ชายไต้หวันดื่มน้ำผลไม้มากจนเป็นมะเร็งตับ
ชายไต้หวันดื่มน้ำผลไม้มากจนเป็นมะเร็งตับ
เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลในไต้หวันตอนนี้ คือ เรื่องราวที่ศัลยแพทย์ชาวไต้หวัน "เจียง คุน จุน" ได้ออกมากล่าวเตือนว่า "เครื่องดื่มหลายชนิดที่มีผลดี ต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ หากดื่มมากเกินไป ร่างกายจะแบกรับภาระหนัก ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเมตาบอลิซึมและมะเร็ง" และ "ในบรรดาผู้ป่วยรายล่าสุดของผม มีชายวัย 40 ปีรายหนึ่งที่เป็นมะเร็งตับ เนื่องจากดื่มน้ำผลไม้มากเกินไป เป็นเวลานาน..."
ชายคนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก มาจากครอบครัวที่ยากจน เขาจึงทำงานหนักมากตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เขาจึงสร้างวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพขึ้นมาทดแทน โดยหวังว่าจะทำให้สุขภาพของเขาดีขึ้น เขาจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เข้านอนเร็ว และ รักษานิสัยการดื่มน้ำผลไม้ทุกวัน บางครั้งถึงขั้นเปลี่ยนจากน้ำกรองเป็นน้ำผลไม้ ซึ่งเขาเชื่อว่า "ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งแข็งแรงเท่านั้น" ซึ่งเขาทำมันจนเป็นนิสัย ซึ่งเขาดื่มติดต่อมานานหลายปี...
อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ด้วยอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณตับ มีไข้สูง และ อ่อนเพลีย ผลการสแกนแสดงให้เห็นว่า ตับของเขามีเนื้องอกมะเร็งขนาด 1.5 เซนติเมตร ร่วมกับภาวะไขมันพอกตับรุนแรง แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกออก และ สาเหตุของโรคนี้สร้างความตกใจให้กับทุกคนในครอบครัวของเขามาก เนื่องจากมันเกิดจาก การที่เขาดื่มน้ำผลไม้มากเกินไปเป็นเวลานานนั่นเอง ซึ่งมันได้ทำลายตับของเขาอย่างเงียบๆ
"เจียง คุน จุน" กล่าวว่า "เมื่อรับประทานผลไม้ทั้งผล ใยอาหารจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล และ ทำให้รู้สึกอิ่ม แต่เมื่อคั้นน้ำผลไม้ ใยอาหารส่วนใหญ่จะถูกกำจัดออก เหลือเพียงฟรุกโตสเข้มข้น น้ำตาลนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงและไปกดตับ ซึ่งเป็นอวัยวะเดียวที่สามารถเผาผลาญฟรุกโตสได้ เมื่อตับต้องประมวลผลฟรุกโตสมากเกินไป ส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ กลายเป็นโรคตับอักเสบ กลายเป็นโรคตับแข็ง และ กลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด" และ "หากเติมน้ำตาล นมข้นหวาน หรือ น้ำเชื่อมลงในน้ำผลไม้ ความเสี่ยงนี้จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก!!"
"เจียง คุน จุน" กล่าวอีกว่า "ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อตับเท่านั้น การดื่มน้ำผลไม้บ่อยเกินไปยังส่งผลเสียอื่นๆอีกมากมาย เช่น น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ความผิดปกติของน้ำตาลในเลือด ความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 ไขมันในเลือดสูง และ ปฏิกิริยาการอักเสบในร่างกาย โดยงานวิจัยบางชิ้นยังแสดงให้เห็นว่าการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงน้ำผลไม้ เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็งบางชนิดด้วย"
"เจียง คุน จุน" กล่าวแนะนำว่า "น้ำผลไม้ไม่สามารถทดแทนน้ำกรองได้ เพื่อความปลอดภัย ควรดื่มไม่เกินวันละ 1 แก้ว หรือ ประมาณ 200-350 มิลลิลิตร" และ "ไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง แต่ควรดื่มหลังอาหาร ควรเน้นผลไม้รสหวานน้อย และ จำกัดผลไม้รสหวาน เช่น องุ่น มะม่วง และทุเรียน ห้ามเติมน้ำตาล นมข้นหวาน หรือ น้ำเชื่อมโดยเด็ดขาด" และ "ที่สำคัญที่สุด การรับประทานผลไม้ทั้งผลยังคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะยังคงรักษาใยอาหาร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และ ลดภาระของตับและระบบย่อยอาหารด้วย!!"
"เจียง คุน จุน" กล่าวปิดท้ายว่า "หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตื่นกลางดึก อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดบริเวณตับ หรือ มีไข้ตอนเย็น ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจหาโรคตับในระยะเริ่มต้น!!"






