ด่วน! “คิม บยองจู” ประกาศออกไปกัมพูชา ช่วยเหลือเยาวชนชาวเกาหลีใต้ — รัฐ-ฝ่ายค้านระดมมาตรการหลังเกิดคดีสแกม-จับกุม-ทารุณ
ด่วน! “คิม บยองจู” ประกาศออกไปกัมพูชา ช่วยเหลือเยาวชนชาวเกาหลีใต้ — รัฐ-ฝ่ายค้านระดมมาตรการหลังเกิดคดีสแกม-จับกุม-ทารุณ
คิม บยองจู (Kim Byung-ju) เจ้าหน้าที่พิเศษ/สมาชิกพรรคและหัวหน้าทีมความปลอดภัยต่างประเทศของเกาหลีใต้ โพสต์ข้อความระบุว่าเขากำลัง เดินทางไปกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือเยาวชนชาวเกาหลีใต้ และจะไม่ลังเลเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยประชาชน โดยกล่าวเป็นภาษาเกาหลีว่า:
“대한민국 청년들을 구출하기 위해 캄보디아로 출발합니다. 그 어떤 위험이 있어도 몸을 사리지 않겠습니다… 한 명이라도 더 구출하고 돌아오겠습니다.” (ฉันจะออกไปกัมพูชาเพื่อช่วยเยาวชนของเกาหลี — จะไม่กลัวอันตราย และจะกลับมาหลังช่วยได้สักหนึ่งคน).
การเคลื่อนไหวของคิมเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความโกรธและความกังวลของสาธารณชนเกาหลีใต้ หลังปรากฏกรณีชาวเกาหลีถูกรายงานว่าถูกล่อลวงไปยัง “คอมพาวด์” สแกมในกัมพูชา ถูกกักขังบังคับให้ทำงานฉ้อโกงออนไลน์ และมีรายงานเหตุรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งจุดชนวนให้เกาหลีใต้เรียกทูตกัมพูชาเข้าพบและยกระดับเตือนการเดินทางพื้นที่เสี่ยงแล้ว.
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ส่งทีมตอบโต้และเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปยังพื้นที่เพื่อประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น และประกาศ “โค้ด-แบล็ก” ห้ามการเดินทางไปบางพื้นที่ของกัมพูชา รวมถึงคำแนะนำให้พลเมืองที่อยู่ในพื้นที่อันตรายรีบอพยพออกมา ขณะที่ประชุมร่วมกับหน่วยข่าวกรองและตำรวจเพื่อหาแนวทางนำคนกลับประเทศ.
ในขณะเดียวกัน พรรคการเมืองและสังคมพลเรือนในเกาหลีต่างกดดันรัฐบาลให้เข้มงวดขึ้น — มีทั้งข้อเสนอให้จัดตั้ง “หน่วยช่วยเหลือเฉพาะกิจ” และเสียงเรียกร้องจากบางฝ่ายที่เสนอแนวคิดรุนแรงขึ้น เช่น ปฏิบัติการกู้ภัยแบบทหารหรือมาตรการบังคับต่างๆ ซึ่งรัฐบาลแสดงท่าทีว่าจะใช้ช่องทางการทูตและการประสานงานกับตำรวจท้องถิ่นเป็นหลัก แต่ก็ไม่ปิดทางเลือกในการใช้มาตรการทุกวิธีที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองพลเมือง.
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การส่งคนจากภาคเอกชนหรือผู้นำพรรคไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศมีทั้งข้อดีที่ช่วยเพิ่มแรงกดดันและอำนาจต่อรอง แต่ก็มีความเสี่ยงต่อความเป็นทางการของการทูตและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติเอง — หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอาจซับซ้อนขึ้นจนกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้.
สำหรับคนไทยที่ติดตามเหตุการณ์: เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่า พื้นที่บางส่วนของกัมพูชาโดยเฉพาะจุดที่มีคอมพาวด์สแกม ยังคงมีความเสี่ยงสูง — ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคจึงเริ่มออกคำเตือนการเดินทางและมาตรการให้ความคุ้มครองพลเมืองของตนเองอย่างเข้มข้นขึ้น.
สถานการณ์ยังเปลี่ยนแปลงเร็ว — คิม บยองจูและทีมงานจะเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่และประสานงานกับหน่วยท้องถิ่นทันที ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการติดตามผลการช่วยเหลือผู้เสียหายและการนำตัวพลเมืองกลับประเทศ หากมีความคืบหน้า ผมจะอัปเดตข้อมูลสำคัญและคำแถลงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบ





