การเปิดพรมแดนกัมพูชา-ไทย ยังคงเป็นเพียงความหวังที่ห่างไกล

การเปิดพรมแดนกัมพูชา-ไทย ยังคงเป็นเพียงความหวังที่ห่างไกล

     วานนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ "สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว" ของไทย ได้แถลงต่อสื่อมวลชนหลังการลงนามข้อตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า "ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงการเปิดพรมแดน โดยการเปิดพรมแดนจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อกัมพูชาดำเนินการตามเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงทั้งสี่ฉบับก่อน!!"

     วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] นายกรัฐมนตรี "อนุทิน ชาญวีรกูล" ผู้นำของไทย ได้ย้ำจุดยืนดังกล่าวอีกครั้ง พร้อมกล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า "เมื่อคืนที่ผ่านมา กัมพูชาได้เริ่มถอนอาวุธหนัก ซึ่งเป็นเงื่อนไขข้อแรกของข้อตกลง ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก ที่แสดงถึงความพร้อมในการลดความตึงเครียดทางทหาร โดยไทยก็จะดำเนินการถอนกำลังทหารเช่นเดียวกัน เพื่อเปิดทางให้มีพื้นที่สำหรับการเจรจา"

    ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน ได้ออกมากล่าวยืนยันว่า "อาวุธหนักบริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ได้ถูกถอนออกจากจังหวัดเสียมราฐแล้ว ในช่วงเช้าวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น]"

     ขณะนี้ ข้อตกลงอีก 2 ฉบับที่เหลือ "อนุทิน ชาญวีรกูล" กล่าวยอมรับว่า "มีความซับซ้อนและอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะบรรลุผล โดยข้อตกลงฉบับที่ 3 เกี่ยวข้องกับการปราบปราม การฉ้อโกงออนไลน์ ซึ่งไทยกำลังดำเนินมาตรการอย่างรอบด้าน ทั้งการตัดสัญญาณเครือข่าย การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน และ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด" พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชา ให้ความร่วมมือและแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน!!

     ส่วนข้อตกลงฉบับที่ 4 ว่าด้วยการจัดการพื้นที่ทับซ้อนตามแนวชายแดน "อนุทิน ชาญวีรกูล" กล่าวว่า "พื้นที่บางส่วนเป็นของไทย และ บางส่วนเป็นของกัมพูชา โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันจัดหาที่อยู่อาศัย ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในระยะยาว เมื่อภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทยลดลง ความสัมพันธ์ทางการทูต ก็จะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้"

     ทั้งนี้ มีข่าวลือว่าด่านพรมแดนอาจเปิดทำการอีกครั้ง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2025 แต่ "อนุทิน ชาญวีรกูล" ก็ได้ออกมาปฏิเสธ โดยกล่าวย้ำว่า "การเปิดพรมแดนจะขึ้นอยู่กับความจริงใจของทั้ง 2 ประเทศ ในการปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ก่อน"

     ประธานวุฒิสภา สมเด็จ "ฮุน เซน" ของกัมพูชา กล่าวว่า "หากไทยเปิดพรมแดนเมื่อใด กัมพูชาก็พร้อมจะเปิดตามภายใน 5 ชั่วโมง!!"

อ้างอิง : kiripost