ชีวิตที่ไร้ค่า หนุ่มมาเลย์เผยเรื่องราวสุดเศร้า หลังกลายเป็นเศรษฐี แต่ต้องสูญเสียครอบครัวทั้งหมด
"เงินซื้อได้ทุกสิ่ง แต่ถ้าไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้" เป็นคำกล่าวที่คุ้นเคย แต่สำหรับชายหนุ่มชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนวัย 21 ปีรายนี้ แม้จะมีทรัพย์สมบัติมหาศาล แต่กลับไม่สามารถซื้อความสุขหรือแก้ปัญหาความทุกข์ใจที่กัดกินจิตใจได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้รับมรดกก้อนใหญ่ ทำให้กลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน แต่ความรู้สึกว่างเปล่าจากการสูญเสียครอบครัวไปทั้งหมด กลับนำมาซึ่งความเจ็บปวดและภาวะซึมเศร้าที่ยาวนาน
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านโพสต์บนเพจเฟซบุ๊ก "解憂樹洞" (ต้นไม้แห่งการปลดทุกข์) ของมาเลเซีย โดยเจ้าของเรื่องซึ่งปัจจุบันอายุ 21 ปี เล่าว่า เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของครอบครัว ซึ่งหลังจากที่คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และบิดามารดา ได้จากไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าครอบครัวจะทิ้งมรดกไว้ให้เป็นบ้าน 6 หลัง และเงินฝากประจำในธนาคารกว่า 4 ล้านริงกิตมาเลเซีย ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต เขากลับไม่กล้าที่จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
เจ้าของเรื่องยอมรับว่า "ฉันรู้ว่านี่เป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่ฉันไม่กล้าใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองเลย เพราะฉันรู้สึกเสมอว่านี่คือเงินที่พ่อแม่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงตลอดชีวิต" นอกจากนี้ เขายังต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้ามานานถึง 2 ปี ความรู้สึกโดดเดี่ยวทำให้เขามีอารมณ์หดหู่ เก็บตัวมากขึ้น ไม่กล้าออกไปข้างนอก หรือปฏิสัมพันธ์กับผู้คน แม้จะรู้ว่าการมีมรดกมหาศาลนี้เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่ความเป็นจริงของการ "มีเงินแต่ไม่มีครอบครัวให้พึ่งพิง" ก็ยังคงสร้างความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
เจ้าของเรื่องย้ำว่า เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะโอ้อวดแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวและความเจ็บปวดนี้มานาน จนเริ่มหาทิศทางในชีวิตไม่เจอ จึงอยากจะระบายความรู้สึกที่อัดอั้นนี้ผ่านโลกออนไลน์ "ฉันทุกข์ทรมานจริงๆ ไม่มีทิศทาง และไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน อยากจะถามว่า ฉันควรทำอย่างไรดี?"
หลังจากเรื่องราวนี้เผยแพร่ออกไป ก็ก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ บางส่วนมองว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้น หรือแม้จะเป็นเรื่องจริง ก็ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแทนที่จะมาโพสต์อวดเรื่องทรัพย์สมบัติ ในขณะที่ชาวเน็ตใจดีบางส่วนก็เข้ามาให้กำลังใจ พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางต่างๆ เพื่อช่วยเปลี่ยนผ่านความเศร้า เช่น การออกเดินทางท่องเที่ยว การเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ หรือการลงเรียนคอร์สต่างๆ ในสาขาที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการพบปะผู้คน และเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น
















