ทหารกัมพูชาบุกตัดรั้วลวดหนามฝั่งไทย 3 กิโลเมตร ใกล้ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ – ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงชายแดน
ทหารกัมพูชาบุกตัดรั้วลวดหนามฝั่งไทย 3 กิโลเมตร ใกล้ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ – ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงชายแดน
วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุรินทร์ว่า เกิดเหตุ ทหารกัมพูชาเข้ามาตัดรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านบ้านภูมิซรอล อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้พื้นที่ ปราสาทตาควาย (Ta Kwai Temple) รวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้งสองประเทศเคยทำข้อตกลงหยุดยิงและห้ามดำเนินกิจกรรมทางทหาร
รายงานระบุว่า การกระทำของทหารกัมพูชาครั้งนี้เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ กองกำลังสุรนารี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องรีบส่งกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมเสริมกำลังลาดตระเวนรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันการปะทะและรักษาความสงบในพื้นที่
เบื้องต้น ฝ่ายไทยได้พยายามเจรจากับผู้บังคับบัญชาทหารกัมพูชาในพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าแนวรั้วลวดหนามที่ถูกตัดอยู่ในเขตอธิปไตยของตนเอง ขณะที่ฝ่ายไทยยืนยันว่า เป็นพื้นที่ในเขตประเทศไทยอย่างชัดเจน และการรื้อถอนรั้วดังกล่าวถือเป็นการ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงปี 2554 ซึ่งทั้งสองประเทศได้ลงนามร่วมกันหลังเหตุปะทะรุนแรงในอดีต
พล.ต.สมคิด ศรีสังข์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้ถ่ายภาพหลักฐานและจัดทำรายงานส่งให้กระทรวงกลาโหมแล้ว พร้อมเตรียมยื่นเรื่องต่อ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (GBC) เพื่อให้มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการและหาทางแก้ไขตามแนวทางสันติ
ในส่วนของชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน เจ้าหน้าที่ได้ขอให้งดทำการเกษตรหรือเข้าใกล้แนวเขตรั้วจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระทำซ้ำหรือความเคลื่อนไหวผิดปกติ
ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด แต่ยังไม่มีรายงานการปะทะหรือความสูญเสียจากทั้งสองฝ่าย โดยรัฐบาลไทยยืนยันจะใช้ ช่องทางการทูตและกลไกความร่วมมือชายแดน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและผลประโยชน์ของชาติ
อย่างสูงสุด


















