จีน–ฝรั่งเศสกระชับสัมพันธ์ ยกระดับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูง ครอบคลุมพลังงาน AI และอวกาศ
จีน–ฝรั่งเศสกระชับสัมพันธ์ ยกระดับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูง ครอบคลุมพลังงาน AI และอวกาศ
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฝรั่งเศสก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง หลังจากการหารือเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูงในกรุงปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองประเทศได้แสดงเจตจำนงร่วมกันที่จะ “ยกระดับความร่วมมือเชิงลึกในหลายด้าน” ตั้งแต่พลังงานนิวเคลียร์พลเรือน เทคโนโลยีอวกาศ ไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความมั่นคงทางอาหาร
นาย เหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้พบกับ นางแคทเธอรีน โกลนีเอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างความร่วมมือในเชิง “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เต็มรูปแบบ” โดยจีนย้ำว่าฝรั่งเศสเป็น “เพื่อนสำคัญในยุโรป” ที่มีจุดยืนอิสระทางการทูต และมีศักยภาพในการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป
ด้านฝรั่งเศสได้แสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการด้านพลังงานสะอาดของจีน รวมถึงการพัฒนา “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นใหม่” ที่ทั้งสองประเทศมีประสบการณ์ร่วมในโครงการก่อนหน้า เช่น การสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในเมืองไท่ซาน และการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยทางพลังงาน
ในประเด็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอวกาศ จีนได้เสนอให้ฝรั่งเศสเข้าร่วมวิจัยร่วมในโครงการ “Smart Earth” และ “Moon Base Vision 2035” เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการสังเกตการณ์ดาวเทียมและระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ซึ่งฝรั่งเศสถือเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ สงครามยูเครน และ ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งจีนแสดงจุดยืนสนับสนุนการเจรจาทางการทูตอย่างสันติ และเรียกร้องให้ฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน “ยุโรปอิสระ” ให้ห่างจากการเมืองแบบแบ่งขั้วของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์มองว่าการกระชับความสัมพันธ์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “ขยายพันธมิตรหลายขั้ว” ของจีน ที่มุ่งสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจตะวันออกและตะวันตก โดยเลือกฝรั่งเศสเป็น “พันธมิตรหลักในยุโรป” เนื่องจากฝรั่งเศสมักมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระจากสหรัฐฯ
ขณะที่ฝ่ายฝรั่งเศสเองก็หวังใช้ความร่วมมือกับจีนเป็นช่องทางในการเสริมบทบาทของยุโรปในเวทีโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และเทคโนโลยี โดยไม่ต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของขั้วอำนาจใดขั้วหนึ่ง
สรุปได้ว่า ความสัมพันธ์จีน–ฝรั่งเศสในปี 2025 กำลังเดินหน้าในแนวทาง “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์สมบูรณ์” ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจโลก จากระบบสองขั้ว ไปสู่โลกหลายขั้วที่มีความร่วมมือหลากหลายมิติ และยืดหยุ่นมากขึ้น






















