องค์กรภาคประชาสังคม CSO แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้
องค์กรภาคประชาสังคม CSO แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้
สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 องค์กรภาคประชาสังคม CSO ชายแดนใต้ ประกอบด้วย สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา, มูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (มูลนิธิ สกพ.), สมาคมฟ้าใสส่งเสริมสุขภาวะเด็กและเยาวชนชายแดนใต้, เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (B4P), ต้นกล้าพันธุ์ใหม่ และชมรมสร้างเสริมศักยภาพเพื่อเพื่อนคนพิการ ร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ขึ้น ตามรายรายละเอียดนี้
แถลงการณ์
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา, มูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (มูลนิธิ สกพ.), สมาคมฟ้าใสส่งเสริมสุขภาวะเด็กและเยาวชนชายแดนใต้, เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (B4P), ต้นกล้าพันธุ์ใหม่ และชมรมสร้างเสริมศักยภาพเพื่อเพื่อนคนพิการ
เรื่อง ประณามการใช้ความรุนแรงที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา และองค์กรร่วม ขอแสดงการประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายหรือส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ เหตุการณ์เหล่านี้ ได้แก่ การปล้นร้านทองห้างบิ๊กซี อำเภอสุไหงโกลก, การระเบิดตู้ ATM หน้ามหาวิทยาลัยฟาฎอยนี, การระเบิดหน้าศูนย์เยาวชนซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสมโภชเรือพระซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทยพุทธ, เหตุระเบิดก่อกวนภายในสวนขวัญเมือง เทศบาลนครยะลา, เหตุระเบิดหน้าร้านน้ำชา ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ นราธิวาสพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 6 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย รวมถึงความพยายามในการก่อเหตุวางระเบิดหน้าโรงเรียนบ้านยานิง อำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส (ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้) ถึงแม้จะเป็นช่วงวันหยุดปิดเทอมของนักเรียนก็ตาม
เหตุการณ์ความรุนแรงและการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการ ละเมิดหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง
สมาคมฯ เห็นว่าการกระทำที่มุ่งเป้าหรือสร้างความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่สาธารณะ ย่านชุมชน แหล่งประกอบอาชีพ หรือในช่วงเวลาทางวัฒนธรรม เช่น ตลาด ร้านค้า โรงเรียน หรือเส้นทางชุมชน ถือเป็นอาชญากรรมที่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าจะมาจากการกระทำของกลุ่มใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และความขัดแย้งเหล่านี้
การละเมิดหลักการสากล
การก่อเหตุที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือนเหล่านี้ เป็นการฝ่าฝืนหลักการสำคัญระดับสากล ได้แก่ หลักการแยกแยะระหว่างพลเรือนกับฝ่ายสู้รบ พลเรือนต้องไม่ถูกเลือกเป็นเป้าหมายของการโจมตีไม่ว่าในสถานการณ์ใด
หลักความได้สัดส่วน การกระทำใด ๆ ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพลเรือนเกินกว่าความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ ซึ่งในหลายกรณี การมุ่งเป้าไปที่พลเรือนคือการขาดสัดส่วนโดยสิ้นเชิง
หลักการคุ้มครองชีวิตและศักดิ์ศรีของประชาชน ชีวิตของประชาชนไม่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแสดงอำนาจ เรียกร้อง หรือโต้ตอบใด ๆ
ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา และองค์กรร่วม ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในทันที ดังนี้
ยุติความรุนแรงต่อพลเรือนและปกป้องพื้นที่ปลอดภัย รัฐต้องใช้มาตรการสูงสุดในการปกป้องคุ้มครองพลเรือน และ คืน "พื้นที่ปลอดภัย" ให้แก่ประชาชนอย่างเร่งด่วน
นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อ ติดตามและนำตัวผู้ก่อเหตุที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมาจากกลุ่มใดก็ตาม
ยึดมั่นในมาตรฐานสิทธิมนุษยชน เน้นย้ำให้ทุกการปฏิบัติการของฝ่ายรัฐต้องเป็นไปตามมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการละเลยหรือการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือนโดยฝ่ายรัฐเอง
นำประเด็นคุ้มครองพลเรือนเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ กำหนดให้การคุ้มครองพลเรือน และการยอมรับร่วมกันว่าการก่อเหตุที่กระทบประชาชนคือ “เส้นแดง” เป็นวาระสำคัญและต้องมีข้อตกลงร่วมในโต๊ะพูดคุยสันติภาพอย่างชัดเจน
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา และองค์กรร่วม คือ "ไม่ว่าฝ่ายใด หากใช้ความรุนแรงที่กระทบต่อพลเรือน ย่อมละเมิดทั้งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลักสิทธิมนุษยชน และมาตรฐานมนุษยธรรมระหว่างประเทศ" การสร้างสันติภาพที่แท้จริงจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากชีวิตประชาชนยังถูกคุกคามเป็นเดิมพัน
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา และองค์กรร่วม พร้อมเดินหน้าทำงานกับทุกฝ่ายเพื่อยุติวงจรความรุนแรง และสร้างกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ตั้งอยู่บนความยุติธรรม ความปลอดภัย และศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (PDA)
มูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (มูลนิธิ สกพ.)
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (B4P)
ต้นกล้าพันธุ์ใหม่
ชมรมสร้างเสริมศักยภาพเพื่อเพื่อนคนพิการ
วันที่ 16 ตุลาคม 2568





















