คดีแยกชิ้นส่วนศพที่หัวซาน ปฏิหาริย์ 30 นาที... ตำรวจจุดธูปไหว้แล้วพบ 'ชิ้นส่วนสุดท้าย'

7 ปีที่แล้ว คดีฆาตกรรมสุดโหดที่รู้จักกันในชื่อ "คดีแยกชิ้นส่วนศพที่หัวซาน ไต้หวัน" (華山分屍案) ยังคงเป็นฝันร้ายที่หลายคนไม่อาจลืมเลือนได้ คดีที่อดีตโค้ชยิงธนู "เฉิน ป๋อเชียน" (陳伯謙) ก่อเหตุสังหารและชำแหละศพนักศึกษาสาว "แซ่เกา" ก่อนจะนำชิ้นส่วนไปทิ้งอำพรางในพื้นที่ห่างไกลอย่าง "เกิ้งจึผิง" (焿子坪) เขตว่านหลี่ นิวไทเป

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการคลี่คลายคดีที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้ ยังมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานเองก็ไม่อาจหาคำอธิบายได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ได้ย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งการค้นหาชิ้นส่วนศพ ซึ่งเป็นภารกิจที่ทั้งกดดันและหดหู่ใจ การค้นหาเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คนร้ายถูกจับกุมและยอมรับสารภาพ พร้อมให้ข้อมูลจุดที่นำชิ้นส่วนไปทิ้ง

"ศพถูกแยกออกเป็นหลายส่วน และถูกใส่ในถุงขยะหลายถุง" เจ้าหน้าที่กล่าว ในแต่ละวัน เจ้าหน้าที่ต้องนำทีมเข้าพื้นที่ป่าเขาที่ยากลำบากในเกิ้งจึผิง เพื่อค้นหาส่วนที่ขาดหายไป

การค้นหาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยากลำบาก ชิ้นส่วนศพถูกค้นพบทยอยกันมาทีละส่วน จนกระทั่งเหลือ "ถุงชิ้นส่วนสุดท้าย" ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ตำรวจไม่สามารถมองข้ามได้ สี่ชั่วโมงเต็ม ทีมค้นหากว่าร้อยนายระดมกำลังพลิกแผ่นดินในพื้นที่ที่คนร้ายระบุ แต่ก็ไม่พบแม้แต่วี่แวว

"เราค้นหาทุกซอกทุกมุม แม้กระทั่งในพงหญ้าและโพรงดิน ทุกคนเริ่มท้อแท้ เพราะเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ และท้องฟ้าเริ่มมืดลง" เจ้าหน้าที่เล่า สถานที่ทิ้งศพอยู่บนภูเขาที่ห่างไกล ความมืดมิดที่กำลังจะมาถึงทำให้การค้นหาแทบเป็นไปไม่ได้

ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและติดขัดนี้เอง เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ดูแลคดีได้เกิดความคิดขึ้นมา

"เราตามหาศพน้องมาหลายวันแล้ว ได้ชิ้นส่วนกลับมาเกือบครบ แต่ก็ยังไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวหรือขอขมาเลย" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวขึ้น ซึ่งนับเป็นความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในไต้หวันมักจะทำในการค้นหาศพหรือผู้สูญหาย

ทันใดนั้น ทีมงานจึงรีบจัดหา ธูปและกระดาษเงินกระดาษทอง (กิมจั๊ว) ขึ้นมาอย่างเร่งด่วน โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสนำทีมจุดธูปและทำพิธีไหว้ ณ บริเวณจุดศูนย์กลางการค้นหา ทุกคนตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ดวงวิญญาณของนักศึกษาสาวแซ่เกานำทางให้การค้นหาสำเร็จ เพื่อให้ร่างของเธอได้กลับคืนสู่ครอบครัวอย่างสมบูรณ์

"มันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก" เจ้าหน้าที่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความประหลาดใจ หลังจากพิธีจุดธูปเสร็จสิ้นลงไปได้เพียง "ครึ่งชั่วโมง" เท่านั้น ทีมค้นหาอีกชุดที่กำลังเดินสำรวจพื้นที่อยู่ก็ได้พบกับ ถุงดำใบสุดท้าย ที่บรรจุชิ้นส่วนที่ขาดหายไป ซ่อนอยู่ใต้พุ่มไม้หนาแน่นในจุดที่มองเห็นได้ยากมาก

การค้นพบในครั้งนี้ทำให้การสอบสวนสามารถปิดคดีลงได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งนำไปสู่การพิจารณาคดีและลงโทษประหารชีวิตคนร้ายเฉิน ป๋อเชียน ในที่สุด แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมานานถึง 7 ปี แต่เรื่องราวการค้นพบศพที่เหมือนมีพลังลึกลับมานำทางหลังการจุดธูปบูชา ก็ยังคงเป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าขานในหมู่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า "ความเร้นลับ" นั้นดำรงอยู่ควบคู่กับ "ความจริง" ในโลกใบนี้เสมอ