แรงไม่หยุด! คนละครึ่งพลัสยอดพุ่ง 12.5 ล้านสิทธิใน 1 ชั่วโมง 40 นาที เหลืออีกแค่ 7.5 ล้าน!
เปิดวันแรกคึกคัก! “คนละครึ่งพลัส” ทะลุ 12.5 ล้านสิทธิในชั่วโมงแรก Krungthai Care ยืนยันระบบเสถียร เหลืออีก 7.5 ล้านสิทธิให้ลงทะเบียนต่อเนื่อง
วันที่ 20 ตุลาคม 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่ประชาชนทั่วประเทศตั้งตารอคอย หลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งถือเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและส่งเสริมการจับจ่ายในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
เพียงไม่นานหลังจากระบบเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเช้ามืด ผู้คนทั่วประเทศก็เร่งเข้าแอปฯ พร้อมกัน จนติดเทรนด์บนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นคำว่า “ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส” หรือ “แอปเป๋าตังเข้าไม่ได้” ต่างถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย แต่ถึงอย่างนั้น ระบบโดยรวมของธนาคารกรุงไทยก็ยังสามารถรองรับปริมาณผู้เข้าใช้งานจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนแห่ลงทะเบียนแน่น ระบบหน่วงแต่ไม่ล่ม – Krungthai Care เผยยอดล่าสุด 12.5 ล้านสิทธิภายในชั่วโมงแรก
เพียงแค่ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงหลังเปิดให้ลงทะเบียน เมื่อเวลาประมาณ 07.40 น. เพจ Krungthai Care ซึ่งเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงไทย ได้ออกมาโพสต์อัปเดตสถานการณ์อย่างเป็นทางการว่า
“ตอนนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ สำเร็จแล้วกว่า 12.5 ล้านสิทธิ จากทั้งหมด 20 ล้านสิทธิ ยังเหลือสิทธิให้ลงทะเบียนอีกประมาณ 7.5 ล้านสิทธิ ขอให้ประชาชนรีบลงทะเบียนภายในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เวลา 22.00 น.”
โดยมีผู้ใช้จำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าว ทั้งแสดงความดีใจที่ลงทะเบียนได้สำเร็จ รวมถึงบางส่วนที่ยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ โดยระบบแจ้งเตือนว่า “ไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้” หรือ “เกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่ภายหลัง” ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
ขั้นตอนการลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
สำหรับประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ง่าย ๆ ผ่าน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นแอปฯ ที่ใช้สำหรับรับสิทธิและชำระเงินในโครงการของรัฐ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง (Pao Tang) แล้วกดเลือกเมนู “คนละครึ่งพลัส”
2. อ่านรายละเอียดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการให้ครบถ้วน
3. กดยืนยันการเข้าร่วมและกรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ระบบกำหนด เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์
4. ยืนยันรหัส OTP ที่ส่งเข้ามาทาง SMS
5. เมื่อระบบตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อย หน้าจอจะแสดงข้อความว่า “ลงทะเบียนสำเร็จ กำลังรอผลการตรวจสอบ”
6. จากนั้นจะมีการแจ้งผลภายใน 3 วันทำการ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง หรือ SMS
โดยผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
“คนละครึ่งพลัส” แจกเงินเท่าไหร่? ใช้ได้กับร้านแบบไหนบ้าง?
ในรอบนี้ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณรวมกว่า 44,000 ล้านบาท เพื่อมอบสิทธิให้ประชาชนจำนวนไม่เกิน 20 ล้านคน โดยแบ่งการให้สิทธิเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
กลุ่มประชาชนทั่วไป (ไม่อยู่ในระบบภาษี) จะได้รับสิทธิ 2,000 บาท
กลุ่มที่อยู่ในระบบภาษี หรือยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะได้รับสิทธิ 2,400 บาท
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ เช่น ร้านอาหารทั่วไป ร้านกาแฟ ร้านขายของชำ ร้านผลไม้ ร้านธงฟ้า หรือร้านบริการต่าง ๆ ที่มีป้าย “คนละครึ่งพลัส” และรับชำระเงินผ่าน G-Wallet ในแอปฯ เป๋าตัง
เงื่อนไขสำคัญของโครงการ
1. ใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน
2. จำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน 200 บาทต่อวัน
3. รัฐช่วยจ่าย 50% ของยอดซื้อสินค้า (อีก 50% ผู้ใช้ต้องจ่ายเอง)
4. หากไม่ใช้สิทธิภายใน 14 วันนับจากวันที่ได้รับสิทธิ ระบบจะตัดสิทธิออกโดยอัตโนมัติ
5. สิทธิที่เหลือจากวันก่อนหน้า สามารถนำมาทบใช้ในวันถัดไปได้
6. ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือสินค้าผิดกฎหมาย
ทำไม “คนละครึ่งพลัส” ถึงได้รับความนิยมสูง?
โครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2563 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงวิกฤตโควิด-19 และได้ขยายเฟสต่อเนื่องมาหลายรอบ ซึ่งแต่ละรอบได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากประชาชน เพราะถือเป็นโครงการที่ “จับต้องได้จริง” และส่งผลต่อเศรษฐกิจฐานราก
ในครั้งนี้ รัฐบาลจึงเปิดตัว “คนละครึ่งพลัส” ที่ถือเป็นการพัฒนาเวอร์ชันใหม่ โดยเพิ่มวงเงินและปรับกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังมีระบบตรวจสอบคุณสมบัติอัตโนมัติผ่านฐานข้อมูลภาครัฐ เพื่อให้การจัดสรรสิทธิเป็นไปอย่างโปร่งใส
นอกจากนี้ โครงการยังถูกมองว่าเป็น “มาตรการเร่งด่วน” ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวและจับจ่ายของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มร้านค้ารายย่อยและ SMEs ที่จะได้รับประโยชน์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
เสียงสะท้อนจากชาวเน็ต: ดีใจ ลงทะเบียนได้ทัน – บางส่วนยังเข้าไม่ได้
บนโลกออนไลน์ เช่น Twitter (X), Facebook และ TikTok มีการพูดถึงโครงการนี้อย่างแพร่หลาย ภายใต้แฮชแท็ก #คนละครึ่งพลัส โดยส่วนใหญ่แสดงความดีใจที่ลงทะเบียนสำเร็จตั้งแต่เช้า ขณะที่บางส่วนโพสต์ขำ ๆ ว่า “ต้องตื่นตีห้าเพื่อเตรียมลงทะเบียน” หรือ “มือไวใจสั่นกลัวไม่ทันสิทธิ”
บางรายก็โพสต์ภาพหน้าจอที่ขึ้นข้อความว่า “กำลังรอผลการลงทะเบียน” พร้อมตั้งคำถามว่า “ตกลงได้หรือยัง?” ซึ่งต่อมาทาง Krungthai Care ได้ออกมาชี้แจงว่า
“ข้อความดังกล่าวหมายถึงระบบกำลังตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ รอการแจ้งผลภายใน 3 วัน ผ่านแอปฯ เป๋าตัง หรือ SMS”
ทำให้ประชาชนที่ได้รับข้อความนี้ไม่ต้องกังวล เพราะถือว่าการลงทะเบียนได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
ความเห็นจากรัฐบาลและกระทรวงการคลัง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสเป็นหนึ่งในมาตรการหลักที่รัฐบาลมุ่งเน้น เพื่อช่วยให้ประชาชนมีสภาพคล่องในการใช้จ่ายมากขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม
“เราคาดว่าหากโครงการดำเนินไปได้ตามเป้าหมาย จะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 80,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนครึ่ง ถือเป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้อย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ยังมีการยืนยันว่า ระบบการลงทะเบียนของ Krungthai และแอปฯ เป๋าตัง ได้รับการอัปเกรดให้มีความปลอดภัยและรองรับผู้ใช้งานได้มากกว่าช่วงเฟสก่อน ๆ หลายเท่าตัว เพื่อป้องกันปัญหาระบบล่มหรือข้อมูลรั่วไหล
ร้านค้าขานรับยอดขายเพิ่ม – ผู้ประกอบการ SMEs ยิ้มออก
หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลายร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการในรอบก่อนหน้าเริ่มเตรียมพร้อมรับลูกค้าอีกครั้ง โดยร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ คาเฟ่ และร้านขายของชำต่าง ๆ ทั่วประเทศต่างเผยว่า โครงการนี้ช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แม่ค้าในตลาดบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า
“ทุกครั้งที่มีคนละครึ่งยอดขายจะขึ้นเกือบเท่าตัว เพราะลูกค้ากล้าซื้อของเยอะขึ้น มันช่วยทั้งร้านเล็ก ๆ อย่างเราและคนซื้อด้วย”
ในขณะที่ร้านกาแฟรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ก็เผยว่า การที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินเป็น 2,000 – 2,400 บาท ทำให้ลูกค้ามีแรงจูงใจมากขึ้นในการจับจ่าย
บทสรุป: คนละครึ่งพลัสยังคงครองใจประชาชน
แม้จะผ่านมาแล้วหลายเฟส แต่ “คนละครึ่ง” ยังคงเป็นโครงการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดามาตรการช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล เพราะให้ผลประโยชน์ที่ตรงจุด เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้จริง
สำหรับปี 2568 นี้ การเปิดตัว “คนละครึ่งพลัส” ถือเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จเดิม ด้วยการขยายวงเงินและเพิ่มระบบตรวจสอบคุณสมบัติที่ชัดเจนขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
โดยจากตัวเลขล่าสุดภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงหลังเปิดให้ลงทะเบียน ยอดผู้ได้รับสิทธิทะลุ 12.5 ล้านราย แล้ว และคาดว่าจะเต็ม 20 ล้านสิทธิภายในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “ความนิยมของโครงการนี้ยังคงแรงไม่ตก”
📌 สรุปใจความสำคัญสำหรับประชาชน
ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 20 – 26 ตุลาคม 2568
ใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
ไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ หากขึ้นข้อความ “กำลังรอผลการตรวจสอบ”
รอผลได้ผ่าน แอปฯ เป๋าตัง หรือ SMS ภายใน 3 วัน
สิทธิรวม 20 ล้านคน ใช้ได้ทุกวัน 06.00 – 23.00 น.
💬 โครงการคนละครึ่งพลัสครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงปลายปี 2568





















