นักวิชาการเขมรดิ้นพล่าน! หลัง "ไทย" ประจาน "กัมพูชา" กลาง UN..ลั่น! "ไทย" บิดเบือนความจริง
นักวิชาการเขมรดิ้นพล่าน! หลัง "ไทย" ประจาน "กัมพูชา" กลาง UN..ลั่น! "ไทย" บิดเบือนความจริง สื่อดังของกัมพูชาอย่าง "แขมร์ไทม์ส" ได้เสนอบทความของนักวิชาการเขมรออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไทย หลังจากนาย "สีหศักดิ์" ได้ออกมาประจาน "กัมพูชา" กลางเวทีใหญ่สหประชาชาติ หรือ UN ทั้งนี้นักวิชาการเขมรก็เรียกร้องให้พนมเปญพยายามทางการทูต โดยหาชาติที่สามมาเป็นส่วนร่วมเพื่อยุติข้อพิพาทนี้
ด้าน นายเชง กิมลอง ซึ่งเป็นประธานสถาบันวิสัยทัศน์เอเชีย ของกัมพูชา ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตัวแทนของประเทศไทยในเวทีสหประชาชาติ โดยกล่าวหาว่าไทยได้นำเสนอข้อกล่าวอ้างของตนว่าเป็นข้อเท็จจริง โดยที่ไม่มีหลักฐานมาสนับสนุน ทั้งนี้ก็ได้ประณามไทยที่พึ่งพาแผนที่มาตรา 1: 50000 ว่าหน้าไม่ละอาย เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาท ในขณะเดียวกันก็ใช้ความรุนแรงต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เหล่านั้นด้วย การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
นายกิมลองยังบอกด้วยว่า ประเทศไทยชอบที่จะกลับคำพูด แม้จะบอกว่าเป็นประเทศที่รักสันติ แต่การกระทำที่แท้จริงนี้กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมของไทย และแนวทางในการจัดการข้อพิพาทอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชื่อเสียงของไทยในระดับนานาชาติ ทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะในเวทีโลก กัมพูชาจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามในการแจ้งเรื่องนี้ให้นานาชาติทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในกัมพูชา เพื่อต่อสู้กับการโกหก และการบิดเบือนข้อมูลของไทย
ส่วน ปู โสธิรักษ์ ซึ่งเป็นอดีตนักวิชาการและที่ปรึกษาอาวุโสดีเด่นของศูนย์การศึกษาภูมิภาคกัมพูชา ได้กล่าวว่า เขาไม่แปลกใจเลยกับคำกล่าวอ้างของสีหศักดิ์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ สหประชาชาติมักเป็นสถานที่ที่ประเทศต่างๆ แสดงความไม่พอใจซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน โสธิรักษ์ ก็ได้เสนอแนะให้กัมพูชาและไทยทำงานร่วมกับมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน เพื่อหาแนวทางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ หากเกิดสงครามหรือความขัดแย้งทางอาวุธขึ้นมาอีก จะนำมาซึ่งความอับอายและทำลายความน่าเชื่อถือของอาเซียน ทั้งนี้ก็หวังว่าไทยจะเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ และแสดงความตั้งใจจริงที่จะแสวงหาสันติภาพกับกัมพูชา โดยเชื่อว่าตอนนี้รัฐบาลกัมพูชากำลังทำอย่างดีที่สุดแล้ว
















