หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“สรยุทธ” ขอโทษก้มรับผิด ปมล้อสำเนียงเขมร ยอมรับอินจนเผลอเกินไป

โพสท์โดย bbb1236555

"สรยุทธ" ขอโทษกลางรายการ ปมล้อเลียนสำเนียงกัมพูชา ยอมรับผิดเพราะอิน ยืนยัน "น้องไบรท์" ไม่เกี่ยวข้อง

วันที่ 25 กันยายน 2568 วงการสื่อสารมวลชนของไทยต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ออกมากล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการกลางรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” หลังจากที่เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่เจ้าตัวและทีมงานถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวด้วยการเลียนเสียงสำเนียงกัมพูชา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการ ล้อเลียนอัตลักษณ์ของชนชาติอื่น

กรณีดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ทันที มีทั้งกระแสตำหนิ ดราม่า และการเรียกร้องให้ผู้ประกาศข่าวคนดังออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงโดยตรง ยอมรับผิดทุกประการ พร้อมย้ำชัดว่า “น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” ผู้ประกาศข่าวร่วมในรายการ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

จุดเริ่มต้นของดราม่า – จากการเล่าเรื่องไปสู่ความรู้สึก “อิน”

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ในรายการข่าวที่มีการนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีการพูดถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดน เช่น กรณีบ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน ที่เคยมีเหตุการณ์บุกรุกพื้นที่ รวมถึงสารคดีที่กองทัพไทยเคยเผยแพร่เกี่ยวกับผู้อพยพจากยุคสงครามเขมรแดง

ระหว่างการเล่าข่าวนั้น นายสรยุทธได้ขอให้น้องไบรท์ลองอ่านข่าวด้วย สำเนียงกัมพูชา ซึ่งเป็นช่วงที่ทำให้ผู้ชมจำนวนมากมองว่าเป็นการ “ล้อเลียน” มากกว่าการเล่าเรื่องปกติ ผลที่ตามมาคือเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ โดยหลายเพจสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ด้านสิทธิมนุษยชนต่างออกมาแสดงความไม่พอใจ

แม้บางคนอาจเห็นว่าเป็นเพียงการหยอกล้อหรือเล่าเรื่องอย่างอิน แต่สำหรับผู้ฟังจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้มีเชื้อสายกัมพูชา เห็นว่าเป็นการ กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นชาติและอัตลักษณ์ทางภาษา ซึ่งถือเป็นเรื่องอ่อนไหว

 

คำขอโทษอย่างเป็นทางการของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา”

ในวันที่ 25 กันยายน 2568 นายสรยุทธจึงได้ออกมา กล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ ผ่านรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” โดยมีใจความสำคัญดังนี้

ยอมรับว่า ผิดพลาดเพราะอินเกินไป จนลืมหลักการของความเป็นสื่อ

ยืนยันว่า น้องไบรท์ไม่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างเกิดจากการสั่งการของตนเอง

อธิบายว่า ที่มาของการอิน เกิดจากการดูสารคดีของกองทัพเกี่ยวกับผู้อพยพยุคเขมรแดง ซึ่งสร้างความรู้สึกบางอย่างจนหลุดการควบคุม

ย้ำว่าหลักการสำคัญของสื่อคือต้อง ไม่ล้อเลียนอัตลักษณ์ของชนชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็นชาติใด

คำกล่าวของสรยุทธมีตอนหนึ่งที่น่าสนใจ เขากล่าวว่า

“ผมผิดจริง ๆ ไม่มีข้อแก้ตัว ผมเป็นสื่อ ผมต้องไม่ล้อเลียนอัตลักษณ์ของชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ผิดก็คือผิด พลาดก็คือพลาด ขอให้ด่าผมได้ วิจารณ์ผมได้ แต่ขออย่าพาดพิงน้องไบรท์ เพราะเธอไม่เกี่ยวข้อง”

นอกจากนี้ เขายังย้ำว่า การลบคลิปออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ใช่การเงียบหนีความผิด แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบในขั้นต้น เพื่อไม่ให้การกระทำที่ผิดพลาดนั้นแพร่กระจายต่อไป

กระแสสังคมและโลกออนไลน์

หลังจากการออกมาขอโทษของสรยุทธ กระแสในสังคมยังคงแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย

1. ฝ่ายที่ให้อภัย – มองว่าเมื่อเจ้าตัวออกมายอมรับผิดตรง ๆ และขอโทษอย่างจริงใจ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรชื่นชม และควรให้โอกาสแก้ไข

2. ฝ่ายที่ยังไม่พอใจ – บางกลุ่มมองว่าการขอโทษเพียงคำพูดยังไม่เพียงพอ ควรมีการกระทำเชิงรูปธรรม เช่น การทำกิจกรรมสร้างความเข้าใจระหว่างชาติพันธุ์ หรือการรณรงค์ด้านการสื่อสารอย่างรับผิดชอบ

3. ฝ่ายที่กังวลเรื่องสื่อมวลชน – นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์บางส่วนมองว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในวงการสื่อ ที่บางครั้งผู้ประกาศหรือผู้ผลิตรายการอาจ “อิน” กับเนื้อหามากเกินไป จนลืมหลักจรรยาบรรณ

 

มิติทางสังคม – ทำไมการล้อเลียนสำเนียงจึงเป็นเรื่องใหญ่

ประเด็นการล้อเลียนสำเนียงภาษาของชนชาติอื่น ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะในยุคที่สังคมให้ความสำคัญกับ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Diversity) และ การเคารพในอัตลักษณ์ (Identity Respect)

การเลียนสำเนียงอาจดูเหมือนการหยอกล้อ แต่สำหรับผู้ที่ถูกกระทบ อาจรู้สึกว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ (Racism) หรือการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของตนเอง ซึ่งในหลายประเทศประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

ในกรณีของไทยและกัมพูชา ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีทั้งมิตรภาพและความตึงเครียดสลับกันมานาน ดังนั้น การล้อเลียนสำเนียงจึงอาจกระทบความรู้สึกได้มากกว่าที่คิด

 

บทเรียนสำคัญสำหรับวงการสื่อไทย

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายหยิบยกมาพูดถึง บทบาทของสื่อมวลชน ว่าควรมีขอบเขตและหลักจริยธรรมอย่างไร

1. ความเป็นกลาง – สื่อควรรายงานอย่างไม่เอนเอียง ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวเกินไป

2. ความละเอียดอ่อน – โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับชาติพันธุ์ ศาสนา หรือวัฒนธรรม ต้องระวังไม่ให้เกิดการเหยียดหรือดูถูก

3. การรับผิดชอบ – เมื่อเกิดความผิดพลาด ต้องกล้าออกมายอมรับและแก้ไข ไม่ปกปิดหรือโยนความผิดให้ผู้อื่น

การออกมาขอโทษของสรยุทธอาจถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนว่า เมื่อทำผิดพลาด สื่อควรยอมรับตรง ๆ และไม่ผลักภาระไปที่คนอื่น

 

มุมมองจากผู้ร่วมรายการ – “น้องไบรท์” ไม่เกี่ยวข้อง

ในช่วงท้ายของการชี้แจง “น้องไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” ได้ยกมือไหว้กล่าวคำขอโทษต่อผู้ชมเช่นกัน แม้เจ้าตัวจะไม่ได้เป็นต้นเหตุของเรื่องราว แต่ก็เลือกที่จะแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้ร่วมรายการ

อย่างไรก็ตาม สรยุทธยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “ทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว น้องไบรท์ไม่เกี่ยวข้อง” และเรียกร้องให้สังคมอย่าไปโจมตีผู้ร่วมงาน

 

ก้าวต่อไปหลังคำขอโทษ

แม้สรยุทธจะออกมาขอโทษแล้ว แต่สิ่งที่หลายฝ่ายจับตามองคือ “ก้าวต่อไป” ของเขาและวงการสื่อไทย

จะมีมาตรการหรือแนวทางใดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำ?

จะมีการจัดอบรมหรือสร้างความตระหนักให้กับผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศในวงกว้างหรือไม่?

สื่อไทยจะสามารถยกระดับมาตรฐานด้านความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมได้อย่างไร

คำถามเหล่านี้ยังคงเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องหาคำตอบในอนาคต

 

สรุป

เหตุการณ์ “สรยุทธล้อเลียนสำเนียงกัมพูชา” กลายเป็นกรณีศึกษาใหญ่ของวงการสื่อไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ การรักษาจรรยาบรรณ ความเป็นกลาง และความเคารพต่ออัตลักษณ์ของชาติพันธุ์อื่น

แม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษและยอมรับผิดอย่างจริงใจ แต่บทเรียนครั้งนี้ได้ฝากข้อคิดสำคัญไว้ให้กับทั้งสื่อมวลชนและสังคมว่า การสื่อสารไม่ใช่แค่เรื่องของข้อมูล แต่ยังเกี่ยวพันกับความรู้สึก ศักดิ์ศรี และคุณค่าของผู้คน

การเคารพซึ่งกันและกันจึงเป็นหัวใจสำคัญของการนำเสนอข่าวสารในยุคปัจจุบัน

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
3 VOTES (3/5 จาก 1 คน)
VOTED: poomkum
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ 25/09/68สภาลูกจ้างฯ จ่อร้องก.แรงงาน หวั่นหมื่นชีวิตตกงาน หลังต่างชาติคว้างานประมูลแท่นหลุมอ่วม'ซินเคอหยวน'ฟ้อง'เอกนัฏ' 3.2 พันล้านเปิดประวัติ ‘นัตตี้ ข่าวสด’ นักข่าวสาวแห่งไวรัล ‘โสดแล้วงานเยอะ’ ดีกรีไม่ธรรมดาสภาวิศวกรรมยืนยัน! เสาเข็ม สน.สามเสน หักจริง ตึกเสี่ยงทรุดหนักรู้จัก "นัตตี้ ข่าวสด" สาวหมวยเจ้าของวลีเด็ด "โสดแล้วงานเยอะ"..บอกเลยดีกรีไม่ธรรมดาคนแชร์สนั่น! รถโตโยต้า รอดถนนทรุด เพราะช่วงล่างแน่นหนึบจริงคลิปหนุ่มยืนนอกห้องจับคอมเพลสเซอร์ไว้แน่นเพราะกลัวปลิวตามพายุส่องภาพดาวเทียม Google หายนะเงียบ! เขื่อนธรรมชาติที่ "ฮวาเหลียน" หลังพายุถล่ม"ปู มัณฑนา" เดือดจัด! โพสต์ด่ารัวๆ "เจ้าพ่อสื่อหน้าตัวเมีย"..ไม่ระบุชื่อ แต่คุณก็รู้ว่าใคร ?ความรุนแรงของ "ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา" ซัดกระจกโรงแรมหรูในฮ่องกงพังเสียหาย"เลขเด็ดเลขดังวันสำคัญ" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68 มาแล้ว!..รีบส่องด่วน!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สภาลูกจ้างฯ จ่อร้องก.แรงงาน หวั่นหมื่นชีวิตตกงาน หลังต่างชาติคว้างานประมูลแท่นหลุมมหานครเพตราแหล่งการค้าในอารยธรรมโบราณสื่อกัมพูชาตบหน้า "ไทย" อย่างจัง..ตีข่าว นทท.จีน หนีไทยไปเที่ยว "เวียดนาม" แทนคลิปหนุ่มยืนนอกห้องจับคอมเพลสเซอร์ไว้แน่นเพราะกลัวปลิวตามพายุ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ปลูกถ่ายสมองวัวเพื่อเพิ่มน้ำนม เมื่อเทคโนโลยีชีวภาพก้าวสู่ปศุสัตว์ยุคใหม่สภาลูกจ้างฯ จ่อร้องก.แรงงาน หวั่นหมื่นชีวิตตกงาน หลังต่างชาติคว้างานประมูลแท่นหลุม"ปู มัณฑนา" เดือดจัด! โพสต์ด่ารัวๆ "เจ้าพ่อสื่อหน้าตัวเมีย"..ไม่ระบุชื่อ แต่คุณก็รู้ว่าใคร ?คลิปหนุ่มยืนนอกห้องจับคอมเพลสเซอร์ไว้แน่นเพราะกลัวปลิวตามพายุ
ตั้งกระทู้ใหม่