โซเชียลเดือด! แฉคนเก็บค่าทางด่วนขี้เกียจรับเงิน คนขับสวดสนั่นคิดว่าเจอคนเดียว
ดราม่าค่าทางด่วน! พนักงานเก็บเงินเหมือนขี้เกียจ ทำผู้ใช้ถนนโวยลั่น สังคมแห่แฉพฤติกรรมสุดทน
ในโลกออนไลน์กำลังเกิด ดราม่าร้อนแรงเกี่ยวกับพนักงานเก็บค่าผ่านทางด่วน หลังมีคลิปวิดีโอเผยแพร่พฤติกรรมของพนักงานรายหนึ่ง ซึ่งถูกผู้ใช้ทางด่วนและคนขับรถหลายคนโจมตีว่าเหมือน “ขี้เกียจทำงาน” และไม่เต็มใจให้บริการประชาชน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียล
คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “ท่านเปาบุ้นจิ้น” โดยในคลิปเผยให้เห็นพนักงานเก็บเงินค่าทางด่วนกำลังโต้เถียงกับผู้ขับรถยนต์คนหนึ่ง ซึ่งกำลังยื่นเงินชำระค่าผ่านทางพร้อมกันกับน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวและแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจน
พฤติกรรมของพนักงานเก็บเงินค่าทางด่วน
จากคลิปและคำบอกเล่าของผู้ใช้บริการ พบว่าพนักงานเก็บเงินรายนี้มักจะ ทำตัวเหมือนไม่อยากทำงาน ไม่เต็มใจรับเงินจากผู้ขับรถ หากไม่ได้ยื่นเงินตรงตามมือพนักงาน หรือไม่ทำตามเงื่อนไขบางอย่าง พนักงานรายนี้จะมี ท่าทีไม่พอใจ โต้เถียง และบางครั้งแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
ผู้ใช้ทางด่วนหลายคนที่ผ่านจุดเก็บเงินนี้บ่อย ๆ เล่าว่าเจอเหตุการณ์เช่นนี้ประจำ จนสามารถ จดจำใบหน้าและพฤติกรรมของพนักงานรายนี้ได้ ผู้ขับรถบางคนเล่าว่า พนักงานรายนี้มักจะทำท่าทีเหมือน “ไม่อยากขยับมือมารับเงิน” ทำให้การชำระค่าผ่านทางล่าช้าและสร้างความไม่สะดวกแก่ผู้ใช้บริการ
คลิปดราม่ากลายเป็นไวรัล
แม้ว่าต้นฉบับของคลิปวิดีโอนี้จะถูกถ่ายไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ เพจสื่อออนไลน์นำคลิปมารีรันอีกครั้ง ทำให้เรื่องกลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียล ผู้คนจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของพนักงานเก็บเงิน พร้อมแชร์ประสบการณ์ตรงที่เคยเจอ
หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด เช่น
“คนนี้กวนจริง ๆ ผมเคยโดนหลายครั้ง ปากดีสุด ๆ”
“ผมก็เคยเจอครับ จำหน้าได้เลย พฤติกรรมแย่มาก”
“บางครั้งหยิกมือคนขับด้วย นิสัยเสียจริง ๆ ต้องไล่ออกไป”
“เหนื่อยก็ไปพักเถอะ หางานใหม่ทำดีกว่า งานนี้หนักไปไม่ไหว”
จากความคิดเห็นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมของพนักงานรายนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีผู้ใช้บริการจำนวนมากพบเจอปัญหานี้อยู่เป็นประจำ
ปัญหาการให้บริการประชาชน
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึง ปัญหาการให้บริการประชาชนในระบบทางด่วน หลายคนวิพากษ์ว่า การทำงานของพนักงานเก็บเงินควรเต็มใจให้บริการและ ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าและการจราจรติดขัด
ผู้ใช้บริการบางรายเตือนว่า การถ่ายคลิปวิดีโอและเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย อาจ เสี่ยงต่อกฎหมาย PDPA ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต หากเกิดกรณีพิพาทขึ้น การถ่ายคลิปอาจกลายเป็นประเด็นทางกฎหมายได้
ความเห็นจากชาวโซเชียล
แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่จะโจมตีพนักงานรายนี้อย่างรุนแรง แต่บางคนก็พยายาม เตือนสติผู้ใช้ทางด่วน ว่า ควรแจ้งเรื่องไปยังต้นสังกัดหรือผู้บริหารทางด่วนโดยตรง จะดีกว่าการถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงโซเชียล
อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากก็เห็นตรงกันว่า พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่บริการประชาชนควรมีความสุภาพและรวดเร็ว ไม่ควรให้ผู้ใช้บริการต้องรอหรือถูกตำหนิ เพราะพฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนถึง ความไร้ความรับผิดชอบ และสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
ตัวอย่างความคิดเห็นที่โดดเด่น
1. ผู้ใช้รายหนึ่ง ระบุว่า พนักงานรายนี้มักจะทำตัวเหมือน “ทำงานวัน ๆ ไร้จุดหมาย” แม้ผู้ขับรถจะยื่นเงินเต็มมือแล้ว พนักงานก็ไม่ยอมรับทันที ทำให้เกิดความล่าช้าและติดขัดบนทางด่วน
2. ผู้ใช้รายอื่น เล่าว่า พนักงานบางครั้งขัดขืนไม่ยอมรับเงิน ต้องยื่นเหรียญหรือธนบัตรใส่ตู้ด้วยตนเอง และบางครั้งยังทำท่าทางไม่เป็นมิตรกับผู้ขับรถ
3. ผู้ใช้บริการประจำ เสริมว่า พนักงานรายนี้เคยทำท่าหยิกมือผู้ขับรถ และบางครั้งมีท่าทีหยาบคาย ทำให้ผู้ใช้บริการโกรธและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ความคิดเห็นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมของพนักงานรายนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการทางด่วนจำนวนมาก และกลายเป็นประเด็นสังคมที่ต้องให้ความสนใจ
ปัญหาด้านการบริหารจัดการ
เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึง ความจำเป็นในการปรับปรุงการบริหารจัดการและการฝึกอบรมพนักงานเก็บเงิน โดยเฉพาะในจุดบริการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง การฝึกอบรมควรเน้นเรื่อง
การให้บริการด้วยความสุภาพและรวดเร็ว
การจัดการกับสถานการณ์ความขัดแย้งหรือผู้ไม่พอใจ
การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและกฎหมาย
หากไม่มีมาตรการเหล่านี้ อาจทำให้เกิด ปัญหาซ้ำซาก เช่น การโต้เถียงกับผู้ใช้บริการ การล่าช้าในการเก็บเงิน และความไม่พอใจของประชาชน
ข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ทางด่วน
ผู้ใช้ทางด่วนหลายคนเสนอว่า ควรมี มาตรการตรวจสอบและปรับปรุงการทำงานของพนักงานเก็บค่าผ่านทาง เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างข้อเสนอแนะ เช่น
1. ติดตั้งกล้องวงจรปิดและบันทึกพฤติกรรมการให้บริการ เพื่อใช้เป็นหลักฐานและตรวจสอบคุณภาพการทำงาน
2. จัดอบรมและประเมินผลพนักงานเป็นประจำ เน้นเรื่องมารยาทการให้บริการและความรวดเร็ว
3. เปิดช่องทางร้องเรียนและข้อเสนอแนะของประชาชน เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งปัญหาได้โดยตรง
4. เพิ่มความเข้าใจเรื่องกฎหมาย PDPA ให้พนักงานและผู้ใช้บริการ รับรู้ข้อจำกัดในการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล
บทเรียนสำหรับประชาชนและพนักงาน
เหตุการณ์นี้เป็น บทเรียนสำคัญทั้งสำหรับผู้ใช้บริการและพนักงาน
สำหรับผู้ใช้บริการ: ควรแจ้งเรื่องไปยังต้นสังกัดหากพบปัญหา และหลีกเลี่ยงการถ่ายคลิปที่อาจละเมิดกฎหมาย PDPA
สำหรับพนักงาน: การให้บริการด้วย ความสุภาพ รวดเร็ว และเต็มใจ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างความพึงพอใจและลดความขัดแย้งกับประชาชน
สรุป
กรณีดราม่าพนักงานเก็บค่าทางด่วนนี้ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ความขยันและความสุภาพในการให้บริการประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ พฤติกรรมที่เหมือนขี้เกียจและไม่เต็มใจทำงาน ทำให้เกิดความไม่พอใจและกระแสวิจารณ์จากผู้ใช้บริการอย่างรุนแรง
ผู้ใช้ทางด่วนจำนวนมากเข้ามาแฉประสบการณ์ตรงที่เคยเจอพฤติกรรมสุดทนของพนักงานรายนี้ แสดงให้เห็นว่าปัญหาไม่ใช่เรื่องชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็น ปัญหาเรื้อรังที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ การแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงการตำหนิพนักงาน แต่ยังต้อง ปรับปรุงระบบการทำงาน การฝึกอบรม และมาตรการควบคุมคุณภาพบริการ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการอย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้งซ้ำ
