พบอีกแล้ว! ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตรวจพบทุ่นเพิ่มรวม 9 ทุ่น สะท้อนภัยเงียบชายแดนไทย–กัมพูชา

สถานการณ์ความปลอดภัยบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชายังคงน่ากังวลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกองทัพภาคที่ 1 ร่วมกับกองกำลังบูรพา ออกปฏิบัติการตรวจพื้นที่บริเวณ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” พบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเพิ่มอีก 2 ทุ่น ทำให้ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมจนถึงปัจจุบันมีการค้นพบแล้วถึง 9 ทุ่นเต็มรูปแบบ ทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นภัยต่อชีวิตของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในพื้นที่

รายงานการปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ใช้วิธี เดินเท้าสำรวจพื้นที่โดยไม่ใช้เครื่องจักรกลหนักหรือรถถากถาง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีความเสี่ยงสูงจากการซ่อนทุ่นระเบิด เมื่อเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมาย ได้พบ

ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด สะเก็ดระเบิด POMZ-2 จำนวน 1 ทุ่น พิกัด 48PTA 55255 29022

ทุ่นระเบิดชนิดเดียวกันอีก 1 ทุ่น ที่พิกัด 48PTA 55264 29010

ทั้งสองลูกอยู่ในสภาพพร้อมทำงาน หากมีการสะดุดลวดหรือกระทบแรงดัน จะเกิดการระเบิดทันที เจ้าหน้าที่จึงเร่งดำเนินการเก็บกู้ตามขั้นตอนความปลอดภัยจนแล้วเสร็จ

ผลการสำรวจตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมจนถึงวันนี้ พบว่าพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วยังคงมี ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลรวม 9 ทุ่น ที่ตรวจพบและเก็บกู้สำเร็จ ประกอบด้วย

ชนิด PMN สภาพพร้อมใช้งาน จำนวน 6 ทุ่น

ชนิด MN79 จำนวน 1 ทุ่น

ชนิด POMZ-2 แบบสะเก็ดระเบิด จำนวน 2 ทุ่น

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่ชายแดนยังคงเป็นเขตอันตรายและต้องการการกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง ทุ่นระเบิดเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกฝังไว้ตั้งแต่ช่วงสงครามหรือความขัดแย้งในอดีต และยังไม่ถูกเก็บกู้หมด ทำให้ประชาชนที่อาศัยหรือทำการเกษตรในพื้นที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กองทัพภาคที่ 1 และกองกำลังบูรพาได้ยืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่กลับมาปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่แนวชายแดนที่ยังคงมีร่องรอยของสงครามเย็นและความขัดแย้งในอดีต ซึ่งยังส่งผลกระทบต่อผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่โดยรอบให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เขตที่มีการติดป้ายเตือนทุ่นระเบิด และหากพบวัตถุต้องสงสัย ห้ามเข้าไปแตะต้องโดยเด็ดขาด พร้อมให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหรือหน่วยเก็บกู้ทันที

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “ภัยเงียบ” ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในผืนแผ่นดินไทย แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านเก็บกู้ทุ่นระเบิดยังคงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ชายแดนให้กลับมาปลอดภัยในระยะยาว

การตรวจพบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่สะท้อนความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทหารในการดูแลความปลอดภัยของประเทศ ท่ามกลางภารกิจที่ยังต้องดำเนินต่อไปจนกว่าพื้นที่ชายแดนทั้งหมดจะปลอดภัยอย่างแท้จริง