เช็กเลย! กลุ่มเปราะบาง ‘คนละครึ่งพลัส’ เพิ่มสิทธิ์รับเงิน 2,000 บาท
อัปเดตล่าสุด "คนละครึ่งพลัส" เตรียมให้สิทธิกลุ่มเปราะบางก่อน เพิ่มวงเงินจาก 300 บาท เป็น 2,000 บาทต่อเดือน
ล่าสุดโลกออนไลน์และสื่อสังคมต่าง ๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับ โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่รัฐบาลไทยเตรียมดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนประชาชนกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษก่อนเป็นกลุ่มแรก และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือจาก เดือนละ 300 บาทเป็น 2,000 บาท
การอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับโครงการนี้ มีความสำคัญต่อประชาชนหลายกลุ่ม เนื่องจากเป็นมาตรการที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มกำลังซื้อ และกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568
นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ชี้โครงการคนละครึ่งพลัสเป็น Big Win ของประเทศ
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้กล่าวถึงโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อประชาชน เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้าง การมีส่วนร่วมระหว่างรัฐและประชาชน โดยมีแนวคิด การแชร์ความช่วยเหลือร่วมกัน
นายกฯ อนุทิน ระบุว่าโครงการนี้เป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนกลุ่มผู้เสียภาษี โดยรูปแบบการช่วยเหลือคือ 60:40 คือรัฐช่วยจ่าย 60% และประชาชนจ่ายเอง 40% ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนได้เร็วขึ้น
“รัฐบาลมีเวลาไม่มาก แต่อาจทำทุกอย่างที่ค้างท่อโดยเร่งปัจจัยต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่เวลาเอื้ออำนวย รัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่มีปัญหา พรรคร่วมไม่ขัดขวาง ทุกอย่างเป็นประโยชน์กับประเทศ ถือว่าเป็น Big Win ของประเทศ”
คำกล่าวของนายกฯ อนุทินสะท้อนถึง ความมุ่งมั่นของรัฐบาล ในการเร่งดำเนินโครงการเพื่อสร้างประโยชน์ต่อประชาชนให้รวดเร็วที่สุด
แบ่งกลุ่มสิทธิคนละครึ่งรอบใหม่
สำหรับ โครงการคนละครึ่งรอบใหม่ หรือ คนละครึ่งพลัส จะมีการแบ่งสิทธิเป็น 2 กลุ่มหลัก
1. กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ผู้เสียภาษีจะได้รับสิทธิพิเศษในรูปแบบ รัฐช่วยจ่าย 60% และประชาชนจ่ายเอง 40% (60:40) โดยคาดว่ากลุ่มนี้จะมี ผู้ได้รับสิทธิประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าสู่ระบบอีคอมเมิร์ซ
2. กลุ่มประชาชนทั่วไปและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ประชาชนทั่วไปและผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิ จ่ายคนละครึ่ง หรือ 50:50 คือประชาชนจ่าย 50% และรัฐช่วยจ่ายอีก 50% ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็น กลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับสิทธิพิเศษ ก่อนใคร
วงเงินโครงการและแผนการใช้จ่าย
วันที่ 26 กันยายน 2568 นาย ภราดร ปริศนา นันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ เปิดเผยรายละเอียดว่า
สำหรับปีงบประมาณ 2568 จะใช้งบประมาณที่เหลืออยู่ประมาณ 60,000 ล้านบาท
ส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับ โครงการคนละครึ่งเฟสแรก ให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 13 ล้านคน
วงเงินที่จะเพิ่มให้จากเดือนละ 300 บาท เป็น 2,000 บาทต่อคน รวมเป็นงบประมาณประมาณ 22,000 ล้านบาท
ส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไป และจะใช้งบประมาณในปี 2569 เพิ่มอีก ประมาณ 25,000 ล้านบาท
การจัดสรรงบประมาณดังกล่าวสะท้อนถึง ความสำคัญของกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเป็นการยืนยันว่าโครงการนี้จะช่วยเหลือประชาชนที่มีความเปราะบางทางเศรษฐกิจได้อย่างตรงจุด
ไทม์ไลน์การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัส
นาย ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการเข้าสู่ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม 2568
หลังจากนั้นจะเริ่มเปิด ลงทะเบียนร้านค้าและประชาชนผู้ใช้สิทธิ ทั้งในกลุ่มผู้เสียภาษีและประชาชนทั่วไปในสัปดาห์ถัดไป
คาดว่าโครงการ เริ่มใช้จ่ายได้เร็วที่สุดปลายเดือนตุลาคม 2568
จะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนต่อเนื่องในช่วง พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568
โครงการจะครอบคลุม จำนวนสิทธิรวมทั้งหมดประมาณ 20 ล้านสิทธิ
ทั้งนี้ ใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 จะต้องลงทะเบียนใหม่ตามขั้นตอนที่กระทรวงการคลังกำหนด
ความสำคัญของโครงการคนละครึ่งพลัสต่อเศรษฐกิจ
โครงการ คนละครึ่งพลัส นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังมีผลต่อ เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ดังนี้
1. กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
การเพิ่มวงเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการและประชาชนทั่วไป จะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น และส่งผลให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้เร็ว
2. ส่งเสริมการเข้าสู่ระบบภาษี
กลุ่มผู้เสียภาษีได้รับสิทธิพิเศษในรูปแบบ 60:40 ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ประชาชน เข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น
3. ส่งเสริมพ่อค้าแม่ค้าเข้าสู่ระบบอีคอมเมิร์ซ
การทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันและร้านค้าออนไลน์ ช่วยขยายตลาด และทำให้ผู้ค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
4. เตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการปี 2569
โครงการนี้เป็นการวางรากฐานสำหรับ การขยายสิทธิและงบประมาณในปีหน้า เพื่อให้สามารถสนับสนุนประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง
ความคาดหวังจากประชาชนและผู้ค้ารายย่อย
ประชาชนทั่วไปและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ความสนใจและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นโครงการที่ ตรงกับความต้องการในชีวิตประจำวัน และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย
สำหรับผู้ค้ารายย่อย การเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะร้านค้าที่อยู่ในระบบอีคอมเมิร์ซและร้านค้าชุมชน
สรุป
โครงการ คนละครึ่งพลัส เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568
กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับสิทธิ เพิ่มวงเงินจากเดือนละ 300 บาท เป็น 2,000 บาท เป็นกลุ่มแรก
ผู้เสียภาษีและประชาชนทั่วไปจะได้รับสิทธิในรูปแบบ 60:40 และ 50:50 ตามลำดับ
การลงทะเบียนจะเริ่มต้นใน เดือนตุลาคม 2568 และการใช้จ่ายเริ่มได้ปลายเดือนตุลาคม
โครงการช่วยสร้าง กำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการเข้าสู่ระบบภาษีและอีคอมเมิร์ซ
โครงการคนละครึ่งพลัสถือเป็น มาตรการสำคัญที่ตอบโจทย์ประชาชนและเศรษฐกิจไทย และคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในช่วงปลายปีนี้
















