เจนนี่ เปิดตัว Live Market Festival โปรเจคยักษ์ ไลฟ์สดทั่วไทย ปีหน้า!
🌟 "เจนนี่ ได้หมด ถ้าสดชื่น" เปิดโปรเจกต์ยักษ์ "Live Market Festival" ทัวร์ 5 ภาค เปิดโอกาสสินค้าท้องถิ่นขายฟรี พร้อมการันตีรางวัล 1 ล้านบาท
วงการขายของออนไลน์เมืองไทยสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ หรือที่รู้จักกันในนาม เจนนี่ ได้หมด ถ้าสดชื่น ประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ยักษ์ส่งท้ายปีที่คาดว่าจะกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดไลฟ์สดในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ "Live Market Festival by มิวเจน" ซึ่งเป็นเทศกาลมหกรรมไลฟ์สดขนาดใหญ่ที่เดินสายจัดงาน 5 รอบใน 5 จังหวัดทั่วประเทศ
เจนนี่ระบุว่า จุดประสงค์หลักของโปรเจกต์นี้คือ การรวมสุดยอดนักไลฟ์สดจากหลายแบรนด์และหลายระดับเข้ามาไว้ในงานเดียว และยกระดับการไลฟ์สดให้กลายเป็น เทศกาลมหกรรมระดับประเทศ ที่ผู้เข้าร่วมสามารถสร้างยอดขายและสร้างโอกาสให้สินค้าของตนเองได้อย่างแท้จริง
🎯 แนวคิดและโครงสร้างของโปรเจกต์
โปรเจกต์ Live Market Festival จะจัดเป็น ไลฟ์สดมาราธอนยาว 12 วันต่อจังหวัด โดยเริ่มต้นจาก ภาคกลางเป็นที่แรก ในเดือนมกราคม 2569 ซึ่งเจนนี่และสามี ยิว ฉัตรมงคล จะเข้ามาช่วยไลฟ์สดให้กับบูธต่างๆ อย่างน้อย 2 รอบต่อวัน เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชม
นอกจากนี้ โปรเจกต์ยังมี แนวคิดการสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นและแบรนด์เล็ก โดยจัดสรรพื้นที่ ฟรีให้ 100 บูธต่อจังหวัด สำหรับสินค้าแบรนด์เล็ก ภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือสินค้าท้องถิ่นที่ต้องการโอกาสในการโปรโมตสินค้าและเข้าถึงตลาดออนไลน์ในวงกว้าง
💰 เงื่อนไขการเข้าร่วมและการลงทุน
สำหรับแบรนด์หรือผู้ค้าออนไลน์ที่ต้องการ เช่าบูธ ภายในเทศกาลนี้ ราคาค่าบูธอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อบูธ แต่ความพิเศษของโปรเจกต์นี้คือ เจนนี่และทีมจะ การันตีความคุ้มค่า โดยระบุว่า หากยอดขายในรอบไลฟ์สด 5 แสนต่อรอบถือว่าคุ้มทุน ส่วนการไลฟ์มาราธอน 12 วันที่เหลือคือ กำไรแท้จริง
โปรเจกต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากแบรนด์ใหญ่หลายราย เช่น
หมอของขวัญ เป็นผู้จองบูธเจ้าแรก
เถ้าแก่น้อย ทุ่มเงินกว่า 10 ล้านบาทเพื่อเช่าบูธตลอดทั้ง 5 ภาค
นอกจากบูธแบรนด์ใหญ่แล้ว การเปิดพื้นที่ให้ สินค้าแบรนด์เล็กและชุมชนท้องถิ่นขายฟรี ถือเป็นการสร้างสมดุลและโอกาสให้กับผู้ค้าออนไลน์รายย่อย รวมถึงกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ชมที่สนใจสินค้าหลากหลาย
🏆 รางวัลและการันตีสำหรับผู้เข้าร่วม
หนึ่งในจุดเด่นของโปรเจกต์คือ การมอบรางวัลที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วม โดยรางวัลแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก
1. บูธที่มียอดขายสูงสุด จะได้รับรางวัล สุดยอดนักขาย ซึ่งถือเป็นการยกย่องและสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ประกอบการ
2. บูธที่มียอดขายต่ำที่สุด ก็จะได้รับ เงินรางวัลปลอบใจ 1 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจและลดความกังวลว่าอาจขาดทุนจากการเข้าร่วมงาน
นี่ถือเป็นการ การันตีว่าทุกคนจะไม่ขาดทุนจากการเข้าร่วมเทศกาล และยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทุกระดับกล้าที่จะเข้ามาร่วมงาน โดยไม่กลัวความเสี่ยงด้านการลงทุน
🌐 ผลกระทบต่อวงการขายของออนไลน์ไทย
โปรเจกต์ Live Market Festival ถือว่า พลิกโฉมวงการขายของออนไลน์ เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการรวม นักไลฟ์สดชื่อดังและแบรนด์เล็กเข้าด้วยกัน พร้อมการสนับสนุนด้านพื้นที่และการโฆษณาแบบครบวงจร
สร้างโอกาสให้แบรนด์เล็ก เข้าถึงตลาดและผู้บริโภคจำนวนมาก
เพิ่มยอดขายและกระตุ้นรายได้ ให้กับแบรนด์ใหญ่และแบรนด์ท้องถิ่น
ยกระดับการตลาดไลฟ์สด ให้กลายเป็นกิจกรรมที่มีความยิ่งใหญ่และเป็นเทศกาลระดับประเทศ
สร้าง Engagement และ Awareness กับผู้บริโภคและชุมชนออนไลน์
นอกจากนี้ การที่เจนนี่และสามีเข้ามาช่วยไลฟ์สดให้กับบูธต่างๆ ยังถือเป็น กลยุทธ์สร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์กับลูกค้า ให้ผู้ซื้อมั่นใจในสินค้าและบริการ
📈 การตลาดเชิงกลยุทธ์และความยั่งยืน
การจัดงานไลฟ์มาราธอนยาว 12 วันต่อจังหวัดเป็น กลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาด เพราะ
1. สร้างกระแสต่อเนื่อง ให้ผู้ชมติดตามตลอดช่วงเวลา
2. เพิ่มโอกาสการขาย ในแต่ละรอบไลฟ์สด
3. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ผ่านการมีส่วนร่วมและกิจกรรมสนุกสนาน
4. โปรโมตสินค้าหลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะแบรนด์ใหญ่ แต่ยังสนับสนุนผู้ค้ารายย่อยและสินค้า Local
สิ่งนี้ถือว่าเป็น โมเดลธุรกิจไลฟ์สดแบบเทศกาล ที่สามารถนำไปปรับใช้ในอนาคตสำหรับธุรกิจออนไลน์ทุกขนาด
🤝 ความร่วมมือและการสนับสนุน
โปรเจกต์ Live Market Festival ยังได้รับการสนับสนุนจาก B-QUIK เป็น Main Sponsor ซึ่งช่วยให้มีการจัดงานที่มีมาตรฐานสูง พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าร่วม
นอกจากนี้ยังมี ทีมงานมืออาชีพและนักไลฟ์สดชื่อดัง มาร่วมช่วยเหลือในการโปรโมตสินค้าและสร้างความสนใจให้กับผู้ชม ทำให้แต่ละรอบไลฟ์สามารถเข้าถึง ผู้ชมจำนวนมากและเป้าหมายที่ชัดเจน
🔮 มุมมองอนาคตของโปรเจกต์
หากโปรเจกต์ Live Market Festival ประสบความสำเร็จ จะเป็น ต้นแบบของเทศกาลไลฟ์สดในประเทศไทย ที่รวมทุกระดับของผู้ค้าเข้าด้วยกัน และอาจมีการ ขยายงานไปสู่ระดับนานาชาติ เพื่อโปรโมตสินค้าไทยและผู้ค้าออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังช่วยสร้าง มาตรฐานใหม่ในการจัดงานไลฟ์สดแบบรวมศูนย์ ซึ่งรวมทั้งการสนับสนุนแบรนด์ใหญ่และแบรนด์เล็ก พร้อมการันตีรายได้และรางวัลปลอบใจ ทำให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจและกล้าที่จะลงทุน
💬 บทสรุป
โปรเจกต์ Live Market Festival ของ เจนนี่ ได้หมด ถ้าสดชื่น ไม่ใช่เพียงแค่ งานขายของออนไลน์ธรรมดา แต่เป็น เทศกาลมหกรรมไลฟ์สดที่ยิ่งใหญ่และครบวงจร
เปิดโอกาสให้ แบรนด์ใหญ่และแบรนด์เล็กเข้าร่วม
ไลฟ์มาราธอน 12 วันต่อจังหวัด
การันตีรางวัลสูงสุดและเงินปลอบใจสำหรับยอดขายต่ำที่สุด
สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการไลฟ์สดไทย
การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้าง โอกาสทางธุรกิจ ให้ผู้ประกอบการ แต่ยังเป็น แรงบันดาลใจและต้นแบบ ให้ตลาดไลฟ์สดไทยมีความยิ่งใหญ่และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
เจนนี่และทีมงานได้แสดงให้เห็นว่า การสร้างความมั่นใจให้ผู้ค้าและผู้ชม เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานไลฟ์สดอย่างมืออาชีพ






















