“โศกนาฏกรรมยามเช้า: เครื่องบินขนส่งสินค้าตกทะเลที่สนามบินฮ่องกง คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ 2 ราย”
“โศกนาฏกรรมยามเช้า: เครื่องบินขนส่งสินค้าตกทะเลที่สนามบินฮ่องกง คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ 2 ราย”
เช้ามืดวันที่ 20 ตุลาคม กลายเป็นวันที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบินของฮ่องกงอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุเครื่องบินขนส่งสินค้าของ Emirates SkyCargo เที่ยวบิน EK9788 หมายเลขทะเบียน TC-ACF ซึ่งเช่าดำเนินการโดย ACT Airlines ของตุรกี ไถลออกนอกรันเวย์ด้านเหนือ (07L) และตกลงไปในทะเลบริเวณปลายรันเวย์ของ สนามบินนานาชาติฮ่องกง ขณะพยายามลงจอดในช่วงเวลาประมาณ 03.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เครื่องบินลำดังกล่าวเป็น Boeing 747-400F รุ่นขนส่งสินค้า ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 32 ปี หลังจากบินออกจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการร่อนลงจอด ส่งผลให้ตัวเครื่องไถลหลุดจากรันเวย์และจมลงในทะเลบางส่วน
แม้ลูกเรือทั้ง 4 คนจะสามารถหนีออกจากเครื่องและได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย แต่โศกนาฏกรรมครั้งนี้คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน 2 ราย คนหนึ่งเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ทีมดับเพลิง นักประดาน้ำ และหน่วยนาวิกโยธินฮ่องกงต้องเร่งเข้าช่วยเหลือท่ามกลางความมืดและสถานการณ์ตึงเครียด
หลังเกิดเหตุ รันเวย์ด้านเหนือของสนามบินถูกปิดชั่วคราวเพื่อการสอบสวนและกู้ซากเครื่องบิน ส่วนรันเวย์อื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ ทำให้การจราจรทางอากาศได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นต้องเบี่ยงเส้นทางการบินขนาดใหญ่ตามที่กังวลในตอนแรก
กรมการบินพลเรือนฮ่องกงยืนยันว่า ได้พบกล่องดำของเครื่องบินแล้ว และจะประสานงานร่วมกับ ACT, Emirates และ Boeing เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงปฏิบัติภารกิจเคลื่อนย้ายซากเครื่องและกู้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์นี้นับเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดของสนามบินฮ่องกง นับตั้งแต่เหตุเครื่องบินชนกันบนรันเวย์เมื่อปี 1994 ที่มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ความสูญเสียในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความสะเทือนใจแก่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงความสำคัญของมาตรการความปลอดภัยในสนามบินที่เป็นจุดเชื่อมสำคัญของโลกใบนี้




















