ผู้ประกาศข่าวช่องดัง โร่แจ้งความ! ถูกชายปริศนาตามสะกดรอยถึงคอนโดกลางดึก

⚠️ “ปุ๋ย นิรัชญา” ผู้ประกาศข่าว TNN24 โพสต์เตือนภัย! เจอชายลึกลับสะกดรอยตามถึงคอนโด – พูดประโยคชวนขนหัวลุก “พี่ ผมอยาก...กับพี่”

กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความตกใจในโลกออนไลน์อย่างมาก 😨 หลังจาก “ปุ๋ย นิรัชญา หมอนทอง” ผู้ประกาศข่าวสาวชื่อดังจากช่อง TNN24 ได้ออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์สุดระทึกที่เกิดขึ้นกับตนเอง ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อเธอถูกชายแปลกหน้าในคราบพนักงานส่งของสะกดรอยตาม และถึงขั้นพูดจาคุกคามในเชิงล่วงละเมิดทางเพศ จนต้องรีบแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

🕛 จุดเริ่มต้นของเหตุระทึกกลางดึก

เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นในคืนวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 00.37 น.

ปุ๋ยเดินทางไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่าน ลาดพร้าว 42/1 โดยเธอตั้งใจจะซื้อเพียงน้ำอัดลมและน้ำแข็งเล็กน้อยเพื่อกลับบ้านตามปกติ แต่ใครจะรู้ว่าการแวะซื้อของเพียงไม่กี่นาที จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์สะเทือนใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ

ในขณะที่ปุ๋ยกำลังเลือกของอยู่มุมในสุดของร้าน เธอรู้สึกได้ถึงเงาของใครบางคนที่เข้ามาใกล้จากด้านหลัง — ก่อนจะได้ยินเสียงผู้ชายพูดขึ้นเบา ๆ แต่ชัดเจนว่า

 “พี่... ผมอยาก...กับพี่”

เพียงประโยคเดียวนี้ทำให้ปุ๋ยถึงกับช็อกไปชั่วขณะ 😱

เธอรีบหันไปมองและพบว่าเป็น ชายหัวโล้น ใส่ชุดดำทั้งตัว ทำทีเหมือนพนักงานส่งของ ซึ่งพยายามยืนประชิดเธอในระยะอันตราย

 

🚨 ตั้งสติ-ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

ปุ๋ยพยายามตั้งสติให้เร็วที่สุด ก่อนรีบเดินไปหาพนักงานร้านและลูกค้าคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ พร้อมบอกเสียงสั่นว่าเธอถูกคุกคาม เพื่อให้มีคนช่วยจับตาดูสถานการณ์

ชายชุดดำคนนั้นเมื่อเห็นว่ามีคนเริ่มสนใจ กลับทำทีเป็นไม่รู้เรื่องอะไร พยายามถอยห่างออกไป แต่ก็ยังคงยืนอยู่ในร้านโดยไม่ได้เลือกซื้อของใด ๆ จนกระทั่งเห็นว่าปุ๋ยจ่ายเงินเสร็จ เขาจึงรีบวิ่งออกไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งซึ่งจอดอยู่หน้าร้าน — ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และไม่สวมหมวกกันน็อก

โชคดีที่พนักงานและพลเมืองดี 3 คน ได้อาสาเดินไปส่งปุ๋ยถึงรถ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัย ก่อนปุ๋ยจะรีบขับรถออกจากร้านด้วยความกลัวสุดขีด

🏍️ ถูกสะกดรอยตามต่อเนื่องถึงคอนโด

ขณะขับรถออกจากลานจอด ปุ๋ยสังเกตเห็นว่ามี มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งเร่งตามหลังออกมาติด ๆ จังหวะนั้นเธอรู้ได้ทันทีว่า “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” อีกต่อไป ชายคนนั้นตั้งใจจะตามเธอแน่ ๆ

เธอตัดสินใจเลี้ยวเข้าคอนโดแห่งหนึ่งด้วยความตกใจและต้องการหาที่ปลอดภัย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ชายคนเดิมก็เลี้ยวตามเข้ามาเช่นกัน 😰

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ “ลวนลามเฉพาะหน้า” อีกแล้ว แต่เป็น การสะกดรอยตามอย่างมีเจตนา

 

📱 หลักฐานจากกล้องหน้ารถ – ยืนยันชัดเจนว่า “ตามจริง”

หลังจากตั้งสติได้ในคืนนั้น ปุ๋ยรีบโทรหาน้องที่ทำงานซึ่งกลับบ้านทางเดียวกัน เพื่อสอบถามว่าเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่

ไม่นาน น้องคนดังกล่าวได้ส่งคลิปจาก กล้องหน้ารถ มาให้ ซึ่งกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างชัดเจน — ภาพในคลิปแสดงให้เห็นว่า ชายหัวโล้นชุดดำที่ขี่มอเตอร์ไซค์ SKOOTAR (แต่ไม่มีป้ายทะเบียน) ได้เริ่มสะกดรอยตามปุ๋ยมาตั้งแต่บริเวณเส้นเอกมัย ก่อนจะตามเธอมาจนถึงลาดพร้าว!

 

👮‍♀️ ปุ๋ยรวบรวมหลักฐานแจ้งความ – แต่การดำเนินการกลับไม่ง่าย

วันรุ่งขึ้น ปุ๋ยรีบรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งคลิปจากกล้องหน้ารถและภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อเตรียมนำไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของจุดเกิดเหตุ

เธอไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกครั้ง เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิด แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ต้องมีใบแจ้งความก่อนจึงจะเปิดดูได้” และต้องรอผู้จัดการร้านมาดำเนินการในตอนเช้า

เมื่อไปแจ้งความกับตำรวจ ปุ๋ยได้รับคำยืนยันจากพนักงานสอบสวนว่า จะมีชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อเร่งติดตามผู้ก่อเหตุ พร้อมสัญญาว่าจะโทรแจ้งความคืบหน้า

แต่เวลาผ่านไปหนึ่งวันเต็ม... กลับไม่มีสายใด ๆ ติดต่อกลับมาหาเธอเลย

 

🕓 ตามเรื่องเองอีกครั้ง – แต่กลับเจอ “ระบบ” ที่ซับซ้อน

วันที่ 16 ตุลาคม เวลา 15.30 น. ปุ๋ยจึงตัดสินใจไปที่ร้านสะดวกซื้อด้วยตัวเองอีกครั้ง พร้อมใบแจ้งความ เพื่อขอให้เปิดกล้องดูเหตุการณ์

ผู้จัดการสาขาแจ้งว่า “ยังไม่สามารถเปิดให้ดูได้ถ้าไม่มีตำรวจมาด้วย”

ปุ๋ยจึงโทรไปที่ สน.สุทธิสาร เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่มาร่วมดำเนินการ

เมื่อเจ้าหน้าที่สายตรวจมาถึง ผู้จัดการร้านจึงยอมเปิดให้ดูภาพจากกล้อง แต่ยังคงยืนยันว่า “ไม่สามารถบันทึกหรือนำภาพออกไปได้” ต้องให้ตำรวจชุดสืบเป็นผู้ร้องขออย่างเป็นทางการเท่านั้น และห้ามเผยแพร่ต่อสาธารณะ

 

📢 โพสต์เตือนภัยลงเฟซบุ๊ก – กระแสไวรัลทันที

เย็นวันนั้น ปุ๋ยตัดสินใจโพสต์เรื่องราวทั้งหมดลง Facebook ส่วนตัว เพื่อเตือนภัยให้กับผู้หญิงคนอื่น ๆ โดยเฉพาะคนที่อาจต้องขับรถกลับบ้านตอนดึกเพียงลำพัง

โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ⚡

มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาให้กำลังใจ แชร์ต่อ และแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของเธอ ขณะเดียวกันก็มีคนที่อ้างว่า “เคยเห็นชายหัวโล้นชุดดำคนนี้มาก่อน” ส่งข้อมูลและภาพเพิ่มเติมเข้ามาช่วย

😰 คุกคามต่อเนื่อง – มาดักรอถึงหน้าคอนโด!

เรื่องที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดซ้ำ... กลับเกิดขึ้นอีกครั้งในคืนวันที่ 17 ตุลาคม เวลาประมาณ 00.40 น.

หลังเลิกงาน ปุ๋ยขับรถกลับเส้นทางเดิม แต่คราวนี้ เธอสังเกตเห็นว่าชายหัวโล้นชุดดำคนเดิม มาดักรออยู่หน้าคอนโดที่เธอเคยเลี้ยวเข้าในคืนแรก

เขาขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาประชิดรถของเธออีกครั้ง และจอดอยู่ในตำแหน่งเดิมด้านท้ายซ้ายของรถ

ปุ๋ยรู้ทันทีว่าสถานการณ์เริ่มอันตราย จึงรีบขับรถตรงไปที่ สน.สุทธิสาร เพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ พร้อมแจ้งว่าเธอกำลังถูกคุกคามและสะกดรอยตามโดยชายคนเดิม

เจ้าหน้าที่เวรในคืนนั้นรับปากว่าจะส่งชุดสืบสวนติดตามเรื่องโดยเร็ว และได้จัดตำรวจ 2 นายขับรถตามไปส่งเธอถึงที่พัก เพื่อความปลอดภัย

 

🎥 กล้องวงจรปิดยืนยันทุกอย่าง – พฤติกรรมซ้ำซากเป็นปี!

ช่วงสายของวันที่ 17 ตุลาคม ชุดสืบสวนของ สน.สุทธิสาร ได้เริ่มทำงานทันที โดยไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดในหลายจุด ทั้งที่ร้านสะดวกซื้อและบริเวณรอบคอนโด

เมื่อปุ๋ยถูกเรียกไปดูภาพ เธอถึงกับขนลุก เพราะทุกอย่างในคลิป “ชัดเจนจนเถียงไม่ได้” 😨

ชายหัวโล้นคนเดิมได้ สะกดรอยตามปุ๋ยมาหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา และมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกันเกือบทุกครั้ง — ทั้งการยืนดักรอในจุดที่ปุ๋ยมักผ่าน การขี่รถวนดูรอบ ๆ ที่ทำงาน และการพยายามเข้าประชิดตัวในเวลาที่เธออยู่คนเดียว

 

🧩 พยานยืนยัน – เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

หลังจากโพสต์ของปุ๋ยเผยแพร่ไปในวงกว้าง เพื่อนร่วมงานและคนรู้จักหลายคนเริ่มส่งข้อมูลและภาพมาให้ พร้อมยืนยันว่า ชายหัวโล้นคนนี้คือคนเดียวกับที่เคยดักรอปุ๋ยมาตั้งแต่ปี 2567

ก่อนหน้านี้ปุ๋ยยังไม่เคยแจ้งความ เพราะไม่เคยถูกคุกคามในระยะประชิด แต่ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เช่น เวลานั่งคุยโทรศัพท์หน้าสถานี มักจะมีชายคนนี้มานั่งตรงข้ามและจ้องหน้าเธอนิ่ง ๆ จนต้องรีบลุกหนีทุกครั้ง

 

🧍‍♂️ ดักรอทุกวัน – เปลี่ยนจุด เปลี่ยนลุค เพื่อไม่ให้จับได้

มีพยานหลายคนรวมถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารสถานี TNN ยืนยันตรงกันว่า ชายคนนี้มักจะมานั่งอยู่ในบริเวณทางเดินที่ปุ๋ยต้องผ่านทุกวันตอนมาทำงาน

บางวันเขาใส่ชุดดำเต็มตัว บางวันโพกหัว บางวันไม่โพก แต่ลักษณะเดิมคือหัวโล้นและมักทำทีเหมือนพนักงานส่งของหรือคนมารอใครบางคน เพื่อไม่ให้คนสงสัย

ปุ๋ยพยายามหลีกเลี่ยงด้วยการ เปลี่ยนที่จอดรถ เปลี่ยนเส้นทางเดินขึ้นอาคาร แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนอย่างไร ก็ยังคงเห็นชายคนนี้อยู่ใกล้ ๆ ทุกครั้ง

 

💔 ผลกระทบต่อสภาพจิตใจ

แม้จะได้รับความช่วยเหลือและการดูแลจากเพื่อนร่วมงานอย่างดี แต่เหตุการณ์นี้ได้สร้างบาดแผลทางใจให้กับปุ๋ยอย่างหนัก

เธอกล่าวในโพสต์ว่า

 “สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป แม้แต่ตอนอยู่ในพื้นที่ที่ควรจะปลอดภัยที่สุดอย่างบ้านของตัวเอง”

เธอยืนยันว่าได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว — แจ้งความ รวบรวมหลักฐาน ขอความคุ้มครอง และให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เหลือเพียงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกับเธออีก

 

🧠 มุมมองจากสังคม – “เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น”

หลังจากเรื่องราวของปุ๋ยถูกเผยแพร่ ผู้คนจำนวนมากในโลกออนไลน์ต่างออกมาแสดงความเห็น โดยส่วนใหญ่รู้สึก “โกรธและห่วง” ในเวลาเดียวกัน หลายคนชี้ว่า นี่ไม่ใช่แค่การลวนลามธรรมดา แต่เป็นการคุกคามทางเพศและละเมิดสิทธิความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของผู้หญิง

บางคอมเมนต์เขียนว่า

 “ถ้าไม่มีชื่อเสียง คนธรรมดาอาจไม่ได้รับความสนใจขนาดนี้ แต่อยากให้ตำรวจเห็นว่านี่คือภัยอันตรายที่อาจเกิดกับใครก็ได้”

อีกหลายเสียงเรียกร้องให้มีการออกมาตรการคุ้มครองเหยื่อคุกคาม และให้สังคมเลิกเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่ส่งผลลึกถึงจิตใจของผู้ถูกกระทำ

 

🕊️ บทเรียนและคำเตือนถึงผู้หญิงทุกคน

ปุ๋ยสรุปไว้ในตอนท้ายของโพสต์อย่างตรงไปตรงมาว่า

“ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเอง... แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือไม่เงียบ และลุกขึ้นปกป้องตัวเอง”

เธอฝากเตือนผู้หญิงทุกคนว่า หากต้องกลับบ้านคนเดียวตอนกลางคืน ควรระมัดระวังให้มากขึ้น เช่น

พยายามอยู่ในที่มีคนพลุกพล่าน

หลีกเลี่ยงเส้นทางเปลี่ยว

เปิดกล้องหน้ารถหรือเปิดโลเคชันแชร์ให้คนใกล้ชิด

และที่สำคัญ “อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ” เพราะความปลอดภัยของเราสำคัญที่สุด

🔍 ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน

หลังจากปุ๋ยเข้าแจ้งความและส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว ตำรวจได้เริ่มดำเนินการติดตามตัวชายต้องสงสัย โดยมีการขอภาพจากกล้องในหลายพื้นที่ที่คาดว่าเขาจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

แม้ยังไม่มีรายงานว่าชายคนดังกล่าวถูกจับกุมหรือไม่ แต่ทางสถานีตำรวจยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษตามกฎหมาย

 

❤️ ปิดท้ายจากใจของ “ปุ๋ย นิรัชญา”

 “การถูกคุกคาม ไม่ว่าจะรูปแบบไหน มันไม่ใช่เรื่องเล็กค่ะ

มันกระทบต่อความรู้สึกและจิตใจอย่างมาก

ขอให้ผู้หญิงทุกคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้

อย่าเลือกความเงียบ แต่จงเลือกปกป้องตัวเอง”

 

🔔 สรุป: เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าว – แต่มันคือเสียงของผู้หญิงที่ลุกขึ้นสู้

เหตุการณ์ของ “ปุ๋ย นิรัชญา” ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึง ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของผู้หญิงไทย แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า “ภัยใกล้ตัว” อาจเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ แม้แต่ผู้ประกาศข่าวที่มีคนรู้จักทั่วประเทศ

สิ่งที่เธอทำ — การออกมาเล่า การเก็บหลักฐาน การไม่เงียบ — คือก้าวสำคัญที่ทำให้หลายคนกล้าออกมาพูดถึงประสบการณ์คุกคามที่มักถูกมองข้าม