ไทยปฏิเสธคำขอเปิดพรมแดนของกัมพูชา
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] โฆษกกระทรวงกลาโหม พลเรือตรี "สุรสันต์ คงสิริ" ของไทย ได้ตอบสนองต่อรายงานข่าวที่ว่า ประธานวุฒิสภา "ฮุน เซน" ของกัมพูชา กดดันให้ไทยเปิดพรมแดนไทย-กัมพูชาอีกครั้ง ภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2025 โดยเขากล่าวว่า "ไม่ชัดเจนว่าคำพูดของฮุนเซน มีเจตนาที่จะส่งสัญญาณใดๆเป็นพิเศษหรือไม่? แต่จุดยืนของไทยยังคงมั่นคง นั่นคือจะไม่มีการใช้มาตรการใหม่ๆ นอกเหนือไปจากเงื่อนไข 4 ประการที่มีอยู่ เช่น..."
- การถอนอาวุธหนัก
- การกำจัดทุ่นระเบิด
- การปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์
- การจัดการพื้นที่ชายแดน ที่เป็นข้อพิพาทอย่างเหมาะสม
"สุรสันต์ คงสิริ" กล่าวอีกว่า "เงื่อนไขเหล่านี้เกิดจากการหารือ ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา ซึ่งการเจรจาใดๆต่อไป จะต้องอยู่บนพื้นฐานของกลไกความร่วมมือ ที่เป็นรูปธรรมที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน!!"
ไทยได้ชี้ชัดว่าการเจรจาใดๆ จะดำเนินต่อไปได้ก็ต่อเมื่อ กัมพูชายอมรับและปฏิบัติตามเงื่อนไข ทั้ง 4 ประการในระดับที่น่าพอใจเท่านั้น
"สุรสันต์ คงสิริ" ข้อสังเกตว่า "การผลักดันของ "ฮุนเซน" อาจเชื่อมโยงกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจ จากการปิดพรมแดนที่กำลังดำเนินอยู่ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ก็ตาม... อย่างไรก็ตาม "สุรสันต์ คงสิริ" ยอมรับว่า "การหยุดชะงักของการค้าชายแดน อาจส่งผลกระทบต่อกัมพูชา"
"สุรสันต์ คงสิริ" กล่าวย้ำว่า "การตัดสินใจของไทยในการปิดจุดผ่านแดน เป็นสิ่งที่ถูกต้องและสอดคล้องกับแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ!!" และ ได้เรียกร้องให้กัมพูชา "พิจารณาตนเองก่อน ก่อนที่จะเรียกร้องให้เปิดพรมแดนอีกครั้ง!!"
ตั้งแต่รัฐบาลกลางลงมา ถึงหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ตำแหน่งของประเทศไทย ยังคงเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่มกัมพูชาจะต้องบรรลุเงื่อนไขทั้ง 4 ประการก่อน การหารือใดๆเพิ่มเติม...
นายกรัฐมนตรีไทย ยังคงยืนยันจุดยืนนี้อีกครั้ง โดยกำชับหน่วยงานทุกระดับ ให้เรียกร้องให้กัมพูชานำเสนอแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการ กวาดล้างทุ่นระเบิดและการย้ายถิ่นฐาน ของชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย อย่างไรก็ตาม กัมพูชายังไม่ได้ยื่นแผนปฏิบัติการดังกล่าว...
กองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งต่อกองทัพกัมพูชาเมื่อเร็วๆนี้ว่า "การประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค กับกองทัพภาคที่ 4 ของกัมพูชา ได้ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้จัดทำแผนปฏิบัติการที่จำเป็น"
เกี่ยวกับบทบาทที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำของอเมริกา ในฐานะคนกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา "สุรสันต์ คงสิริ" กล่าวว่า "วอชิงตันมีความสามารถและการสนับสนุนจากพันธมิตร ในการอำนวยความสะดวกในการเจรจา ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับเสถียรภาพในภูมิภาค" และ "หากพิจารณาในแง่ของเจตนา มากกว่าการสมดุลของอำนาจ ถือเป็นการพัฒนาในเชิงบวก เนื่องจากกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา อยู่ที่การส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพ"
"สุรสันต์ คงสิริ" กล่าวเสริมว่า "ปัจจัยหนึ่งที่อาจนำไปสู่การเจรจาในท้ายที่สุด ก็คือสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศของกัมพูชาเอง" และ "ไทยเองก็หวังที่จะผ่อนคลายความตึงเครียด ตามแนวชายแดน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยปราศจากความหวาดกลัวหรือวิตกกังวล เกี่ยวกับการปะทะที่อาจเกิดขึ้น..."
อ้างอิง : asianews
อ้างอิง : asianews

















