คนเขมรในเกาหลีใต้เริ่มอยู่ยาก หลังคดีนักศึกษาเกาหลีถูกฆ่าที่กัมพูชา จุดกระแสต่อต้านรุนแรง

คนเขมรในเกาหลีใต้เริ่มอยู่ยาก หลังคดีนักศึกษาเกาหลีถูกฆ่าที่กัมพูชา จุดกระแสต่อต้านรุนแรง

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลังจากเกิดคดีสะเทือนขวัญ นักศึกษาเกาหลีใต้ถูกฆาตกรรมในประเทศกัมพูชา ล่าสุดบรรยากาศระหว่างชาวเกาหลีกับแรงงานชาวกัมพูชาที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้เริ่มตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

หญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในประเทศเกาหลี ออกมา ไลฟ์สดระบายความอึดอัดใจ พร้อมเล่าว่า หลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้ยกระดับคำเตือนและออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกัมพูชา ชาวเกาหลีจำนวนหนึ่งเริ่ม เลือกปฏิบัติและแสดงท่าทีไม่เป็นมิตร ต่อแรงงานชาวเขมรในหลายพื้นที่

เธอเผยว่า “ตอนนี้คนเขมรในเกาหลีเริ่มอยู่ไม่ได้ ไปที่ไหนก็ถูกมองด้วยสายตาไม่พอใจ ถูกเหยียด และบางคนถึงขั้นถูกไล่ออกจากรถบัส” สะท้อนถึงแรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ต้นเหตุของกระแสดังกล่าวมาจากคำพูดของ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นาย Echemyung ที่ออกมาระบุว่า

> “กัมพูชาเป็นเมืองแห่งอาชญากรรม ทั้งการปล้น การฉ้อโกงออนไลน์ และการกระทำที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ”

พร้อมทั้งประกาศ ห้ามประชาชนเกาหลีเดินทางไปกัมพูชา เพื่อความปลอดภัย หลังจากมีรายงานคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติในประเทศเพิ่มสูงขึ้น

สถานการณ์นี้ทำให้แรงงานชาวกัมพูชาหลายคนรู้สึกไม่มั่นคงในที่ทำงานและในชีวิตประจำวัน ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนในภูมิภาคอาเซียนต่างแสดงความคิดเห็นว่า “ทุกอย่างเริ่มสะท้อนผลของการกระทำในอดีต”

เสียงหนึ่งในโลกออนไลน์จากชาวไทยได้กล่าวว่า

 “สาธุ บุญบาปมันเริ่มปรากฏแล้วเนอะ ไทยเราเคยโดนใส่ไฟว่าไปกลั่นแกล้ง ตอนนี้คงเห็นกันชัดแล้วว่า ใครกันแน่ที่สร้างปัญหา”

เหตุการณ์นี้กำลังกลายเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับ “ภาพลักษณ์ของประเทศ” และ “ความสัมพันธ์ระหว่างชาติ” ที่อาจได้รับผลกระทบจากคำพูดและพฤติกรรมของคนเพียงไม่กี่กลุ่ม ซึ่งในยุคสื่อออนไลน์ กระแสสังคมสามารถเปลี่ยนได้ในพริบตา และส่งผลต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว.