🏃♂️ “บังดุล” นักวิ่งจิตอาสาชาวปัตตานี วิ่งข้ามจังหวัดระดมทุนสร้าง “กำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา”
🏃♂️ “บังดุล” นักวิ่งจิตอาสาชาวปัตตานี วิ่งข้ามจังหวัดระดมทุนสร้าง “กำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา” หวังแก้ปัญหาถาวร แถมจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
เช้าวันนี้บรรยากาศบริเวณอำเภอโคกกลอย จังหวัดพังงา คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งออกมารอให้กำลังใจ “บังดุล” นักวิ่งจิตอาสาชาวจังหวัดปัตตานี ที่กำลังอยู่ระหว่างภารกิจยิ่งใหญ่ “วิ่งสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา” ซึ่งเป็นโครงการส่วนบุคคลเพื่อระดมทุนสนับสนุนการก่อสร้างแนวกำแพงถาวรตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกของประเทศไทย
บังดุล เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้เกิดจากความห่วงใยต่อปัญหาชายแดนที่เรื้อรังมายาวนาน ทั้งในเรื่องการลักลอบเข้าเมือง การลักลอบค้าสินค้าหนีภาษี รวมถึงความไม่มั่นคงในพื้นที่บางจุด เขามองว่า “กำแพงชายแดน” หากทำอย่างมีระบบและบริหารจัดการที่ดี จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถต่อยอดให้เป็น “แหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้” ได้อีกด้วย
“ผมอยากเห็นชายแดนไทยเราเข้มแข็ง ปลอดภัย แต่ก็มีคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ผมเลยตั้งใจวิ่งจากปัตตานีไปถึงภูมะเขือ เพื่อระดมทุนและปลุกกระแสให้คนเห็นความสำคัญของการสร้างกำแพงนี้ครับ” บังดุลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา “บังดุล” ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในหลายจังหวัด ทั้งยะลา นราธิวาส สงขลา พัทลุง ตรัง และล่าสุดผ่านมาถึงพังงา ชาวบ้านจำนวนมากออกมามอบน้ำดื่ม ขนม และร่วมบริจาคสมทบทุนกันอย่างไม่ขาดสาย บางคนถึงกับวิ่งตามร่วมระยะสั้น ๆ เพื่อให้กำลังใจ
สิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการของบังดุลไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่ “สร้างกำแพง” ในเชิงโครงสร้างเท่านั้น แต่ยังมีแนวคิดเชิงพัฒนา โดยเขาต้องการให้บริเวณแนวชายแดนกลายเป็น “แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่” ที่สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
“ถ้าทำให้กำแพงเป็นมากกว่ากำแพง — เป็นแลนด์มาร์ก เป็นที่เรียนรู้ และเป็นจุดชมวิวธรรมชาติ มันจะสร้างรายได้ให้ชุมชนรอบข้างด้วย” บังดุลกล่าว พร้อมเผยว่าเงินที่ระดมได้จะถูกนำไปตั้งกองทุนโปร่งใส มีคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกบาททุกสตางค์ถึงเป้าหมายอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ บังดุลยังกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคนที่ร่วมเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่คอยอำนวยความสะดวก ตำรวจทางหลวงที่ดูแลความปลอดภัย รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ช่วยประชาสัมพันธ์ให้โครงการได้รับความสนใจในวงกว้าง
ขณะนี้ “บังดุล” ตั้งเป้าจะวิ่งต่อไปจนถึง “ภูมะเขือ” ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการวิ่งในภาคนี้ ก่อนจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อสรุปยอดบริจาคและประกาศแผนการดำเนินงานในระยะถัดไป
เขาทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทำให้หลายคนซึ้งใจว่า
> “ผมอาจเป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ แต่เชื่อว่า หากเราทุกคนช่วยกันคนละนิด ประเทศไทยจะมีพรมแดนที่เข้มแข็งและงดงามได้แน่นอน”
ภารกิจของ “บังดุล” ไม่เพียงสะท้อนพลังศรัทธาในบ้านเกิด แต่ยังเป็นตัวอย่างของพลังพลเมืองที่มุ่งหวังจะเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยสองเท้าของตัวเอง — วิ่งไปพร้อมกับหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง และความรักในแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง.




















