พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ย้ำ “ปราสาทคนา” เป็นของไทย ต้องเอาคืนเหมือนภูมะเขือ — สถานการณ์บานปลายหรือไม่ ขึ้นกับฝ่ายเขมร
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ย้ำ “ปราสาทคนา” เป็นของไทย ต้องเอาคืนเหมือนภูมะเขือ — สถานการณ์บานปลายหรือไม่ ขึ้นกับฝ่ายเขมร
นครราชสีมา — พลโท บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์และบรรยายพิเศษต่อหน้านักศึกษาวิชาทหาร ระบุว่า ปราสาทคนา ในพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นพื้นที่ของไทยตามข้อมูลที่ตรวจสอบได้ และควรได้รับการ “เอากลับคืน” เช่นเดียวกับกรณีพื้นที่ภูมะเขือที่เคยเป็นประเด็นมาก่อนหน้านี้ โดยย้ำว่าหน้าที่ของกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือการพิทักษ์อธิปไตยของชาติและดำเนินการเมื่อพบว่าพื้นที่ใดเป็นของไทยจริง.
พล.ท.บุญสินกล่าวในช่วงหนึ่งว่าหากมีข้อพิพาทและพิสูจน์ได้ว่า “ปราสาทคนา” ตั้งอยู่ในเขตสันปันน้ำหรือพื้นที่ของไทย การผลักดันให้พื้นที่กลับคืนมาก็ถือเป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการ แต่การจะเกิดความบานปลายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชาว่าจะยอมเจรจาหรือแสดงท่าทีอย่างไร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจนำไปสู่การยืดเยื้อหรือคลี่คลายของสถานการณ์.
ประเด็นปราสาทคนาเพิ่งถูกนำขึ้นสู่ความสนใจหลังจากมีรายงานว่ามีการพบร่องรอยการตั้งฐานตรวจการณ์และสิ่งก่อสร้างบางอย่างบริเวณปราสาท โดยสื่อท้องถิ่นและเพจในพื้นที่รายงานว่าเคยมีการตั้งบันไดไม้และการปักหลักของฝ่ายกัมพูชาในจุดที่ชาวบ้านสังเกตเห็น ซึ่งทำให้ชาวบ้านและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่เป็นกังวลและเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง.
กองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาแจ้งข้อมูลว่าพื้นที่ปราสาทคนาอยู่ในเขตของไทยและมีการตรวจสอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องมีการประสานงานและหารือในระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและไม่ให้สถานการณ์บานปลาย. ทั้งนี้หน่วยงานทางการยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการปฏิบัติอย่างระมัดระวังตามขั้นตอนและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ.
นักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์ชี้ว่าแม้คำกล่าวของอดีตแม่ทัพจะสะท้อนท่าทีเข้มแข็งด้านอธิปไตย แต่การจัดการเรื่องแนวชายแดนต้องอาศัยการประสานงานทั้งฝ่ายท้องถิ่น กองทัพ กรมศิลปากร และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่อาจลุกลามเป็นเหตุความขัดแย้งรุนแรงระหว่างประเทศ. ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและขั้นตอนการแก้ไขโดยเร็ว.



















