โศกนาฏกรรม “อาร์โก ปราเซทโย” หนุ่มอินโดนีเซียวัย 25 ปี ถูกทำร้ายเสียชีวิตในกัมพูชา — ครอบครัวร่ำไห้ยังไร้คำตอบ
โศกนาฏกรรม “อาร์โก ปราเซทโย” หนุ่มอินโดนีเซียวัย 25 ปี ถูกทำร้ายเสียชีวิตในกัมพูชา — ครอบครัวร่ำไห้ยังไร้คำตอบ
เรื่องราวของ อาร์โก ปราเซทโย (Argo Prasetyo) หนุ่มวัย 25 ปี ชาวเมืองเมดัน จังหวัดสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย กำลังกลายเป็นประเด็นสะเทือนใจในประเทศบ้านเกิด หลังเขาเดินทางไปทำงานในกัมพูชาเพียงไม่กี่เดือน ก่อนถูกทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา
จุดเริ่มต้นของความฝันที่กลายเป็นฝันร้าย
อาร์โก เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว มีน้องอีกสามคน เขาทำงานเป็นแคชเชียร์ในมินิมาร์ทแห่งหนึ่งในเมืองเมดัน แต่ด้วยรายได้ที่ไม่เพียงพอและภาระดูแลครอบครัว เขาจึงตัดสินใจ ลาออกจากงานและเดินทางไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา
เขาออกเดินทางเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 โดยใช้ วีซ่าท่องเที่ยว และไม่ได้บอกครอบครัวล่วงหน้า ตัวแทนจัดหางานในอินโดนีเซียสัญญาว่าจะจัดหางานในร้านอาหารที่พนมเปญให้ พร้อมเสนอรายได้ที่ดีกว่าที่บ้านเกิด
เมื่อถึงพนมเปญ อาร์โกยังคงติดต่อกับครอบครัวอยู่เป็นระยะ แต่ไม่นานนัก การติดต่อก็เริ่มห่างหายไป และในที่สุดครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีกเลย
ข่าวร้ายที่ครอบครัวไม่เคยคาดคิด
วันที่ 29 กันยายน 2568 น้องสาวของอาร์โก ได้รับภาพจากบุคคลนิรนาม เป็นรูปของชายหนุ่มหน้าตาคล้ายพี่ชาย — ใบหน้าบวมช้ำ มีร่องรอยบาดแผลทั่วร่าง โดยผู้ส่งภาพอ้างว่า “ชายคนนี้ถูกพบอยู่บนถนนในพนมเปญ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยพลเมืองเวียดนาม”
ครอบครัวพยายามติดตามข้อมูลอย่างเร่งด่วน แต่เพียงวันรุ่งขึ้น — 30 กันยายน ก็ได้รับข่าวช็อกว่า อาร์โกเสียชีวิตแล้ว
น้องสาวของเขา “เอกา ปราเสตยา” วัย 22 ปี ถึงกับร่ำไห้แทบขาดใจ เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า
“พี่ชายของฉันไปเพียงเพื่อหาเงินดูแลครอบครัว แต่กลับต้องตายอย่างทรมานในต่างแดน โดยไม่มีใครรับผิดชอบเลย”
ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรม และขอนำร่างกลับบ้าน
หลังทราบข่าว ครอบครัวได้เข้าร้องเรียนต่อ ศูนย์บริการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติอินโดนีเซีย (BP3MI) ประจำจังหวัดสุมาตราเหนือ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เพื่อขอความช่วยเหลือในการนำร่างของอาร์โกกลับประเทศ
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานใด ทั้งในส่วนของ กระบวนการสอบสวนการเสียชีวิต หรือการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งศพกลับบ้าน
ทางสถานทูตอินโดนีเซียในพนมเปญยืนยันว่า “ร่างของอาร์โกยังถูกเก็บรักษาไว้ในกรุงพนมเปญ” แต่ครอบครัวยังไม่ทราบว่าจะสามารถนำกลับได้เมื่อใด
ค่าใช้จ่ายในการส่งร่างกลับเมดันสูงถึง 8,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 140 ล้านรูเปียห์) ซึ่งครอบครัวไม่สามารถจ่ายได้ และบริษัทที่เขาทำงานอยู่ในกัมพูชาก็ ปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือ
ปัญหาที่ลุกลาม – ชาวอินโดนีเซียตกเป็นเหยื่อในกัมพูชามากขึ้น
รายงานจากหน่วยงานคุ้มครองแรงงานระบุว่า ในปี 2568 เพียงปีเดียว มี ชาวอินโดนีเซียจากสุมาตราเหนือเสียชีวิตในกัมพูชาแล้วอย่างน้อย 7 ราย และเชื่อว่ายังมีจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการรายงาน
เหยื่อเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกล่อลวงด้วย งานปลอม ในกัมพูชา แต่แท้จริงแล้วถูกบังคับให้ทำงานใน เครือข่ายค้ามนุษย์และการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย หลายรายถูกทำร้าย รุมซ้อม หรือเสียชีวิตในสภาพน่าสลด
เสียงเรียกร้องจากประชาชน
ในโลกออนไลน์ของอินโดนีเซีย มีกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลออกมา ทวงความยุติธรรมให้อาร์โก ปราเซทโย และเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือคนงานอินโดนีเซียในกัมพูชาอย่างจริงจัง
ประชาชนต่างแชร์แฮชแท็ก #JusticeForArgo และ #BawaPulangArgo (“พาอาร์โกกลับบ้าน”) เพื่อกดดันให้ทางการอินโดนีเซียและกัมพูชาร่วมกันตรวจสอบความจริง
---
ปิดฉากชีวิตของหนุ่มผู้มีแต่ความหวัง
เรื่องราวของ “อาร์โก ปราเซทโย” เป็นเพียงหนึ่งในหลายร้อยชีวิตของแรงงานที่ถูกหลอกให้ไปทำงานต่างประเทศด้วยความฝันอันเลือนราง แต่กลับต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าในเงามืดของขบวนการค้ามนุษย์
ทุกวันนี้ ครอบครัวของอาร์โกยังคงรอคอย — ทั้ง “ร่างของเขา” และ “ความยุติธรรม” ที่ยังมาไม่ถึง






















