รพ.ถึงกับปวดหัว! “ก้อง ศรันย์” ไลฟ์ร้องเพลงลั่นยันเช้า เจ้าตัวรับผิด แต่ลั่น “หยุดไม่ได้ เพราะมันคือศิลปะ”
🔥 “ก้อง ศรัณย์” ฟาดแซ่บกลางดึก! เคลียร์ดราม่า ตำรวจบุกสั่งปิดร้านส้มตำตีสอง หลัง รพ.ร้องเรียนเสียงดังลั่นยันไม่ได้เปิดเพลง แต่ใจศิลปินงดไลฟ์ไม่ได้ – ขอโทษตำรวจ พร้อมสัญญา “รอบหน้าเลี้ยงตำถาดใหญ่!”
กลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าระอุโซเชียล เมื่อ “ก้อง ศรัณย์” หรือที่หลายคนรู้จักกันในฉายา “เน็ตไอดอลส้มตำเมืองอุดร” ออกมาเคลื่อนไหวตอบกลับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หลังเกิดเหตุชุลมุนกลางดึก ตำรวจเข้าตรวจสอบร้านส้มตำชื่อดังย่านอุดรธานี เวลาประมาณ ตี 2 กว่า ๆ พร้อมคำสั่งให้ “ปิดเพลง” หลังมีผู้ป่วยจากโรงพยาบาลใกล้เคียงร้องเรียนเรื่องเสียงดังจนรบกวนการพักผ่อน
แต่เรื่องกลับไม่จบแค่คำสั่งปิดเพลง เมื่อฝั่งเจ้าของร้าน—หนุ่มอินฟลูฯ คนดัง—ยังคงไลฟ์สดขายของต่อเนื่อง และมีการโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยน้ำเสียงเข้มข้น จนกลายเป็นคลิปไวรัลในโลกออนไลน์
📍 จุดเริ่มต้นดราม่า: ร้านส้มตำเสียงดังติดโรงพยาบาล
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากการที่มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงร้านส้มตำชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองอุดรธานี ร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวเปิดเพลงและใช้เครื่องเสียงดังในช่วงเวลากลางดึกเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงหลังเที่ยงคืนถึงตีสี่ ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลต้องการความสงบเงียบ
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเข้ามาเตือนร้านนี้แล้วถึง สองครั้ง ก่อนจะเกิดเหตุปะทะคารมรอบล่าสุดในคืนดังกล่าว
🎤 ตีสองเดือด! ก้อง ศรัณย์ เถียงตำรวจกลางไลฟ์
คืนเกิดเหตุ วันที่มีการแชร์คลิปวิดีโอออกไปในโลกโซเชียล พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เข้ามาตรวจสอบร้าน หลังได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลใกล้เคียงว่าเสียงดังรบกวนผู้ป่วย โดยในคลิปจะเห็นภาพของ ก้อง ศรัณย์ ที่กำลังไลฟ์สดขายส้มตำอยู่ในร้าน พร้อมเปิดลำโพงพูดคุยกับคนดูหลายพันคน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่จริงจังว่า “ปิดเพลงครับ โรงพยาบาลร้องเรียนมาเสียงดังมาก”
แต่ก้อง ศรัณย์ รีบตอบกลับว่า
“ตอนนี้ไม่ได้เปิดเพลงแล้วครับ ผมปิดเพลงไปแล้ว เหลือแต่ลำโพงที่ใช้พูดกับคนดูในไลฟ์”
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ย้ำอีกครั้งให้ “ปิดลำโพง” ด้วยเหตุผลว่าเป็นคำร้องเรียนจากโรงพยาบาล และหากยังไม่ปิดอาจมีคำสั่ง “ปิดร้านชั่วคราว”
“คุณจะไลฟ์ก็ไลฟ์ไปครับ แต่ห้ามเปิดเสียงลำโพงแบบนี้”
เจ้าหน้าที่กล่าวเตือน
หลังจบคำพูดนั้น ตำรวจเริ่มเดินกลับ แต่ก้อง ศรัณย์กลับเอ่ยเสียงดังสวนขึ้นมาว่า
“ถ้าผมปิดเสียงแล้ว ขออยู่ต่ออีก 10 นาทีได้ไหม!”
ซึ่งนายตำรวจอีกคนได้ตอบกลับทันทีว่า
“ไม่ได้ครับ ถ้าไม่ทำตามจะต้องปิดร้านเลย และอาจมีการยึดเครื่องเสียงด้วย เพราะถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน”
คำพูดนี้ทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ก้อง ศรัณย์ มีท่าทีอารมณ์ขึ้น ก่อนจะพูดตัดพ้อว่า
“สั่งปิดร้าน แล้วใครจะช่วยออกค่าน้ำค่าไฟให้ผม? ร้านอื่นก็เปิดเสียง ทำไมไม่โดน!”
คลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว และกลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายเพจดังในโลกโซเชียลนำไปพูดถึง
💬 ก้อง ศรัณย์ เคลียร์ใจ! ยอมรับเสียงดังจริงแต่ไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากกระแสดราม่าปะทุไปทั่ว ก้อง ศรัณย์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านคลิปใหม่ที่อัปโหลดบนเพจส่วนตัว เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยยอมรับว่า “ร้านเสียงดังจริง” แต่ไม่ได้เปิดเพลงเพื่อความบันเทิง หากเป็นเสียงจากการ ไลฟ์ขายของ ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของตนในฐานะพ่อค้าออนไลน์
“ผมขอโทษจริง ๆ ครับ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครเดือดร้อน ตอนนั้นคนดูในไลฟ์มีเป็นพัน มีคนสั่งตำถาด ตำปูปลาร้า ตำแซ่บเหมาหมด คนโอนมาเยอะมาก ผมก็ต้องทำให้ครบ แจกให้ลูกค้า เพราะเขามารอแล้ว”
ก้องกล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจไม่ได้ทำอะไรผิด และเข้าใจดีว่าหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คือต้องรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบจากเสียงดัง
“ผมต้องขอโทษตำรวจทั้งสองนายด้วยครับ ที่อาจมีอารมณ์ตอนนั้น ถ้าครั้งหน้าเจอกัน ผมเลี้ยงตำถาดใหญ่เลย!”
🧡 “ใจเป็นศิลปิน” งดไลฟ์ไม่ได้ – แต่จะเบาเสียงลง
แม้จะขอโทษและยอมรับความผิด แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่า การ “งดไลฟ์สด” เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้จริง ๆ เพราะการไลฟ์ขายของคือชีวิตและหัวใจของเขาในฐานะศิลปิน
“ผมเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน อยู่กับไมค์มาตลอด มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จะให้ผมหยุดพูด หยุดขายเลยคงไม่ได้ แต่สัญญาว่าจะเบาเสียงลง ไม่ให้รบกวนใครแน่นอนครับ”
คำพูดนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนคลับจำนวนมาก ที่มองว่าเจ้าตัวกล้ายอมรับผิด และพูดตรงไปตรงมา
🎶 จากนักร้อง “เห็นนางเงียบ ๆ ฟาดเรียบ” สู่อินฟลูเอนเซอร์ส้มตำพันล้านวิว
หลายคนอาจไม่รู้ว่า “ก้อง ศรัณย์” เคยเป็นนักร้องและนักแสดงมาก่อน โดยเขาเริ่มเข้าวงการบันเทิงจากการเป็นนายแบบและดีเจ ก่อนจะมีชื่อเสียงจากการร้องเพลงคัฟเวอร์ “เห็นนางเงียบ ๆ ฟาดเรียบนะครับ” ซึ่งกลายเป็นไวรัลในช่วงหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาได้หันมาทำธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านส้มตำในบ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานี และใช้ความสามารถด้านความบันเทิงผสมเข้ากับการขายของ จนกลายเป็น “พ่อค้าอินฟลูเอนเซอร์” ที่มียอดผู้ติดตามมากกว่า ล้านคน บนแพลตฟอร์มโซเชียล
ก้องเคยให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมรักการร้องเพลง แต่ผมก็รักการขายของ เพราะมันทำให้ผมได้เจอคนจริง ๆ ทุกวัน ได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้า”
🏪 ร้านส้มตำชื่อดัง “พ่อคำร้อยรุก” ยอดขายพุ่งหลังดราม่า
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ กลับกลายเป็นว่า ร้าน “พ่อคำร้อยรุก” ของก้อง ศรัณย์ ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นกว่าเดิม หลายคนในโลกโซเชียลต่างพากันแชร์และเข้ามาให้กำลังใจ พร้อมชมว่า “ถึงจะเสียงดังแต่รสชาติเด็ด”
มีลูกค้าหลายรายคอมเมนต์ว่า
“เสียงอาจดัง แต่ตำอร่อยมาก กินแล้วลืมความง่วง”
“ตำรวจใจเย็นมาก ส่วนก้องก็พูดตรง แต่เข้าใจได้ เพราะมันคืออาชีพ”
ขณะเดียวกัน ก็มีบางเสียงที่มองว่า เจ้าของร้านควรปรับตัว เพราะไม่ควรใช้คำว่า “ศิลปิน” เป็นข้ออ้างในการรบกวนผู้อื่น โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้โรงพยาบาล
⚖️ ด้านกฎหมาย: เปิดเพลง–ไลฟ์เสียงดังกลางคืน เข้าข่ายผิดหรือไม่?
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้ออกมาอธิบายเพิ่มเติมว่า การเปิดเสียงดังในยามวิกาล โดยเฉพาะหลัง 22.00 น. อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พ.ศ. 2499 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
นอกจากนี้ หากร้านอยู่ใกล้สถานพยาบาลหรือสถานศึกษา เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายท้องถิ่น สั่งปิดชั่วคราวหรือยึดเครื่องเสียงได้ทันที หากพบว่ามีการฝ่าฝืนซ้ำ
🤝 “ขอโทษจากใจ” – ปิดฉากด้วยรอยยิ้มและตำถาดแห่งมิตรภาพ
ท้ายที่สุด ก้อง ศรัณย์ ได้ฝากข้อความขอโทษผ่านคลิปปิดท้ายว่า
“ผมไม่ได้โกรธตำรวจเลยครับ เข้าใจว่าทำตามหน้าที่ ผมอาจพูดแรงไปหน่อย เพราะตอนนั้นมีคนดูในไลฟ์เยอะ อยากให้เขาเห็นความจริง ทุกวันนี้ผมก็แค่อยากขายของ มีความสุขกับลูกค้า ถ้าครั้งหน้าตำรวจมาอีก ผมเลี้ยงตำถาดใหญ่เลยครับ!”
คำพูดนี้กลายเป็นไวรัลอีกครั้ง และทำให้หลายคนมองว่า ดราม่าครั้งนี้จบลงด้วยความเข้าใจและการขอโทษอย่างลูกผู้ชาย
🧩 บทเรียนจาก “เสียงลำโพง” สู่ “เสียงสะท้อนของสังคม”
กรณีของ “ก้อง ศรัณย์” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเสียงดังหรือการทะเลาะกับตำรวจเท่านั้น แต่สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของสังคมยุคใหม่ ที่เส้นแบ่งระหว่าง “ศิลปิน–พ่อค้า–อินฟลูเอนเซอร์” เริ่มบางลงทุกที
คนทำงานออนไลน์ต้องใช้เสียง ใช้ภาพ ใช้คอนเทนต์เพื่อหารายได้ ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ต้องรักษาความสงบและเคารพพื้นที่สาธารณะ เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “ใครถูก ใครผิด” แต่คือการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล
📍 สรุป:
ก้อง ศรัณย์ โต้ตำรวจหลังถูกสั่งปิดร้านส้มตำตี 2 เหตุเสียงดังรบกวนโรงพยาบาล
ยอมรับมีอารมณ์แต่ไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษเจ้าหน้าที่และสัญญาจะเบาเสียงลง
ยืนยัน “ใจเป็นศิลปิน” งดไลฟ์ไม่ได้ เพราะเป็นรายได้หลัก
ชาวเน็ตถกสองฝั่ง บางส่วนให้กำลังใจ บางส่วนมองควรเคารพกฎหมายจบด้วยคำขอโทษและคำมั่น “ครั้งหน้ามา จะเลี้ยงตำถาดใหญ่!”

















