ศาลตัดสินแล้ว กรณีควบรวม'ทรู – ดีแทค'
ย้อนกลับเมือเดือนตุลาคม 2565 ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการแข่งขันจากผู้ให้บริการ 3 ราย ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกทั้งแพ็กเกจ และราคา แต่เมื่อ กสทช. มีมติรับทราบการควบรวมทรู-ดีแทค สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ผู้บริโภคเหลือทางเลือกแค่ 2 ราย ทำให้ค่าบริการสูงขึ้น แต่คุณภาพกลับลดลง ผู้บริโภคต้องเผชิญกับค่าบริการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเติมเงินที่ค่าบริการสูงขึ้นถึง 12–16% ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใข้ถึง 80% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ และมักมีรายได้น้อย
วันนี้ (26 กันยายน 2568) ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่สภาผู้บริโภคยื่นฟ้องให้เพิกถอนมติ กสทช. กรณีการควบรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC ศาลมีคำสั่ง "ยกฟ้อง" โดยให้เหตุผลไว้ว่า การควบรวมธุรกิจลักษณะนี้ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจาก กสทช. และมาตรการการผูกขาดไม่ได้กำหนดให้ กสทช.ต้องรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ นอกจากนั้นการรวบธุรกิจของ TRUE และ DTAC แตกต่างกับการเข้าซื้อหุ้นหรือซื้อสินทรัพย์ที่ผู้รับใบอนุญาตจะต้องขออนุญาตจาก กสทช. ดังนั้นการควบรวมนี้ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ส่งผลให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์โดยตรงจากการผูกขาดการให้บริการ
อย่างไรก็ตาม สภาองค์กรผู้บริโภค จะยังใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างถึงที่สุด










