แฉ! “ทมอ ระมีส” เจ้าอาวาสวัดคีรีรุกขาราม (ผบ.บีทรูท) เบื้องหลังพระ-ทหารสองหน้า กลางวันถือศีล กลางคืนถือปืน บัญชาการรบแนวชายแดนพระวิหาร
แฉ! “ทมอ ระมีส” เจ้าอาวาสวัดคีรีรุกขาราม (ผบ.บีทรูท) เบื้องหลังพระ-ทหารสองหน้า กลางวันถือศีล กลางคืนถือปืน บัญชาการรบแนวชายแดนพระวิหาร
รายงานพิเศษจากพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดเผยข้อมูลที่กำลังสร้างความฮือฮาในสังคมออนไลน์ เมื่อพบว่า “ทมอ ระมีส” เจ้าอาวาสวัดคีรีรุกขาราม จังหวัดพระวิหาร ของกัมพูชา ซึ่งเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ในท้องถิ่น ได้ถูกระบุว่าเป็นบุคคลเดียวกับ “ผู้บัญชาการบีทรูท” (Beetroot Commander) — หนึ่งในแกนนำกองกำลังทหารบ้านของกัมพูชา ที่มีบทบาทสำคัญในการบัญชาการปฏิบัติการรบในพื้นที่พิพาทบริเวณเขาพระวิหารในช่วงที่ผ่านมา
“พระนักรบ” กลางวันถือศีล กลางคืนถือ ว. และปืน
ข้อมูลจากแหล่งข่าวความมั่นคงชายแดนไทยเผยว่า “ทมอ ระมีส” มีพฤติกรรมสองหน้าอย่างชัดเจน — กลางวันทำหน้าที่เป็นพระภิกษุในวัดคีรีรุกขาราม ทำพิธีกรรมและรับญาติโยม ส่วน กลางคืนกลับเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้บัญชาการทหารบ้าน ที่คอยวางกำลังพลรอบวัด และใช้พื้นที่ภายในวัดเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเคลื่อนไหวทางทหาร
มีรายงานว่าเขาพกเครื่องวิทยุสื่อสาร (“วิทยุ ว.”) ติดตัวถึง 2–3 เครื่อง และมักสื่อสารกับกำลังทหารในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้รหัสทางทหารที่สื่อถึงการปฏิบัติการในแนวชายแดน
วัดกลายเป็นฐานบัญชาการ
จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ พบว่า บริเวณวัดคีรีรุกขารามมีการวางกำลังพลกัมพูชาจำนวนมาก ทั้งในเครื่องแบบทหารและในชุดลำลอง โดยมีการใช้วัดเป็นจุดพักกำลัง อาวุธบางส่วนถูกเก็บไว้ในอาคารชั้นล่างของวัด ขณะที่ด้านบนยังคงเปิดเป็นพื้นที่ทำบุญและสักการะตามปกติ
“กลางวันดูเหมือนพระธรรมดา แต่พอตกกลางคืน จะเห็นมีทหารเข้าออกในวัด และมีเสียงวิทยุติดต่อกันทั้งคืน”
ชาวบ้านฝั่งชายแดนไทยให้ข้อมูล
ร่องรอยการบัญชาการรบ “แนวพระวิหาร”
รายงานข่าวระบุว่า “ผบ.บีทรูท” ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นบุคคลเดียวกับ “ทมอ ระมีส” มีบทบาทสำคัญในการบัญชาการกองกำลังทหารบ้านอีแตะ (E-Tae Militia) ในการปะทะกับฝ่ายไทยช่วงเหตุการณ์ตึงเครียดชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหารก่อนหน้านี้ โดยมีการส่งสัญญาณสั่งการจากพื้นที่วัดคีรีรุกขารามไปยังแนวหน้า
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองบางส่วนเชื่อว่า “ผบ.บีทรูท” คือผู้ที่คอยประสานข้อมูลกับกองกำลังของกัมพูชาฝั่งเมืองพระวิหาร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์หลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา
ส่อผิดหลักศาสนา-ใช้ศาสนสถานเป็นพื้นที่ทหาร
ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาและความมั่นคงมองว่า พฤติกรรมของ “ทมอ ระมีส” เป็นเรื่องร้ายแรง เพราะ เป็นการใช้วัด — ซึ่งควรเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา — เป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งขัดต่อหลักพระธรรมวินัยและหลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองศาสนสถานในเขตขัดแย้ง
“นี่ไม่ใช่เพียงการละเมิดหลักสงฆ์ แต่เป็นการบิดเบือนศาสนาเพื่อผลทางการเมืองและการทหาร ซึ่งอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามหากพิสูจน์ได้”
— นักวิชาการด้านศาสนาในกรุงเทพฯ ให้ความเห็น
ไทยจับตาใกล้ชิด
ฝ่ายความมั่นคงของไทยยืนยันว่าได้รับรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของ “ทมอ ระมีส” แล้ว และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวรอบวัดคีรีรุกขารามที่อยู่ห่างจากชายแดนไทยเพียงไม่กี่กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า
“หากข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริง จะต้องมีการหารือผ่านช่องทางทางการทูต เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และอาจกระทบต่อเสถียรภาพชายแดน”
กรณี “ทมอ ระมีส” หรือ “ผบ.บีทรูท” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการซ้อนทับระหว่างศาสนาและการเมืองในกัมพูชา ที่กำลังสร้างความกังวลต่อเสถียรภาพของภูมิภาค เพราะเมื่อศาสนสถานถูกใช้เป็นฐานทหาร — เส้นแบ่งระหว่าง “พระ” กับ “นักรบ” ก็แทบไม่เหลืออยู่เลย






















