เกาหลีใต้ไฟเขียวเตรียมมาตรการเข้ม ดันทีมตอบโต้-พิจารณาทางเลือกทางทหาร หลังชาวเกาหลีราว 80 คนยังสูญหายในกัมพูชา
โซล — ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ออกคำสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการตอบโต้แบบ “ทุกทางเลือก” เพื่อคุ้มครองพลเมืองเกาหลีใต้ที่ตกเป็นเหยื่อเครือข่ายหลอกลวงและการบังคับกักขังในกัมพูชา หลังมีรายงานว่ามีชาวเกาหลีใต้ราวกว่า 80 คนที่ยังไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้และอยู่ในสถานะ “สูญหาย/ถูกกักขัง” ขณะนี้รัฐบาลย้ำว่าจะเร่งนำคนกลับประเทศและจัดการกับขบวนการอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังอย่างเด็ดขาด.
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีอีสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคงร่วมกันทำงานเชิงรุก ใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อติดตาม ตรวจสอบ และนำพลเมืองกลับประเทศอย่างปลอดภัย รวมถึงการตั้งทีมตอบโต้ร่วม (joint response / task force) เพื่อประสานงานกับทางการกัมพูชาและหน่วยงานท้องถิ่น ขณะที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติได้ก่อตั้งคณะทำงานข้ามหน่วยงานเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.
เหตุการณ์รุนแรงที่จุดประกายความเป็นห่วงนี้ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากกรณีของนักศึกษาชาวเกาหลีที่ถูกล่อลวงด้วยข้อเสนองานและถูกทรมานจนเสียชีวิต ซึ่งสังคมเกาหลีใต้ช็อกและกดดันให้รัฐบาลลงมือทันที เหตุการณ์ดังกล่าวยังนำไปสู่การเรียกตัวทูตกัมพูชาเข้าพบและยกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังบางพื้นที่ในกัมพูชาเพื่อเตือนพลเมือง.
แนวทางการตอบโต้ที่รัฐบาลพิจารณา
การส่งทีมตอบโต้ร่วม: รายงานระบุว่ามีแผนจะส่งทีมตำรวจและหน่วยงานสอบสวนไปทำงานร่วมกับ ฝ่ายกัมพูชา เพื่อช่วยสืบสวน กดดันให้มีการปล่อยตัว และประสานการส่งกลับพลเมืองที่ถูกจับกุมหรือถูกกักขัง.
การยกระดับคำเตือนการเดินทาง: กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับระดับคำเตือนในบางพื้นที่ของกัมพูชาเพื่อให้ประชาชนระมัดระวังมากขึ้นและหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น.
การพิจารณาทางเลือกทางทหาร/ปฏิบัติการพิเศษ: ในวงการการเมืองและสื่อมีการถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของการใช้มาตรการเข้มขึ้นซึ่งรวมถึงการพิจารณาทางทหารหรือปฏิบัติการร่วมกับหน่วยท้องถิ่น หากทางการกัมพูชาไม่ร่วมมือหรือหากมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองชีวิตพลเมือง อย่างไรก็ดี ณ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันการส่งกองกำลังพิเศษของเกาหลีใต้ไปปฏิบัติการในกัมพูชาโดยตรง และรัฐบาลระบุว่าจะใช้ทุกช่องทางทางการทูตและการบังคับใช้กฎหมายก่อน.
ปฏิกิริยาทางการทูตและความร่วมมือระหว่างประเทศ เกาหลีใต้ได้เรียกตัวทูตกัมพูชาเข้าพบเพื่อแสดงความวิตกและเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาดำเนินการอย่างเข้มแข็งต่อเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ล่อลวงและกักขังประชาชนต่างชาติ นอกจากนี้มีการเรียกร้องให้มีการสืบสวนร่วม การส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเฉพาะกิจ และการเร่งรัดขั้นตอนการส่งผู้เสียชีวิตกลับประเทศเพื่อพิสูจน์สาเหตุการตายและดำเนินคดี.
ผลกระทบต่อสังคมและคำเรียกร้องของครอบครัว ข่าวการสูญหายและการเสียชีวิตได้สร้างความโกรธและความวิตกกังวลในเกาหลีใต้ ครอบครัวของผู้สูญหายเรียกร้องรัฐบาลทั้งในด้านการปกป้องและการชดเชย ขณะเดียวกันกลุ่มสิทธิมนุษยชนและองค์การระหว่างประเทศเตือนถึงปัญหาระบบนิเวศของขบวนการหลอกลวงออนไลน์และค่ายบังคับแรงงานที่มีเครือข่ายข้ามชาติ ซึ่งต้องการการตอบสนองเชิงนโยบายและการบูรณาการระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง.
สถานการณ์ต่อไป รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงว่าจะเร่งดำเนินการทั้งในเชิงการทูตและการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งเตือนพลเมืองให้อย่าตอบรับข้อเสนอการทำงานจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือและให้แจ้งข้อมูลกับสถานทูตก่อนเดินทาง ขณะที่สื่อและนักการเมืองจะจับตาดูว่ารัฐบาลจะเดินหน้าด้วยมาตรการใดบ้างเพื่อให้ผู้สูญหายกลับสู่ครอบครัวโดยปลอดภัยและหยุดยั้งขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่นี้.





















