Amazing Thailand 2569 x Lisa
ถ้าถามนักการตลาดในยุคนี้ว่า กลยุทธ์โปรโมตการท่องเที่ยวประเทศควรเดินไปทางไหน หลายคนอาจเคยชินกับการวางสื่อโฆษณาหรือสร้างภาพลักษณ์ผ่านสื่อแบบเดิม ๆ แต่ในปี 2569 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตัดสินใจเปลี่ยนกระดานเกมครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัว
ทำไมถึงเป็นมากกว่าแค่แคมเปญ? เพราะนี่คือกลยุทธ์เชิงวัฒนธรรมที่พลิกวิธีคิดการสื่อสารการตลาดไปโดยสิ้นเชิง
ลองคิดดูว่าการมีลิซ่านำเสนอเสน่ห์ไทยให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เห็น ไม่ใช่แค่เพิ่มยอดวิวโฆษณา แต่สร้างบทสนทนาใหม่ที่กระตุ้นความรู้สึก อยากสัมผัส อยากเดินทาง และอยากมีส่วนร่วมกับสิ่งที่ลิซ่าเล่าออกมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเธอ
หากสอบถามว่าทำไมการตลาดรูปแบบนี้ถึงได้ผลดีกว่าการโฆษณาทั่วไป?
คำตอบน่าสนใจ นักการตลาดต้องมองลึกไปกว่า KPI ของอิมเพรสชัน หรือค่าวัดรับรู้แบรนด์ เพราะคนเจนนี้ไม่ได้หลงใหลในโลโก้ แต่เชื่อมนโยบายกับ “เรื่องราว” ที่จับต้องได้ ลิซ่าเองคือภาพสะท้อนของความเป็นไทยร่วมสมัย เธอเป็นทั้งแรงบันดาลใจ มีเส้นทางชีวิตที่ผู้คนหลากหลายสามารถเข้าถึง ไม่ใช่แค่ดารา แต่มอบความหวังให้กับเด็กรุ่นใหม่ว่าความฝันสามารถไปไกลได้เท่าใด
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “พลังวัฒนธรรม” ที่ลิซ่าสร้างผ่านทุกการนำเสนอ เช่นการใส่ชุดไทย โชว์อาหาร ท่าเต้น หรือเลือกเล่าเรื่องบ้านเกิดในเวทีระดับโลก นั่นเป็นการปักธงไทยไว้บนแผนที่วัฒนธรรมป็อป เป็นการตลาดที่ปลุกให้ผู้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศอยากเข้ามา “ลองอิน” กับวัฒนธรรมจริง ๆ มากกว่าดูผ่านจอ
เมื่อมีไอดอลที่ทุกคนอยากติดตาม ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้านักท่องเที่ยวจะอยากถ่ายรูปที่เดียวกับลิซ่า หรือสนุกกับ challenge อาหารไทยที่เธอรีวิว คำถามง่าย ๆ ที่ตามมาคือ จากผู้ชมธรรมดาแคมเปญจะเปลี่ยนเป็นผู้มีส่วนร่วมแบบไหน?
คำตอบคือ การตลาดของ ททท. ครั้งนี้ยกระดับคนดูให้กลายเป็นสมาชิกในเรื่องราว ถ่ายทอด engagement ผ่านการกระทำ ไม่ใช่แค่กดไลก์หรือคอมเมนต์ แต่ลงมือจริง ถ่ายภาพ แชร์ประสบการณ์ เล่นแฮชแท็ก ร่วมเป็นเจ้าของ “เรื่องราวไทย” ไปกับลิซ่าโดยตรง
ย้อนกลับไปที่แกนสำคัญ “ยุทธศาสตร์เชิงวัฒนธรรม” แบบนี้จึงเป็นทรัพย์สินล้ำค่ากับแบรนด์ประเทศไทยขึ้นมาทันที เพราะนักท่องเที่ยวสมัยนี้ไม่ได้ต้องการแค่ของสวยงาม แต่ต้องการ “โลกที่มีความหมาย” ให้ตัวเองมีส่วนร่วม ททท. จึงไม่ได้แค่ขายทริปหรือสถานที่ แต่ขายความทรงจำและการเชื่อมความรู้สึกจริง
จะสังเกตได้ว่าการเลือกตัวแทนที่เข้าถึงหัวใจคนยุคใหม่ สร้าง emotional engagement ได้มากกว่าการส่งสารแบบวันเวย์ นักการตลาดจึงต้องกลับมาทบทวนว่าความสำเร็จของแบรนด์ในระยะยาวนั้น ควรลงทุนไปกับการสร้างสายสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม มากกว่าหวังยอดวิวจากแคมเปญชั่วคราว
ในโลกที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเร็ว ใครที่กล้าหยิบ “วัฒนธรรม” มาผสมกับตัวตนที่คนรักอย่างลิซ่า ย่อมได้เปรียบในการสร้างความจดจำแบบลึกซึ้ง และยั่งยืนกว่าการโฆษณาแบบเดิม ๆ ชนิดที่เรียกได้ว่า “ไทย” จะไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นประสบการณ์หนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก






















