เกาหลีใต้เดือด! รัฐมนตรีต่างประเทศเรียกทูตกัมพูชาพบ หลังนักศึกษาถูกลวงไปฆ่า – ยกระดับเตือนภัย ห้ามพลเมืองเดินทางไปกัมพูชา
เกาหลีใต้เดือด! รัฐมนตรีต่างประเทศเรียกทูตกัมพูชาพบ หลังนักศึกษาถูกลวงไปฆ่า – ยกระดับเตือนภัย ห้ามพลเมืองเดินทางไปกัมพูชา
รัฐบาลเกาหลีใต้แสดงท่าทีแข็งกร้าว หลังเกิดเหตุสลดนักศึกษาชาวเกาหลีถูกหลอกให้ไปทำงานในกัมพูชา ก่อนถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่กว่า 50 ล้านวอน หรือราว 1.1 ล้านบาท และสุดท้ายถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้สร้างความไม่พอใจอย่างหนักในสังคมเกาหลีใต้
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ได้เรียก เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำกรุงโซล เข้าพบเพื่อแสดงการประท้วงอย่างเป็นทางการ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินคดีผู้กระทำผิดอย่างโปร่งใสและจริงจัง รวมทั้งเพิ่มมาตรการปกป้องชาวต่างชาติในประเทศ หลังพบว่ามีแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ในกัมพูชาจำนวนมากใช้วิธีหลอกลวงคนเกาหลีให้ไปทำงาน ก่อนจับตัวเรียกค่าไถ่หรือบังคับให้ร่วมในขบวนการหลอกลวงออนไลน์
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า “นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก แต่เป็นสัญญาณชัดว่ากัมพูชากลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมข้ามชาติที่มุ่งเป้าไปยังคนเกาหลีโดยเฉพาะ รัฐบาลจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก”
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เกาหลีใต้ได้ประกาศ ยกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังกัมพูชา ทันที โดยแนะนำให้พลเมืองเลี่ยงการเดินทางทุกกรณี เว้นแต่จำเป็นอย่างยิ่ง พร้อมสั่งการให้สถานทูตในกรุงพนมเปญเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลคนเกาหลีในพื้นที่
รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า เหยื่อรายล่าสุดเป็นนักศึกษาชายวัย 20 ปี ถูกหลอกผ่านโซเชียลให้ไปทำงานด้านเทคโนโลยีในกัมพูชา แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับถูกจับตัว เรียกค่าไถ่จากครอบครัว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา คดีนี้กลายเป็นจุดแตกหักที่ทำให้รัฐบาลเกาหลีต้องแสดงท่าทีเด็ดขาดต่อกัมพูชา
นักวิเคราะห์มองว่า ความสัมพันธ์ระหว่างโซลและพนมเปญอาจตึงเครียดยิ่งขึ้น หากทางการกัมพูชาไม่สามารถยุติขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ที่สร้างความเสียหายต่อคนต่างชาติได้ โดยเฉพาะต่อชาวเกาหลีที่ตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ที่หลายประเทศถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งไซเบอร์ต่างชาติ และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้รัฐบาลต่างๆ ต้องเร่งร่วมมือกันปราบปรามอย่างจริงจัง



















