ผบ.เบญ ยืนยันไม่หวั่นกัมพูชาร้อง IOT ปม “ซาวด์ผี” ลั่นทำในแผ่นดินไทย ไม่แคร์ใครจะฟ้อง
พลตรีเบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ในฐานะผู้บังคับกองกำลังบูรพา ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนภายหลังเกิดกรณีที่ทางการกัมพูชาร้องเรียนต่อคณะกรรมการ IOT กรณีการเปิดเสียง “ซาวด์ผี” ใกล้แนวชายแดน โดยยืนยันว่าทุกการปฏิบัติเป็นไปภายในเขตแผ่นดินไทย และเป็นหน้าที่เพื่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ได้ละเมิดหรือก้าวล้ำแต่อย่างใด
พลตรีเบญจพลกล่าวว่า ปฏิบัติการต่างๆ ของกองกำลังบูรพาดำเนินการด้วยความรอบคอบและจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้ประชาชนได้กลับมาใช้ประโยชน์และทำกินได้ตามปกติ แม้จะมีอุปสรรคจากอีกฝ่าย แต่ไทยยังคงยึดมั่นในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน พร้อมเปิดเผยว่าเมื่อวานนี้หน่วยเก็บกู้ได้พบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 3 ลูก สะท้อนให้เห็นว่ายังมีความเสี่ยงตกค้างในพื้นที่ แต่ก็ไม่อาจหยุดภารกิจเพื่อความปลอดภัยระยะยาวของประชาชนได้
ในส่วนของการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC พลตรีเบญจพลระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถจัดขึ้นได้ เนื่องจากฝั่งไทยได้ยื่นข้อเสนอไปตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แต่ทางกัมพูชายังไม่ตอบรับตามที่เสนอไว้ จึงทำให้การหารือหยุดชะงัก ซึ่งกองทัพไทยยังคงยืนยันหลักการเดิมคือต้องการความร่วมมือที่จริงใจและโปร่งใส หากอีกฝ่ายต้องการเจรจา ต้องชัดเจนในประเด็น ไม่ใช่เพียงเชิญประชุมโดยไม่แจ้งเนื้อหา
เมื่อถูกถามถึงกรณีประชาชนในพื้นที่เตรียมเคลื่อนไหวผลักดันกัมพูชาในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ผบ.เบญกล่าวว่า เข้าใจถึงความรักชาติของพี่น้องประชาชน แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้การประเมินสถานการณ์ทางยุทธศาสตร์อย่างรอบคอบ หากฝ่ายไทยได้เปรียบในทุกด้านจึงจะดำเนินการต่อทันที พร้อมระบุว่าฝ่ายกัมพูชายังติดตามการเคลื่อนไหวของไทยอยู่ตลอดเวลา จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาความลับด้านความมั่นคง
ส่วนกรณีที่กัมพูชาร้องเรียนเรื่องการเปิดเสียง “ซาวด์ผี” พลตรีเบญจพลกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “จะร้องก็ร้องไป ผมทำในแผ่นดินของผม ผมมีทหารเข้าเวรเฝ้ายามทั้งคืนก็ต้องช่วยให้เขาตื่นตัว มันเป็นเรื่องในบ้านเรา ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อยากจะฟ้องก็ฟ้อง ผมไม่แคร์” พร้อมยืนยันว่ากำลังใจของทหารทุกนายยังคงเข้มแข็งและพร้อมปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลังทุกเมื่อ
ท่าทีของ “ผบ.เบญ” ครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน แม้จะเผชิญแรงกดดันจากต่างประเทศ แต่ยังยึดหลักปฏิบัติบนแผ่นดินไทยเพื่อประโยชน์ของประชาชนและความสงบมั่นคงของชาติ




















