นักวิทย์สร้างตัวอ่อนมนุษย์ จาก DNA ผิวหนังได้แล้ว!!
นักวิทยาศาสตร์ในอเมริกา ได้สร้างความฮือฮาในวงการวิทยาศาสตร์ ด้วยการสร้างตัวอ่อนระยะเริ่มต้นของมนุษย์จาก DNA ในเซลล์ผิวหนังได้เป็นครั้งแรกของโลก!! ซึ่งการค้นพบนี้ถือเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้ที่มีบุตรยาก รวมถึงคู่รักเพศเดียวกัน ที่อาจมีบุตรด้วยการสืบทอดทางพันธุกรรมร่วมกัน ซึ่งจะมีผลตามกฎหมายนั่นเอง...
โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสุขภาพและวิทยาศาสตร์ออริกอน ในอเมริกา ซึ่งนำโดยศาสตราจารย์ "ชูครัต มิตาลิปอฟ" ได้ใช้เทคนิคเดียวกับการสร้าง "แกะดอลลี่" โดยการนำนิวเคลียสจากเซลล์ผิวหนัง ซึ่งบรรจุรหัสพันธุกรรมทั้งหมด มาใส่ในไข่ของผู้บริจาคที่ถูกถอดข้อมูลทางพันธุกรรมออกไปแล้ว จากนั้นกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัว จนเป็นไข่ที่สมบูรณ์ แล้วนำไปผสมกับสเปิร์ม ผลการศึกษาดังกล่าว ถูกตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ "การสื่อสารธรรมชาติ" พบว่า "ไข่ 82 ใบที่ถูกผสมกับสเปิร์ม สามารถพัฒนาเป็นตัวอ่อนระยะเริ่มต้น ที่เติบโตได้นานถึง 6 วัน" ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีไข่ใบใดพัฒนาไปได้เกินกว่านี้ แต่ "ชูครัต มิตาลิปอฟ" ได้กล่าวถึงความสำเร็จนี้ว่า "เราทำบางอย่างที่เคยคิดว่า "เป็นไปไม่ได้" สำเร็จแล้ว!!"
ถึงแม้จะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ก็ชี้ให้เห็นว่า "ยังจำเป็นต้องมีการอภิปรายอย่างเปิดกว้าง ต่อสาธารณชนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ และ ความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์" และ "แน่นอนว่าจะตามมาด้วยข้อกังวล ด้านความปลอดภัยที่สำคัญ..." "ชูครัต มิตาลิปอฟ" ยอมรับว่า "เทคนิคนี้ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากในการทดลองนี้ ไข่ได้สุ่มเลือกทิ้งโครโมโซม ทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น มีโครโมโซมซ้ำชนิดกัน 2 ชุด หรือบางชนิดก็ไม่เหลืออยู่เลย ซึ่งตามหลักแล้วไข่จะต้องมีโครโมโซมชนิดละ 1 ชุด จากทั้งหมด 23 ชนิด เพื่อป้องกันโรคหรือความผิดปกติ" นอกจากนี้ "อัตราความสำเร็จยังคงต่ำอยู่ที่ประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ และ โครโมโซมยังขาดกระบวนการจัดเรียงดีเอ็นเอใหม่ที่สำคัญที่เรียกว่า "กระบวนการไขว้เปลี่ยนของโครโมโซม" ตอนนี้ วิธีการนี้ยังอยู่ในระดับของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ และ จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปี ก่อนที่จะถูกพิจารณานำมาใช้จริงในทางคลินิก"
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ คือ การช่วยเหลือผู้มีภาวะมีบุตรยาก เช่น หญิงสูงอายุที่ไม่มีไข่เหลืออยู่ ชายที่ไม่สามารถผลิตอสุจิได้เพียงพอ หรือ ผู้ที่ผ่านการรักษาโรคจนทำให้มีบุตรยาก อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกัน สามารถมีลูกที่มีพันธุกรรมเชื่อมโยงกับทั้งคู่ได้ ซึ่ง "ชูครัต มิตาลิปอฟ" กล่าวยืนยันความตั้งใจนี้ว่า "ในอนาคตมันจะต้องเป็นแบบนั้น เพราะผู้ที่ไม่สามารถมีบุตรได้ มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้เราก็เห็นแล้วหนิว่า อัตราการเกิดในโลกนี้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน..."
อ้างอิง : livescience
อ้างอิง : livescience





















