ราคาทองพุ่งสูงกว่า4,000ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำล่วงหน้าในนิวยอร์กพุ่งสูงกว่า 4,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 130,000 บาทต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ท่ามกลางความวุ่นวายทั่วโลก ราคาทองคำทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ราคาทองคำล่วงหน้าในนิวยอร์กพุ่งสูงกว่า 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันอังคาร (7 ตุลาคม) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มัน สร้างสถิติใหม่ โดยราคาพุ่งขึ้นจาก 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในเวลาเพียงหกเดือน
นับว่าเพิ่มขึ้นกว่า 44% นับตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว นักวิเคราะห์เชื่อว่าปัจจัยต่างๆ ในสถานการณ์โลกกำลังกระตุ้นให้เกิดการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่สูงขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในปัจจุบันจะสร้างภาวะสุญญากาศในข้อมูลเงินเฟ้อ
แต่ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดบ่งชี้ว่ากำลังแรงงานกำลังอ่อนตัวลง ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้อย่างมากที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดในปลายเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่และการบุกรุกของโดรนที่สนามบินมิวนิกได้เพิ่มความตึงเครียดในยุโรป พลวัตระหว่างประเทศที่ผันผวนเหล่านี้จึงเอื้อต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ อย่างโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การจัดสรรเงินทุนให้กับกองทุน ETF ทองคำตะวันตกในเดือนกันยายนนั้นก็มีความแกร่งเกินคาด ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในแบบจำลองการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อนอย่างมีนัยสำคัญ
ก่อนหน้านี้โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในกลางปี 2569 และ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีหน้า
แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ธนาคารเพื่อการลงทุนบางแห่งยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับศักยภาพการเติบโตในอนาคต โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า หากกองทุนเอกชนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 1% หันไปลงทุนในทองคำ ราคาทองคำในทางทฤษฎีจะพุ่งสูงถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส เชื่อว่า หากสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐฯ เพียงแค่ 0.5% หันไปลงทุนในทองคำ ราคาทองคำอาจพุ่งสูงถึง 6,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์






















