เปิดโปงหมอผีในแอฟริกาใต้ใช้ยาหลอนประสาทรักษาสุขภาพจิตโดยไร้การควบคุม
เมื่อครู่นี้ ดิฉันได้อ่านบทความหนึ่งซึ่งน่าสนใจมาก
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการบำบัดสุขภาพจิตด้วยสารหลอนประสาทหรือที่เรียกกันว่า “ยาไซคีเดลิก” ในประเทศแอฟริกาใต้ แม้ว่าสารเหล่านี้จะยังถือว่าผิดกฎหมาย แต่มีผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นหมอพื้นบ้านหรือหมอผีในเมืองเคปทาวน์หลายราย ยังคงให้บริการบำบัดโดยใช้สารเหล่านี้อยู่
ผู้ที่เข้ารับการบำบัดส่วนใหญ่มักมีปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือภาวะเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ โดยมีผู้เข้ารับการบำบัดหลายคนเล่าประสบการณ์ว่า การใช้สารไซโลไซบินจากเห็ดวิเศษ
และเอ็มดีเอ็มเอ หรือ “ยาอี” ช่วยให้เขารู้สึกสงบและเข้าใจตัวเองมากขึ้น
หนึ่งในกรณีที่ถูกนำเสนอ คือ นายสจวร์ต ดอดส์
วัย 53 ปี เขาเข้ารับพิธีบำบัดในกระท่อมไม้กลางป่า เพื่อพยายามเยียวยาปัญหาสุขภาพจิต หลังจากสูญเสียแม่และเลิกกับแฟนเก่า เขาระบุว่าการบำบัดด้วยสารหลอนประสาทช่วยเปิดโอกาสให้เขาได้สำรวจความคิดและความรู้สึกของตัวเอง แม้จะยังไม่ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์
พิธีบำบัดเหล่านี้มักดำเนินไปในรูปแบบที่มีพิธีกรรม เช่น การรมควันด้วยสมุนไพร การร้องเพลง การใช้เครื่องมือเสริมพลังงาน และบางครั้งผู้นำพิธีก็รับประทานสารในปริมาณเล็กน้อยด้วยตัวเองเพื่อช่วยปรับคลื่นพลังงานให้เข้ากับผู้เข้ารับการบำบัด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า การบำบัดด้วยสารหลอนประสาทที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมทางการแพทย์ มีความเสี่ยงสูง ทั้งในด้านความปลอดภัยและสติสัมปชัญญะของผู้เข้ารับการบำบัด ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง หรือเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารไซคีเดลิกอาจช่วยรักษาอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้ แต่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมและมีผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวชดูแลอย่างใกล้ชิด
เรื่องราวนี้ทำให้ดิฉันนึกถึงความพยายามของคนที่กำลังมองหาวิธีช่วยตัวเองในยามที่ชีวิตเจอเรื่องยาก แม้ว่าวิธีการบางอย่างอาจไม่ปลอดภัย หรือยังไม่ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย แต่ก็สะท้อนถึงความปรารถนาที่จะเยียวยาใจตัวเองของมนุษย์
ดิฉันคิดว่าประเด็นนี้น่าสนใจทั้งในแง่ของจิตวิทยา การแพทย์ และจริยธรรม รวมถึงความเข้าใจต่อวิถีชีวิตของผู้คนในภูมิภาคต่าง ๆ ที่มีความเชื่อและแนวทางรักษาแบบเฉพาะตัว






















