พลิกวิกฤตหนูปารีส Geoffroy Boulard นำ "มิกกี้" กวาดถนนหาเสียง (กลยุทธ์การเมืองสุดปัง)

เรื่องราวของ "หนู" ในกรุงปารีสที่เคยเป็นปัญหาและภาพลักษณ์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ กำลังถูกพลิกผันให้กลายเป็นแคมเปญหาเสียงสุดสร้างสรรค์ เมื่อ เจฟฟรีย์ โบลลี (Geoffroy Boulard) รองนายกเทศมนตรีเขตที่ 17 ของกรุงปารีส และนักการเมืองพรรคสายกลาง-ขวา (Les Républicains) ตัดสินใจใช้ประเด็นนี้เป็นจุดเด่นในการหาเสียงของเขา

โบลลีซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองที่ต่อสู้กับปัญหาหนูในปารีสมาโดยตลอด ได้สร้างความฮือฮาด้วยการจัดกิจกรรมหาเสียงที่ผสมผสานความจริงจังและความขบขันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว 

แทนที่จะแค่พูดถึงนโยบาย โบลลีได้จัดกิจกรรม "การเดินขบวน" โดยมีผู้คนแต่งกายเป็นตัวการ์ตูนหนูชื่อดังระดับโลกอย่าง มิกกี้ เมาส์ (Mickey Mouse) เข้าร่วม การปรากฏตัวของเหล่ามิกกี้เมาส์ในชุดสีสันสดใสพร้อมด้วยไม้กวาดและที่ตักขยะ เดินไปตามท้องถนนในเขต 17 กลายเป็นภาพที่ดึงดูดสายตาและได้รับความสนใจจากสาธารณชนทันที

แคมเปญนี้มีชื่อว่า "Opération Mickey Sourit à Paris" (ปฏิบัติการมิกกี้ยิ้มให้ปารีส) ซึ่งเป็นการล้อเลียนอย่างชาญฉลาดต่อปัญหาหนูที่ทำให้ปารีสมีภาพลักษณ์ที่ไม่น่าอภิรมย์ การใช้สัญลักษณ์ของมิกกี้ซึ่งเป็นหนูที่น่ารักและเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก สะท้อนถึงความพยายามที่จะ เปลี่ยนทัศนคติ และ สร้างความตระหนัก เกี่ยวกับการจัดการขยะและสุขอนามัยในเมือง 

ปัญหาหนูในปารีสไม่ได้เป็นแค่เรื่องของสุขอนามัย แต่ยังเป็นประเด็นการเมืองที่ร้อนแรง โบลลีเคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของ แอนน์ อิดัลโก (Anne Hidalgo) นายกเทศมนตรีคนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่าการแก้ปัญหาหนูนั้น "อ่อนแอ" และ "ล้มเหลว" การนำมิกกี้เมาส์มาใช้ในแคมเปญนี้จึงไม่ใช่แค่การแสดงออกอย่างตลกขบขัน แต่เป็นการ ประท้วงอย่างเงียบๆ และ เรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เด็ดขาด ยิ่งขึ้นในการจัดการกับประชากรหนูที่คาดว่ามีจำนวนมากกว่าประชากรมนุษย์ในเมืองเสียอีก

การที่โบลลีลงมือ "กวาดถนน" ไปพร้อมกับเหล่ามิกกี้เป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่า เขาพร้อมที่จะ ลงมือทำจริง และ ใส่ใจ ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชาวปารีส การใช้อารมณ์ขันและสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักช่วยให้เขาสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น และทำให้ประเด็นที่มักจะถูกมองข้ามกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ 

แคมเปญของโบลลีประสบความสำเร็จในการสร้าง กระแสสังคม และทำให้เขากลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ไม่ว่าผู้คนจะเห็นด้วยกับวิธีนี้หรือไม่ แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นวิธีการหาเสียงที่ โดดเด่น และ ไม่เหมือนใคร

การพลิกเอาประเด็นปัญหาที่น่ารังเกียจมาเป็นเครื่องมือในการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์นี้ แสดงให้เห็นถึงศิลปะของการเมืองสมัยใหม่ที่ต้องอาศัยการตลาดและความคิดที่แหวกแนว การเดินขบวน "มิกกี้" ไม่เพียงแต่ทำให้โบลลีได้รับความสนใจ แต่ยังช่วยย้ำเตือนชาวปารีสว่า การจัดการเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องของโครงการใหญ่ๆ แต่ยังรวมถึงเรื่องพื้นฐานอย่าง ความสะอาด และ การควบคุมศัตรูพืช ที่ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของพวกเขา

แคมเปญนี้จึงเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการเปลี่ยนวิกฤต (ปัญหาหนู) ให้กลายเป็นโอกาส (สร้างภาพลักษณ์ทางการเมืองที่น่าจดจำและเข้าถึงง่าย) และเป็นสัญญาณว่าการเมืองในกรุงปารีสกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น