เล็บแลกเงิน! เปิดที่มาธุรกิจสุดแปลก รับซื้อ "เล็บ" ทำไมถึงแพง?
เรื่องราวสุดแปลกจากมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน กำลังเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้เปลี่ยนของสะสมสุดประหลาดในวัยเด็กให้กลายเป็นรายได้เสริมได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอเผยว่าตั้งแต่เด็ก เธอมีนิสัยชอบเก็บสะสมเล็บที่ตัดออกจากตัวเธอและคนในครอบครัว โดยนำไปใส่ไว้ในขวดแก้วจนมีปริมาณมากถึงครึ่งกิโลกรัม เมื่อเติบโตขึ้น เธอได้รู้ว่ามีพ่อค้ารับซื้อเล็บเหล่านี้ในราคาสูงถึง 300 หยวนต่อครึ่งกิโลกรัม (ประมาณ 1,500 บาท) เธอจึงนำไปขายและได้รับเงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความประหลาดใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างบนโลกออนไลน์
ชาวเน็ตจีนต่างตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย บ้างก็ถามว่า "เล็บมีค่าขนาดนี้เลยเหรอ?" หรือ "ฉันเจอลู่ทางหาเงินใหม่แล้ว!" ขณะที่บางส่วนก็หยอกล้อตัวเองว่า "มัวแต่ตัดเล็บทิ้ง เลยพลาดโอกาสรวยไปเลย" นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการนำเล็บไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งจุดประกายความสนใจให้หลายคนสงสัยถึงมูลค่าของของเสียจากร่างกายเหล่านี้
รายงานระบุว่าตามตำราแพทย์แผนจีนโบราณอย่าง "เปิ่นเฉ่ากังมู่" และ "เปิ่นเฉ่าฉงซิน" เล็บที่ตัดจากคนเรียกว่า "เหรินทุ่ย" หรือ "จินทุ่ย" ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในยาแผนโบราณ มีสรรพคุณในการห้ามเลือด ขับปัสสาวะ ลดอาการร้อนใน และบรรเทาอาการเกี่ยวกับสายตา อย่างไรก็ตาม การรับซื้อเล็บมาใช้ประโยชน์นั้นต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่เข้มงวด เช่น ต้องมีความยาวพอเหมาะ สะอาดปราศจากคราบสกปรก และต้องไม่ใช่เล็บที่มีโรค เช่น เล็บขบหรือเชื้อรา จากนั้นจึงนำไปผ่านกระบวนการทำความสะอาด ตากแห้ง และเผาให้เป็นถ่านก่อนนำไปใช้เป็นยา
แม้ในอดีตเล็บจะมีคุณค่าทางยา แต่ปัจจุบันแพทย์แผนจีนส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้ยาที่มาจากส่วนประกอบของมนุษย์แล้ว เนื่องจากวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ก้าวหน้าและมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ประกอบการหรือร้านค้าสมุนไพรบางแห่งที่ยังคงซื้อขายสิ่งเหล่านี้อยู่
แพทย์แผนจีนได้ออกมาเตือนประชาชนว่าไม่ควรเลียนแบบพฤติกรรมของหญิงสาวรายนี้เพื่อหารายได้เสริม เพราะอาจมีความเสี่ยงด้านสุขอนามัย และปัจจุบันการใช้ยาแผนจีนก็เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่า





















