ศรีของนักกีฬามีค่ามากกว่า”

คือประโยคที่แฟนกีฬาหลายคนพูดถึงในดราม่าครั้งนี้ — และหวังว่าวงการกีฬาจะไม่ลืมบทเรียนนี้อีกต่อไป

เนื้อหาโดย: bbb1236555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นาซายืนยัน โลกมีดวงจันทร์ที่ 2
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พ่อค้าเขมรยืนหยัด! ขอนอนเฝ้าหน้าด่านอรัญฯ ไม่ยอมกลับบ้าน – “พวกมึงสบาย แต่พวกกูจะอดตายแล้ว”ดราม่าแรง! เทศบาลเชียงใหม่พ่นสีดำตกแต่งดอกไม้ งานยี่เป็ง คนแห่คอมเมนต์ฉะยับจีนเผย "เราไม่ตัดความเป็นไปได้ ในการใช้กำลังกับไต้หวัน!!"ประมวลภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชปฏิสันถาร กับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏานรีวิวหนังดัง IRONMAN มหาประลัยคนเกราะเหล็ก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ตำรวจเขมรจับกุมตำรวจเขมรขณะบุกบ่อนเขมรครม. แต่งตั้ง “ตั๊ก อัยรินทร์” เป็น “รองโฆษกรัฐบาล”จีนเผย "เราไม่ตัดความเป็นไปได้ ในการใช้กำลังกับไต้หวัน!!"ปากีสถานขู่จะกำจัดตาลีบัน หากการเจรจาสันติภาพล้มเหลว
ตั้งกระทู้ใหม่