ชาวกาซาคิดว่าแผนสันติภาพของทรัมป์เป็นเรื่องตลก

     วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] ชาวกาซา "อิบราฮิม จูเดห์" วัย 39 ปี ที่เผชิญสงครามมาอย่างยาวนาน ได้แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อแผนสันติภาพล่าสุด ที่ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำของอเมริกาว่า "เป็นเรื่องลวงตาที่ไม่สามารถยุติสงครามได้จริง!!" และ "มันชัดเจนว่าแผนนี้ไม่มีทางเป็นจริง!!" และ "เงื่อนไขที่กำหนดมา เป็นสิ่งที่อเมริกาและอิสราเอลรู้ดีว่า ฮามาสจะไม่มีวันยอมรับ สำหรับพวกเรา นั่นหมายความว่าสงครามและความทุกข์ทรมาน จะยังคงดำเนินต่อไป..."

     ก่อนหน้านี้ "โดนัลด์ ทรัมป์" เพิ่งเปิดเผยแผน 20 ข้อ เพื่อยุติสงคราม ซึ่งนายกรัฐมนตรี "เบนจามิน เนทันยาฮู" ผู้นำของอิสราเอล ก็ได้ให้การสนับสนุนหลังการหารือกับ "โดนัลด์ ทรัมป์" ที่ทำเนียบขาว โดยสาระสำคัญของแผนมีดังนี้ เช่น...
     - หยุดยิงทั้งสองฝ่าย
     - การปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดของฮามาส
     - การปลดอาวุธของฮามาส
     - การถอนทหารอิสราเอล ออกจากกาซาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

     นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้จัดตั้ง "กองกำลังนานาชาติชั่วคราว เพื่อสร้างเสถียรภาพ" และ การจัดตั้งคณะบริหารชั่วคราว โดยมี "โดนัลด์ ทรัมป์" เป็นประธานร่วมกับผู้นำต่างประเทศอื่นๆ โดยแผนดังกล่าวยังระบุว่า "ฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ จะไม่มีบทบาทใดๆ ในการปกครองกาซา ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม..."

     ชาวกาซา "อาบู มะเซน นัสซาร์" วัย 52 ปี กล่าวว่า "แผนนี้มีเป้าหมายเพื่อบีบให้ฝ่ายปาเลสไตน์ ส่งตัวประกันโดยไม่ได้สันติภาพตอบแทน..." และ "นี่มันคือการหลอกลวงทั้งหมด การปล่อยตัวเชลยโดยไม่มีหลักประกันอย่างเป็นทางการ ว่าจะยุติสงคราม มันหมายความว่าอะไร?" และ "พวกเราในฐานะประชาชน จะไม่มีวันยอมรับเรื่องหลอกลวงนี้เด็ดขาด!!" และ "ไม่ว่าฮามาสจะตัดสินใจอย่างไร เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว!!" และ "ฮามาสทำให้เราสูญเสีย และ จมอยู่ในหายนะที่ มันก่อขึ้นเอง..."

     พ่อค้าขายของริมถนน "อานัส โซรูร์" วัย 31 ปี จากเมืองคานยูนิสทางตอนใต้ ซึ่งปัจจุบันต้องอพยพมาอยู่ที่อัลมาวาซี กล่าวว่า "ถึงแม้จะผ่านเรื่องราวและความสูญเสียจากสงครามนี้มามาก แต่ผมก็ยังคงมีความหวังอยู่ดี..." และ "ไม่มีสงครามใดที่ยืดเยื้อไปตลอดกาล ครั้งนี้ผมมองในแง่ดีมาก" และ "ถ้าพระเจ้าประสงค์ มันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ที่จะทำให้เราลืมความเจ็บปวด และ ความทุกข์ใจได้..."

     "นัจวา มุสลิม" แม่บ้านวัย 29 ปี กล่าวว่า "ไม่เพียงแต่ฉันหมดศรัทธาต่อข้อตกลงนี้ แต่ฉันยังหมดศรัทธาต่อชีวิตแล้วด้วย!!" และ "หากพวกเขามีเจตนาที่แท้จริง ที่จะยุติสงครามจริงๆ พวกเขาคงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานขนาดนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันไม่เชื่อคำพูดใดๆ ของพวกเขาอีกต่อไป"

     "โมฮัมเหม็ด อัล เบลตาจี" วัย 47 ปี จากกาซาซิตี กล่าวว่า "เหมือนเดิมเสมอ อิสราเอลตกลงแต่ฮามาสปฏิเสธ หรือ ไม่ก็กลับกันแบบวนลูป ไม่ว่าชาวกาซาจะขอร้องแค่ไหน พวกเขาก็ยังทำแบบเดิมทุกครั้ง ครั้งล่าสุดทุกคนยอม แต่ฮามาสไม่ยอม มันก็กลับมาที่ลูปเดิมๆ" และ "คนที่เดือดร้อนจริงๆไม่ใช่ฮามาส ไม่ใช่อิหร่าน ไม่ใช่ตุรกี หรืออื่นๆ แต่คือประชาชนคนธรรมดานี่แหล่ะ!!"

อ้างอิง : freemalaysiatoday