เดือดกลางปารีส! แจกไก่ทอดฟรี คนแห่แย่งวุ่น ตำรวจถึงขั้นใช้แก๊สน้ำตา
แจกไก่ฟรีกลายเป็นวิกฤตกลางปารีส! เปิดสาขาใหม่ร้านอาหารเอเชีย คนทะลักเกิน 3,000 จนปะทะตำรวจปราบจลาจล
จากการเฉลิมฉลองสู่เหตุโกลาหล
กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส มักถูกจดจำว่าเป็นศูนย์กลางของแฟชั่น วัฒนธรรม และอาหารระดับโลก แต่เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ภาพจำเหล่านั้นกลับถูกกลบด้วยเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นกลางเมือง เมื่อร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติเอเชียแห่งหนึ่งจัดกิจกรรม “ฉลองเปิดสาขาใหม่” ด้วยการ แจกไก่ทอดและข้าวฟรี 1,000 ชุด
กิจกรรมนี้ถูกโปรโมตอย่างกว้างขวางผ่านทางอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังใน TikTok และ Instagram จนทำให้มีคนจำนวนมหาศาลสนใจเดินทางมาร่วมงาน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวที่ต้องการลิ้มลองรสชาติอาหารฟรี ทว่าผู้จัดงานกลับประเมินผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะแทนที่จะมีเพียง 1,000 คนตามเป้าหมาย กลับมี ผู้คนมากกว่า 3,000 คน หลั่งไหลเข้ามายังบริเวณ สถานีรถไฟชาตเลต์-เลออาล (Châtelet-Les Halles) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางการคมนาคมที่พลุกพล่านที่สุดของปารีส
เมื่อฝูงชนเกินควบคุม
จากบรรยากาศงานเลี้ยงฉลอง กลับกลายเป็นความโกลาหลในเวลาไม่นาน เนื่องจากจำนวนผู้เข้าร่วมเกินกว่าที่ผู้จัดงานจะรับมือได้ เมื่อทางร้านประกาศยกเลิกกิจกรรมเพื่อความปลอดภัย ฝูงชนจำนวนมากไม่พอใจและปฏิเสธที่จะแยกย้ายออกไป
สิ่งที่ตามมาคือความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นเป็นความรุนแรงเล็กน้อยระหว่างวัยรุ่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่ถูกเรียกเข้ามาคุมสถานการณ์ เหตุการณ์บานปลายถึงขั้นมีการ ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จนตำรวจต้อง ใช้แก๊สน้ำตา และตั้งแผงกั้นเพื่อสลายฝูงชน
คลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย ภาพผู้คนนับพันเบียดเสียดกันกลางเมือง พร้อมเสียงไซเรนและแก๊สน้ำตา ทำให้หลายคนตกใจว่ากิจกรรมเล็ก ๆ ที่ตั้งใจให้เป็นงานโปรโมตร้านอาหาร กลับกลายเป็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกับ “จลาจลขนาดย่อม”
มีการจับกุม – ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
สื่อท้องถิ่นฝรั่งเศสรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมรวม 3 คน โดยในจำนวนนี้มี 2 คนที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ในช่วงชุลมุน และอีก 1 คนถูกควบคุมตัวในข้อหาที่ไม่ได้เปิดเผย อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
สำนักงานคณะกรรมการตำรวจปารีส ได้ออกแถลงการณ์ผ่านบัญชี X (Twitter เดิม) โดยประณามเหตุการณ์นี้ว่าเป็นสิ่งที่ “น่าสมเพชสิ้นดี” พร้อมระบุว่า การรวมตัวของฝูงชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ติดตามอินฟลูเอนเซอร์ กลายเป็นความโกลาหลที่ห่างไกลจากกิจกรรมเชิงบันเทิงที่ควรจะเป็น
คำขอโทษจากร้านอาการ
หลังเหตุการณ์ ร้านอาหารเจ้าของงานได้ออกมาโพสต์คลิปขอโทษอย่างเป็นทางการผ่าน TikTok โดยยอมรับว่า “จำนวนผู้เข้าร่วมเกินความคาดหมายทั้งหมดของเรา” และทางร้านจำเป็นต้องยกเลิกกิจกรรมตามคำแนะนำของทางการเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ ร้านยังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และช่วยควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายรุนแรง พร้อมทั้งยืนยันว่า ทางร้านยังมีแผนจะแจกอาหารฟรีจำนวน 1,000 ชุดตามที่เคยประกาศไว้ แต่จะจัดขึ้นใหม่ในวันเวลาที่เหมาะสม โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
ทำไมเหตุการณ์เล็ก ๆ ถึงบานปลาย?
การเปิดร้านใหม่ด้วยการแจกอาหารฟรีเป็นกลยุทธ์การตลาดที่นิยมใช้ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลสูง การโปรโมตผ่านอินฟลูเอนเซอร์ช่วยให้ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาคือ เมื่อคาดการณ์จำนวนผู้เข้าร่วมผิดพลาด ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นได้ง่าย
ในกรณีของปารีส จุดที่จัดงานคือย่าน Châtelet-Les Halles ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านอยู่แล้ว การที่มีผู้คน 3,000 คนมารวมตัวพร้อมกันในพื้นที่จำกัด ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูง ทั้งการเหยียบกัน ความวุ่นวายจากการแย่งอาหาร และความเสี่ยงต่อการเกิดการก่อเหตุแทรกซ้อน เช่น การวิ่งราวทรัพย์
อินฟลูเอนเซอร์กับบทบาทในเหตุการณ์
สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ครั้งนี้บานปลายมากขึ้น คือการที่ร้านเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังเป็นตัวหลักในการโปรโมตกิจกรรม แม้ว่าจะช่วยให้เข้าถึงผู้คนได้กว้าง แต่ก็ทำให้ฝูงชนที่มามีขนาดมหาศาลเกินกว่าที่ผู้จัดงานจะควบคุมได้
หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า อินฟลูเอนเซอร์ควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากการเชิญชวนให้ผู้ติดตามหลายแสนคนมารวมตัวกัน โดยไม่มีมาตรการจัดการความปลอดภัยที่เพียงพอ ถือเป็นความประมาทที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสาธารณะ
มุมมองของสังคมฝรั่งเศส
หลังเหตุการณ์ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อและสังคมออนไลน์ของฝรั่งเศส หลายคนตำหนิผู้จัดงานที่วางแผนไม่รัดกุม ขณะที่บางส่วนมองว่า นี่คือภาพสะท้อนของสังคมยุคใหม่ ที่ผู้คนจำนวนมากถูกดึงดูดด้วย “ของฟรี” และอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย
มีการตั้งคำถามว่า ทำไมคนถึงพร้อมใจแห่มาเพียงเพราะอาหารฟรี 1,000 ชุด และเหตุใดจึงเกิดการวุ่นวายจนถึงขั้นตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา บางสื่อมองว่า เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของการจัดงานสาธารณะในยุคดิจิทัล ที่ข้อมูลข่าวสารสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ผู้จัดงานจะรับมือได้
เหตุการณ์ที่คล้ายกันในต่างประเทศ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่กิจกรรมการตลาดแจกของฟรีกลายเป็นหายนะ ตัวอย่างเช่น
ปี 2017 ที่ลอนดอน มีการโปรโมตเกมออนไลน์ด้วยการแจกของรางวัลฟรี แต่มีคนมามากกว่าที่คาดจนเกิดความโกลาหล และต้องมีตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์
ปี 2023 ที่นิวยอร์ก อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจัดกิจกรรมแจกเครื่องเล่นเกม PlayStation กลางสวนสาธารณะยูเนียนสแควร์ ผลคือนักเรียนวัยรุ่นหลายพันคนหลั่งไหลเข้ามา จนเกิดการชุลมุนและต้องใช้กำลังตำรวจสลายฝูงชน
กรณีปารีสครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญ ว่าการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี ก็อาจสร้างปัญหามากกว่าประโยชน์
บทสรุป – บทเรียนราคาแพงจาก “ไก่ทอดฟรี”
เหตุการณ์ร้านอาหารเอเชียเปิดสาขาใหม่ในปารีส และจัดกิจกรรมแจกไก่ทอดฟรี 1,000 ชุด แต่มีคนมามากกว่า 3,000 จนกลายเป็นโกลาหล ถือเป็น บทเรียนสำคัญสำหรับวงการการตลาดและการจัดอีเวนต์
สิ่งที่ควรเรียนรู้คือ:
1. การวางแผนสำคัญที่สุด – ต้องประเมินจำนวนผู้เข้าร่วมอย่างรอบคอบ และเตรียมมาตรการความปลอดภัยที่เพียงพอ
2. อินฟลูเอนเซอร์คือดาบสองคม – แม้จะช่วยโปรโมตได้เร็ว แต่ก็สามารถทำให้ฝูงชนเกินควบคุม
3. การจัดงานสาธารณะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย – ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ทางการตลาด แต่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ชื่อเสียงของร้านอาหารดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนัก อย่างไรก็ตาม หากมองในอีกมุมหนึ่ง เหตุการณ์นี้อาจทำให้ร้านกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพียงแต่เป็นการจดจำในเชิงลบมากกว่าบวก
ท้ายที่สุด กิจกรรมที่ตั้งใจให้เป็นการเฉลิมฉลองด้วยรสชาติของ “ไก่ทอดฟรี” กลับกลายเป็น “บทเรียนราคาแพง” ที่สะท้อนถึงพลังของโซเชียลมีเดียและความท้าทายของการจัดงานในยุคปัจจุบัน




















