“กัน จอมพลัง” โพสต์โวยถูกลากเข้าการเมือง – “ไอซ์ รักชนก” ตอบกลับตรงแรงแต่สุภาพ
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เกิดประเด็นร้อนในโลกโซเชียล เมื่อ “กัน จอมพลัง” หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ นักเคลื่อนไหวชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความไม่พอใจที่ถูก “ลากเข้าไปเกี่ยวข้อง” กับประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีคอลเซ็นเตอร์ และการถูกโยงถึงนักการเมืองหลายพรรค
กันระบุว่า ตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล หรือพรรคพลังประชารัฐ แต่กลับถูกกล่าวถึงและนำชื่อไปใช้สร้างกระแสทางการเมือง
“การเมืองนี่สกปรกจริงนะครับ จะตามคนนั้นคนนี้ แต่ก็เลือกมาตามผม เพราะอยากให้มีชื่อผมไปติด จะได้เป็นข่าว ทั้งที่ผมไม่เคยคุยกับคุณอนุทินเลย พรรคส้มก็ติดต่อได้ง่ายกว่าผมอีก ส่วนคุณธรรมนัส ก็มีคนสนิทเยอะกว่า แต่เลือกใช้ชื่อผม...”
เขากล่าวต่อว่า การถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้ตนเสียหายโดยตรง มีงานที่ถูกยกเลิกกว่า 600,000 บาท ซึ่งกระทบต่อชีวิตและภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ตนทำอยู่
“นักการเมืองไม่เคยมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ แทนที่ผมจะได้เงินไปช่วยชาวบ้าน กลับต้องมารับผลจากความอยากดังของนักการเมืองบางคน... ผมเป็นประชาชนนะครับ ไม่ใช่ ส.ส.”
“ไอซ์ รักชนก” ตอบกลับ – ยืนยันการเมืองสกปรกจริง แต่แซะเบาๆ ถึง “ธรรมนัส”
ต่อมา นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ได้เข้ามาตอบใต้โพสต์ของกัน จอมพลัง ด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่มีนัยทางการเมืองชัดเจน
“การเมืองสกปรกจริงค่ะ ไอซ์ทำงานมา 2 ปีกว่า แม้จะยังเจอไม่ครบทุกรูปแบบ แต่ยืนยันได้ว่าสกปรกจริง... ไม่เชื่อพี่กันลองถามคุณธรรมนัสได้ เพราะอยู่มานานมาก เป็นรัฐบาลแทบทุกยุค และบริหารงบเกษตรเก่งมาก แต่เกษตรกรก็ยังลำบากเหมือนเดิม”
ข้อความนี้ถูกมองว่าเป็นการพาดพิงถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้งบประมาณและสายสัมพันธ์ทางการเมือง
ไอซ์ยังกล่าวถึงประเด็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าเป็นหัวใจสำคัญของปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณกันเคยเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง เธอยอมรับว่าชื่นชมในความตั้งใจของเขา แต่ก็เตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า “ตัวปัญหาอาจอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด”
“เราจะไม่มีวันแก้ปัญหาชายแดนได้ ถ้ารัฐบาลไม่ตีไปที่หัวใจของกัมพูชา คือเรื่องสแกมเมอร์... และคนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวการใหญ่ ก็อาจอยู่ใกล้ตัวพี่กันมากกว่าที่คิด”
เสียดสี–เห็นใจในเวลาเดียวกัน
แม้เนื้อหาจะมีการแซะเชิงประชด แต่ตอนท้าย “ไอซ์ รักชนก” ยังคงใช้ถ้อยคำที่สุภาพและแสดงความเห็นใจ
“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ที่พี่กันโดนยกเลิกงาน 600,000 บาท ไม่แน่ใจว่าพี่ได้รับบริจาคเงินทั้งหมดเท่าไหร่ อาจจะเอามาถัวเฉลี่ยได้ไหม... ถ้าพี่อยากให้ประชาชนช่วย ก็แปะเลขบัญชีได้เหมือนเดิม ไอซ์เชื่อว่ายังมีคนอยากสนับสนุนคนที่ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอีกเยอะค่ะ”
เธอยังฝากท้ายด้วยถ้อยคำแสดงความเกรงใจว่า
“อย่าเอาทัวร์มาลงไอซ์นะคะ กลัวแล้วค่ะ ตอนนี้ใครมีเรื่องกับพี่กันไม่ได้เลย จะโดนถล่มหนักมาก...”






















