ด่วน! ส.ส.–ส.ว. เกาหลีใต้ประสานเสียง เกรงความปลอดภัยของพลเมืองในกัมพูชา — รัฐบาลยืนยันเดินหน้าช่วยเหลือเต็มที่ พร้อมพิจารณามาตรการขั้นเด็ดขาด
15 ตุลาคม 2568 — เหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยต่อพลเมืองเกาหลีใต้ในกัมพูชาที่กำลังเป็นวิกฤต ส่งผลให้สมาชิกรัฐสภาและวุฒิสภาเกาหลีใต้ร่วมกันกดดันรัฐบาลให้ใช้ทุกมาตรการเพื่อคุ้มครองพลเมือง หลังมีรายงานชาวเกาหลีใต้สูญหายและตกเป็นเหยื่อแก๊งสแกมในกัมพูชาเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลโซลประกาศจะ “เดินหน้าช่วยเหลือเต็มที่” และไม่ละเว้นการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุกราย.
นาง อี อึนจู สมาชิกสภาสูงของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกยกคำพูดว่า “เราต้องแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่าชาวเกาหลีจะถูกลงโทษอย่างเต็มที่สำหรับอาชญากรรมหรือการก่อการร้ายที่กระทำต่อพวกเขา” และเตือนว่าหากรัฐบาลกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ ต้องพิจารณามาตรการทางทหารรวมถึงการช่วยเหลือตนเองเพื่อปกป้องพลเมือง ซึ่งคำพูดลักษณะนี้สะท้อนแรงกดดันทางการเมืองและความโกรธแค้นของสังคมเกาหลีใต้ต่อเหตุการณ์ในกัมพูชา (คำพูดนี้เป็นสาระที่ส.ส./ส.ว.บางคนเผยแพร่และถูกนำเสนอในวงสื่อ).
รัฐบาลเกาหลีใต้ตอบโต้อย่างรวดเร็ว: ประธานาธิบดีและกระทรวงต่างประเทศสั่งการให้จัดตั้งทีมร่วมระหว่างหน่วยงาน (interagency response team) ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยข่าว และตัวแทนการทูตไปยังกัมพูชาเพื่อสืบสวน ค้นหา และอำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมย้ำว่าจะใช้มาตรการทางการทูตและมาตรการอื่น ๆ หากจำเป็น.
เบื้องหลังวิกฤต — สแกมสไตล์ ‘ศูนย์หลอกลวง’ (scam centres)
รายงานข่าวจากหลายสำนักระบุว่าในปีนี้มีการแจ้งเหตุชาวเกาหลีใต้ที่เกี่ยวพันกับขบวนการสแกมในกัมพูชาเป็นจำนวนมาก และมีกรณีความรุนแรงสุดสะเทือนใจ เช่น นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกทรมานจนเสียชีวิต ส่งผลให้มีการเรียกร้องให้กัมพูชาตอบสนองอย่างจริงจังต่อขบวนการเหล่านี้.
ทางเลือกของโซล — ทางการทูต, การคว่ำบาตร และ “เครื่องมือเชิงปฏิบัติ”
สำนักข่าวรายงานว่าเกาหลีใต้กำลังพิจารณามาตรการหลายรูปแบบตั้งแต่การกดดันทางการทูต เช่น เรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาเข้าพบ การระงับหรือทบทวนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม/งบประมาณบางส่วน ไปจนถึงมาตรการทางกฎหมายต่อผู้สมรู้ร่วมคิดและขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ หากกัมพูชาไม่ร่วมมืออย่างจริงจัง โทนครอบคลุมอาจยกขึ้นเป็นกรณีการพิจารณาคว่ำบาตรหรือมาตรการตอบโต้อื่น ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ระบุ.
ความเสี่ยงและความท้าทายในการจัดการเหตุการณ์
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการที่แก๊งสแกมอาจย้ายถิ่นฐานหรือกระจายตัวไปยังพื้นที่อื่น ทำให้การติดตามและช่วยเหลือเหยื่อยากขึ้น และหากมีการใช้มาตรการรุนแรงเช่นการแทรกแซงทางทหาร ก็เสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศและผลกระทบต่อพลเรือน — นั่นคือเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการปกป้องพลเมืองกับผลทางการทูตและความมั่นคง.
สถานการณ์ขณะนี้ (สรุปจุดสำคัญ)
เกาหลีใต้ยืนยันจะดำเนินการเต็มสูบเพื่อปกป้องและกู้คืนพลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อสแกมในกัมพูชา และส่งทีมตอบโต้ข้ามหน่วยงานไปตรวจสอบในพื้นที่.
สมาชิกสภาบางส่วนเรียกร้องการตอบโต้ขั้นเด็ดขาด รวมถึงการพิจารณามาตรการเชิงรุกทางทหาร หากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ.
ชุมชนระหว่างประเทศจับตาการตอบสนองของทั้งสองรัฐบาล — หากกัมพูชาไม่ร่วมมือ ทางเกาหลีอาจใช้มาตรการทางการทูตหรือเศรษฐกิจเพิ่มเติม.
ข่าวกำลังเคลื่อนไหว — ประชาชนและครอบครัวผู้สูญหายเรียกร้องความชัดเจนและการกระทำที่รวดเร็ว ขณะที่โลกภายนอกจับตามองว่าความขัดแย้งเชิงนโยบายนี้จะบานปลายสู่การตอบโต้ทางการทูตหรือไม่.





















