The Art of the (Impossible) Deal..
The Art of the (Impossible) Deal":
ทรัมป์จะ "ดีล" สันติภาพกับฮามาสได้อย่างไร?
เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่เปลวไฟแห่งความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสได้เผาผลาญฉนวนกาซาจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ท่ามกลางความล้มเหลวของการเจรจาทางการทูตครั้งแล้วครั้งเล่า... โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับประชาคมโลกอีกครั้ง... ด้วยการยื่น "ข้อเสนอ" ที่ไม่มีใครคาดคิด... เพื่อยุติสงครามที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้นนี้
**"ข้อเสนอ" ของทรัมป์: ไม้แข็งและแครอท**
ข้อเสนอของทรัมป์ที่ถูกเปิดเผยออกมานั้น... คือการใช้กลยุทธ์ "ไม้แข็งและแครอท" (Carrot and Stick) ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ โดยยื่นข้อเสนอที่แตกต่างกันสุดขั้วให้กับทั้งสองฝ่าย
* **ต่ออิสราเอล (ไม้แข็ง):** ทรัมป์ได้ยื่นคำขาดที่น่าตกใจแก่อิสราเอล... คือการขู่ว่าจะตัดความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดหากอิสราเอลไม่ยอมรับ แนวทางการแก้ปัญหาสองรัฐ" (Two-State Solution) และไม่หยุดการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์อย่างถาวร นี่คือการ "หัก" นโยบายเดิมของพรรครีพับลิกันที่เคยสนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไข... และเป็นการสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อรัฐบาลของเนทันยาฮู
* **ต่อฮามาส (แครอท):** ในขณะเดียวกัน... ทรัมป์ก็ได้ยื่นข้อเสนอที่ "เย้ายวนใจ" ที่สุดให้กับฮามาสและชาวปาเลสไตน์... คือการรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ อย่างเป็นทางการจากสหรัฐอเมริกา... พร้อมกับ แพ็คเกจความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจขนาดมหึมาเพื่อฟื้นฟูฉนวนกาซา... โดยมีเงื่อนไขว่าฮามาสจะต้องยอมวางอาวุธ ปลดปล่อยตัวประกันทั้งหมด และยอมรับการมีอยู่ของรัฐอิสราเอล
**ทำไมฮามาสถึง "อาจจะ" ยอมเจรจา?**
นักวิเคราะห์มองว่า... ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อ... แต่ข้อเสนอของทรัมป์ก็มี "ช่อง" ที่อาจจะทำให้ฮามาสยอมหันมาสู่โต๊ะเจรจาได้
1. **ความเหนื่อยล้าจากสงคราม:** หลังจากที่ต้องสู้รบมาเป็นเวลานาน... ทั้งฮามาสและชาวกาซาต่างก็บอบช้ำและต้องการการฟื้นฟู
2. **การยอมรับในเวทีโลก:** การได้รับการ "รับรอง" จากสหรัฐอเมริกา... คือ "ชัยชนะ" ทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่กลุ่มปาเลสไตน์เคยได้รับมาโดยตลอด
3. **ทรัมป์คือ "ไพ่ที่คาดเดาไม่ได้":** ฮามาสอาจจะมองว่า... ทรัมป์คือผู้นำอเมริกาคนเดียวที่ "กล้า" จะกดดันอิสราเอลได้อย่างแท้จริง... ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนจากประธานาธิบดีคนอื่นๆ
**ข้อจำกัดที่อาจทำให้การเจรจาล่ม**
อย่างไรก็ตาม... เส้นทางสู่สันติภาพนั้นยังคงเต็มไปด้วยขวากหนามที่พร้อมจะทำให้ทุกอย่างพังทลายลงได้ทุกเมื่อ
1. **กลุ่มหัวรุนแรงในทั้งสองฝ่าย:** ทั้งในอิสราเอลและในกลุ่มฮามาส... ยังคงมีกลุ่ม "สายแข็ง" ที่ไม่ต้องการเห็นสันติภาพ และพร้อมที่จะก่อเหตุรุนแรงเพื่อล้มล้างการเจรจาได้เสมอ
2. **ความไม่ไว้วางใจที่ฝังรากลึก:** ความขัดแย้งที่ยาวนานเกือบร้อยปี... ได้สร้าง "ความเกลียดชัง" และ "ความไม่ไว้วางใจ" ที่ยากจะลบเลือนได้ การจะให้ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นใน "คำสัญญา" ของอีกฝ่าย... คืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด
3. **ความไม่แน่นอนของทรัมป์เอง:** "ความคาดเดาไม่ได้" ของทรัมป์... แม้จะเป็นจุดแข็ง... แต่ก็เป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรงที่สุดเช่นกัน หากเขาเกิด "เปลี่ยนใจ" หรือ "หมดความสนใจ" ในข้อตกลงนี้ไปกลางคัน... ทุกอย่างก็จะพังทลายลงในทันที
บทสรุปสุดท้ายของ "ดีลที่เป็นไปไม่ได้" นี้จะจบลงอย่างไร... ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่นี่คือการ "เดิมพัน" ครั้งใหญ่ที่สุดของโดนัลด์ ทรัมป์... ที่จะพิสูจน์ว่า "ศิลปะแห่งการเจรจา" ของเขา... จะสามารถสร้างสันติภาพในดินแดนที่ร้อนระอุที่สุดในโลกได้จริง... หรือจะเป็นแค่ "ละคร" ฉากหนึ่งที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมเช่นเคย
อ้างอิงจาก: Source 1: The New York Times - "Trump Presents 'Carrot and Stick' Plan for Mideast Peace"
Link: https://www.nytimes.com/2025/10/04/world/middleeast/trump-israel-palestine-peace-plan.html
Source 2: Al Jazeera - "Hamas 'Cautiously Optimistic' About Trump's Proposal"
Link: https://www.aljazeera.com/news/2025/10/04/hamas-cautiously-optimistic-about-trumps-proposal















