“คำพูดคนระดับ ส.ว. นักสิทธิฯ ที่สวนทางกันเอง” – กรณี “อังคณา” กับประเด็น F-16 ของไทย
“คำพูดคนระดับ ส.ว. นักสิทธิฯ ที่สวนทางกันเอง” – กรณี “อังคณา” กับประเด็น F-16 ของไทย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อของ นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา และนักสิทธิมนุษยชนที่มีชื่อเสียง ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังจากมีการให้สัมภาษณ์และโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งประเด็นที่ถูกจับตาคือ “การใช้เครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพไทย”
ก่อนหน้านี้ อังคณาเคยให้ข้อมูลในทำนองว่า “ไทยใช้ F-16 โจมตีเขมร จนกัมพูชาได้รับความเสียหายไม่น้อย” ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะข้อมูลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับรายงานทางการของฝ่ายความมั่นคง และอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศในเวทีระหว่างประเทศ
แต่ล่าสุด เธอกลับออกมาระบุว่า “การที่กองทัพไทยใช้ F-16 เป็นไปอย่างได้สัดส่วน เพราะอยู่ในภาวะสงคราม” — ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ความย้อนแย้งในถ้อยคำของ ส.ว. และนักสิทธิมนุษยชนระดับประเทศ เช่นนี้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึง “ความน่าเชื่อถือ” และ “ความรับผิดชอบทางวาทกรรม” ของบุคคลที่มีสถานะทางการเมืองสูง เพราะถ้อยคำของเธออาจถูกนำไปขยายผลทางการเมือง หรือถูกใช้เป็นเครื่องมือบิดเบือนข้อเท็จจริงในระดับระหว่างประเทศได้
ในภาวะที่สถานการณ์ชายแดนยังตึงเครียด เสียงจากผู้มีตำแหน่งระดับ ส.ว. จึงควรยึดหลัก “ข้อเท็จจริง” มากกว่าความเห็นส่วนตัวหรืออารมณ์ส่วนบุคคล การสื่อสารอย่างรอบคอบเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในสังคม หรือกลายเป็นช่องให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปใช้สร้างความเสียหายต่อประเทศ
กรณีนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า “คำพูดของคนระดับผู้นำ” มีน้ำหนักมากกว่าที่คิด — และเมื่อพูดแล้วต้องรับผิดชอบต่อทุกคำ เพราะในยุคแห่งข้อมูลที่แพร่กระจายรวดเร็ว ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลใหญ่ต่อทั้งประเทศได้






















