ศาลพิพากษา! “แม่ตั๊ก–ป๋าเบียร์” รับโทษจำคุกคนละ 20 ปี

⚖️ ศาลพิพากษา “แม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์” คดีทองคำออนไลน์ สั่งจำคุกคนละ 20 ปี รอลงอาญา 5 ปี หลังสำนึกผิด คืนเงินผู้เสียหายกว่า 57 ล้านบาท – เชื่อเข็ดหลาบไม่ทำผิดซ้ำ

วันที่ 7 ตุลาคม 2568 — ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อทย.582/2567 ซึ่งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวางตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกรณี “ธุรกิจทองคำออนไลน์” ที่ถูกกล่าวหาว่ามีลักษณะเข้าข่ายฉ้อโกงและโฆษณาเกินจริง โดยมีจำเลยทั้งหมด 3 ราย ได้แก่

1️⃣ บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด จำเลยที่ 1

2️⃣ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือที่รู้จักกันในวงการออนไลน์ว่า “ป่าเบียร์” จำเลยที่ 2

3️⃣ นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร หรือ “แม่ตั๊ก” จำเลยที่ 3

ทั้งสามถูกดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง จากกรณีโฆษณาขายเครื่องประดับทองคำผ่านระบบออนไลน์ โดยมีการกล่าวอ้างว่าทองคำที่จำหน่ายมีความบริสุทธิ์ 99.99% พร้อมโปรโมชั่นจูงใจมากมาย

 

🧾 สรุปคำพิพากษาศาลอาญา: จำคุก 20 ปี แต่ให้รอลงอาญา 5 ปี

หลังจากพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมด ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาโดยละเอียด ดังนี้

จำเลยทั้งสามมีความผิด ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต

🔸 ปรับบริษัทจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 25,000 บาท

🔸 จำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 3 เดือน และปรับคนละ 25,000 บาท

 

ฐานร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความอันไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

🔸 ศาลระบุว่า การโฆษณาโดยอ้างว่าทองคำมีความบริสุทธิ์ระดับ 99.99% ทั้งที่บางส่วนเป็นทองคำผสม ถือเป็นข้อความที่ “เกินจริง”

🔸 ลงโทษปรับบริษัทจำเลยที่ 1 เพิ่มอีก 25,000 บาท

🔸 จำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 1 เดือน 15 วัน และปรับคนละ 25,000 บาท

 

ฐานขายสินค้าควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากที่ถูกต้อง

🔸 ปรับบริษัทจำเลยที่ 1 อีก 25,000 บาท

🔸 จำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 1 เดือน 15 วัน และปรับคนละ 25,000 บาท

 

ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวม 60 กระทง

🔸 ปรับบริษัทจำเลยที่ 1 กระทงละ 10,000 บาท รวมเป็น 600,000 บาท

🔸 จำคุกจำเลยที่ 2-3 กระทงละ 6 เดือน รวมเป็น 360 เดือน (30 ปี)

🔸 แต่เนื่องจากเป็นคดีเดียวกันและมีการรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษให้เหลือ จำคุกคนละ 20 ปี และปรับคนละ 675,000 บาท

💰 ศาลชี้ “ทองคำไม่ปลอม” แต่การโฆษณาเกินจริง

ในส่วนของประเด็นสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด คือ “ทองคำของกลาง” ที่จำเลยทั้งสามนำมาขายให้แก่ผู้บริโภค ศาลอ้างอิงผลการตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า

 “ทองคำทั้งหมดเป็นทองคำแท้ มีค่าความบริสุทธิ์เฉลี่ยอยู่ที่ 99.99% จริงในบางชิ้น แต่บางรายการ เช่น จี้ทองคำรูปหัวใจ สร้อยข้อมือปี่เซียะ และกำไลหินหยก มีส่วนประกอบอื่น เช่น ลูกปัดและตะกรุดเชื่อมต่อกับชิ้นทอง ซึ่งทำให้ค่าความบริสุทธิ์ของทองคำโดยรวมลดลงเหลือเพียง 71-73%”

ศาลจึงเห็นว่า แม้ทองคำที่จำหน่าย ไม่ใช่ทองคำปลอม แต่การนำเสนอในลักษณะที่ระบุว่า “ทองคำแท้ 99.99% ทุกชิ้น” ถือว่า เป็นการโฆษณาเกินจริง และอาจก่อให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค

 

🙏 จำเลยสำนึกผิด คืนเงินกว่า 57 ล้านบาท

ระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี จำเลยทั้งสามแสดงความสำนึกผิด โดยได้ประกาศ “รับซื้อคืน” สินค้าที่จำหน่ายไปแล้ว และเปิดช่องทางให้ผู้บริโภคส่งคืนสินค้าพร้อมรับเงินคืนเต็มจำนวน

ผลการตรวจสอบของศาลระบุว่า

มีผู้ซื้อสินค้ารวมกว่า 3,929 ราย

จำเลยรับซื้อคืนแล้วจำนวน 1,610 ราย คิดเป็นมูลค่า 57,023,860 บาท

และได้วางเงินต่อศาลเพื่อคืนให้ผู้เสียหายอีก 36 ราย ครบถ้วนตามคำฟ้องของโจทก์

พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาในการ บรรเทาผลร้าย ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตน และพยายามแก้ไขปัญหาให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม ศาลจึงพิจารณาใช้เหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

 

🧑‍⚖️ เหตุผลที่ศาล “รอลงอาญา”

แม้คดีนี้จะมีโทษจำคุกสูงถึง 20 ปี แต่ศาลเห็นว่า จำเลยทั้งสอง (แม่ตั๊ก และป๋าเบียร์)

ให้การรับสารภาพในชั้นศาล

มีการชดใช้ค่าเสียหายคืนแก่ผู้เสียหายจำนวนมาก

ไม่เคยมีประวัติการกระทำผิดทางอาญามาก่อน

และได้ถูกควบคุมตัวในระหว่างการสอบสวนมาแล้วระยะหนึ่ง

ดังนั้นศาลจึงเชื่อว่า ทั้งคู่ “เข็ดหลาบและไม่กระทำผิดเช่นนี้อีก” จึงมีคำสั่งให้

 “รอการลงโทษจำคุกไว้ 5 ปี และให้คุมความประพฤติภายในระยะเวลานั้น โดยต้องรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติปีละ 2 ครั้ง และทำงานบริการสังคมไม่น้อยกว่า 30 ชั่วโมง”

พร้อมทั้งห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ ที่เข้าข่ายเป็นความผิดในลักษณะเดียวกันอีก หากฝ่าฝืน ศาลสามารถเพิกถอนการรอลงอาญาและนำโทษจำคุกมาบังคับใช้ได้ทันที

 

🧩 เบื้องหลังธุรกิจ “เคทูเอ็น โกลด์” และกระแสโซเชียล

คดีนี้ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงกลางปี 2567 หลังจากที่มีผู้บริโภคหลายรายออกมาโพสต์ร้องเรียนผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าได้ซื้อ “เครื่องประดับทองคำ” จากเพจ “K2N Gold” ที่มีการโฆษณาโดย แม่ตั๊ก และ ป่าเบียร์ ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการไลฟ์ขายของออนไลน์ โดยเน้นขายผ่าน Facebook Live และ TikTok Live มีผู้ติดตามรวมกันหลายแสนคน

โฆษณามักใช้ถ้อยคำชักจูง เช่น

 “ทองแท้ 99.99% ราคาส่งตรงจากโรงงาน”

“ซื้อวันนี้แถมทองคำแท้อีก 1 กรัม”

“รับประกันคืนเงิน 100% หากไม่พอใจ”

แต่ต่อมามีผู้ซื้อจำนวนหนึ่งนำทองไปตรวจสอบแล้วพบว่า บางชิ้นมีเนื้อทองน้อยกว่าที่ระบุไว้ และบางส่วนมีส่วนผสมของโลหะอื่นในสัดส่วนสูง จึงเกิดกระแสตั้งคำถามในโลกออนไลน์ ก่อนที่หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคและตำรวจจะเข้าตรวจสอบ

 

⚙️ กระบวนการสอบสวนและสืบพยาน

หลังจากมีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ตำรวจได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนของบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด พบว่า บริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ซึ่งเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นฟ้องต่อศาลในช่วงปลายปี 2567 โดยมีผู้เสียหายรวมกว่า 4,000 ราย และมูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท

 

🗣️ เสียงสะท้อนจากผู้เสียหาย

หลังคำพิพากษาถูกเผยแพร่ออกมา หลายคนในกลุ่มผู้เสียหายต่างออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียล บางรายระบุว่า “แม้ศาลจะให้รอลงอาญา แต่สิ่งสำคัญคือการได้รับเงินคืนครบถ้วน” ขณะที่บางรายมองว่า “การให้โอกาสผู้กระทำผิดที่สำนึกผิดถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะได้คืนเงินส่วนใหญ่ให้ประชาชน”

ผู้เสียหายรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า

 “เราซื้อเพราะเชื่อใจในชื่อเสียงของแม่ตั๊ก เขาเคยขายของออนไลน์มานาน พอเกิดเรื่องเขาก็ออกมาขอโทษและคืนเงินจริง ๆ ถือว่าอย่างน้อยเขารับผิดชอบ”

 

📌 บทเรียนสำคัญสำหรับผู้บริโภคยุคออนไลน์

คดีนี้กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญเกี่ยวกับ พฤติกรรมการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าประเภท “ทองคำ” หรือของมีค่า ซึ่งมักมีราคาสูงและเสี่ยงต่อการโฆษณาเกินจริง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายผู้บริโภคเตือนว่า

 “ไม่ว่าผู้ขายจะมีชื่อเสียงเพียงใด ผู้ซื้อควรตรวจสอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจและใบรับรองคุณภาพสินค้าให้ชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าทองคำซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของกรมการค้าภายในและ สคบ.”

 

💬 ความเคลื่อนไหวหลังคำพิพากษา

หลังศาลมีคำตัดสินออกมา ทั้ง “แม่ตั๊ก” และ “ป๋าเบียร์” ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่า ทั้งคู่เตรียมจะออกแถลงผ่านเพจส่วนตัว เพื่อขอบคุณศาลที่ให้โอกาสและยืนยันว่าจะไม่หวนกลับไปทำธุรกิจในลักษณะเดิมอีก

ส่วนบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการปิดบัญชีและชำระภาษีที่ค้างอยู่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

 

🔚 สรุป : ศาลให้โอกาส แต่ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ

คดี “แม่ตั๊ก – ป่าเบียร์” ถือเป็นกรณีสะท้อนว่า แม้ธุรกิจออนไลน์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การโฆษณาเกินจริงและการขาดความรอบคอบทางกฎหมายอาจนำไปสู่ความเสียหายมหาศาล ทั้งต่อตนเองและผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ศาลได้ให้โอกาสจำเลยทั้งสองกลับตัวกลับใจ โดยมีเงื่อนไขที่เข้มงวด ทั้งการคุมความประพฤติ การรายงานตัว และการทำประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดในอนาคตว่า ทั้งสองจะสามารถพิสูจน์ความจริงใจ และกลับมาใช้ชีวิตในเส้นทางที่ถูกต้องได้หรือไม่

 

🟡 สรุปใจความสำคัญ:

จำคุก “แม่ตั๊ก – ป๋าเบียร์” คนละ 20 ปี ปรับคนละ 675,000 บาท

ศาลรอลงอาญา 5 ปี ให้คุมประพฤติและทำงานสาธารณประโยชน์

คืนเงินผู้เสียหายแล้วกว่า 57 ล้านบาท

ศาลเชื่อว่าทั้งคู่สำนึกผิดจริง และจะไม่ทำผิดซ้ำอีก