รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงานการกุศล เพื่อสมทบทุนชำระหนี้คงค้าง ซ่อมแซมศูนย์อบรมศาสนาและจริยธรรม ประจำมัสยิดอันซอรุลอิสลาม
วันนี้ 18 ต.ค.68 เวลา 19.00 น. นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายณัฏฐ์นน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา เขต 7 ดร.ซาการียา สะอิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 4 เดินทางมายัง มัสยิดอันซอรุลอิสลาม (บ้านตะเคียนเภา) หมู่ที่ 4 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานการกุศลเพื่อสมทบทุนชำระหนี้คงค้าง และซ่อมแซมศูนย์อบรมศาสนาและจริยธรรมประจำมัสยิดอันซอรุลอิสลาม โดยมี นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางศศิเพ็ญ ละม้ายพันธุ์ วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ นายหมัดยูโส๊บ หรับจันทร์ อิหม่ามประจำมัสยิดฯ และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ก่อนพิธีเปิดได้รับชมการแสดงลิเกฮูลู ของนักเรียนโรงเรียนอรุณศาสน์วิทยามูลนิธิ (ปอเนาะควนโต๊ะซัม)
จากนั้น นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ขึ้นกล่าวต้อนรับ โดยกล่าวว่า มัสยิดอันซอรุลอิสลาม ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและจิตใจของพี่น้องมุสลิม ในพื้นที่ เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจและยังเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมการศึกษา ด้านศาสนาการอบรมคุณธรรมและจริยธรรมแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีบทบาทสําคัญในการปลูกฝังศรัทธาสร้างความดีงาม และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมของอําเภอสะเดา การที่ท่านรัฐมนตรีได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการกุศลครั้งนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใย และเอาใจใส่ของกระทรวงวัฒนธรรม ที่ให้ความสําคัญต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา และการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสังคม ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงของการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ
ในพิธีเปิด นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติมาเป็นประธานเปิดงานการกุศลของมัสยิดอัลซอรุลอิสลาม (บ้านตะเคียนเภา) ขอชื่นชมในความร่วมแรงร่วมใจ และความมุ่งมั่นของคณะกรรมการมัสยิดและพี่น้องทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมอันทรงคุณค่าในครั้งนี้ เพราะนี่ไม่ใช่เพียงการจัดงานเท่านั้น หากแต่เป็นการแสดงออกถึง ความอิคลาศ ความสามัคคี และความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมที่สงบสุขและเข้มแข็ง เพื่อธำรงไว้ซึ่งการศึกษาและการดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนอิสลาม อันจะเป็นรากฐานที่มั่นคง ให้แก่สังคมในระยะยาว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานีในวันนี้ว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทุนทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ามากมาย วันนี้ได้ไปดูพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ของจังหวัดนราธิวาส ต่อด้วยโบราณสถานยะรัง ที่จังหวัดปัตตานี เห็นว่ากระทรวงวัฒนธรรมมีความกระตือรือร้นที่จะขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน มีเป้าประสงค์จะเร่งเปิดพื้นที่ให้พี่น้องประชาชน เปิดพิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ซึ่งตอนนี้มีความพร้อมเกือบ 100% ที่ให้บริการทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เรามีคัมภีร์อัลกุรอาน อายุ 1,000 กว่าปี ซึ่งมีคุณค่ามาก ถือเป็นหนึ่งใน 5 ของโลก หากเปิดได้ก็จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้และเศรษฐกิจ มั่นใจว่าโบราณสถาณต่าง ๆ มีความสวยงามและทรงคุณค่า กระทรวงก็จะเร่งให้กรมศิลป์เข้าไปดูแลและผลักดันให้เป็นมรดกโลกต่อไป
นอกจากนี้ยังกล่าวให้กำลังใจพี่น้องมุสลิมว่า อยากให้พี่น้องมุสลิมได้มีโอกาสไปกระทำฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยจะพยายามดูแลเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปฮัจญ์ และแก้ปัญหาการผูกขาดเรื่องสายการบินที่ปัจจุบัน มีเพียงสายการบินเดียวให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเป็นทางเลือกในการตัดสินใจ ส่วนศาสนาอื่น ๆ ทุกศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ก็พร้อมจะดูแลและสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นกัน
ภายหลังพิธีเปิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมของมัสยิด อิหม่ามประจำมัสยิดมอบผ้าบาติกเป็นของที่ระลึก ก่อนลงจากเวทีเพื่อเยี่ยมชมการสาธิตการทำขนมจาก ซึ่งเป็นขนมพื้นถิ่นภาคใต้ ต่อด้วยเข้าเยี่ยมชมมัสยิดอันซอรุลอิสลาม และเซ็นสมุดเยี่ยม
สำหรับมัสยิดอันซอรุลอิสลาม (บ้านตะเคียนเภา) ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จดทะเบียนมัสยิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2507 ในปี พ.ศ. 2561 ได้ดำเนินจัดตั้งศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิด (ศอม.) ตามระเบียบกรมการศาสนา ว่าด้วยศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิด พ.ศ.2553 โดยได้รับอนุญาตให้จัดตั้งศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิด ทะเบียน เลขที่ สข 1/2561 อนุญาต ณ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปี 9 เดือน
หลักสูตรที่ใช้ในการอบรม เป็นหลักสูตรการศึกษาศาสนาอิสลามภาคบังคับระดับพื้นฐาน (ฟัรดูอีน) ฮ.ศ. 1423 (พ.ศ. 2545) ของสมาคมคุรุสัมพันธ์ จัดการเรียนในวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น. มีผู้เรียนอายุ 6 – 15 ปี จำนวน 60 คน มีครูผู้สอนจำนวน 4 คน โดยในปีการศึกษา 2567 ที่ผ่านมาได้รับเงินอุดหนุนในการดำเนินงานศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิด จากกรมการศาสนา จำนวน 9,400 บาท, เงินของมัสยิด จำนวน 64,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 73,600 บาท..//













