สุดงง! แม่ค้าทุเรียนโดนอายัดบัญชี 7 วัน เดือดร้อนหนัก แต่พอเป็นข่าวดัง ปลดทันควัน
แม่ค้าทุเรียนโอด ถูกอายัดบัญชี 1.6 แสนบาท หลังเงินจากบัญชีม้าโอนเข้า – ธนาคารอ้างทำตามขั้นตอน ตำรวจสั่งอายัด แต่ไร้ช่องทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ จนโซเชียลช่วยกดดันปลดอายัดได้ทันที
ค้าขายสุจริต แต่ต้องเดือดร้อนเพราะระบบธนาคาร
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อ แม่ค้าทุเรียนรายหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หลังบัญชีธนาคารของเธอถูกอายัดเงินกว่า 169,000 บาท เพียงเพราะมียอดโอนจากบัญชีต้องสงสัย หรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า” เพียง 16,000 บาทเข้ามา ทั้งที่เธอเองเป็นผู้ค้าขายสุจริต ไม่รู้จักหรือเกี่ยวข้องใด ๆ กับผู้โอนเงินรายนั้นเลย
เรื่องนี้ถูกเผยแพร่โดย คุณวิภารัตน์ ขุนอาจ (Wiparat Khunart) เจ้าของร้าน “ทุเรียนพบรัก” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมเล่าความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันและธุรกิจค้าขายของเธอ
จากโพสต์ดังกล่าว เธอเล่าว่า ปกติแล้วอาชีพแม่ค้าทุเรียนต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนตลอดเวลา เพื่อซื้อทุเรียนจากสวนมาขายต่อ แต่เมื่อบัญชีถูกอายัด เงินทุนกว่า 1.6 แสนบาท ถูกล็อกเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถสั่งซื้อทุเรียนเข้ามาจำหน่ายได้ รายได้ลดลงทันที และกระทบต่อค่าใช้จ่ายภายในร้านอย่างรุนแรง
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอัดอั้นใจมากที่สุดคือ ไม่มีหน่วยงานใดให้ช่องทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ ทั้งที่เธอสามารถยืนยันได้ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าแต่อย่างใด
ข้อความตอนหนึ่งของเธอระบุว่า
“เหนื่อยหาเงินไม่พอ ยังต้องมาเหนื่อยกับเงินที่หามาไว้อีก เงินจำนวนนี้อาจดูน้อยสำหรับธนาคาร แต่สำหรับแม่ค้า ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ใช้ทำมาหากิน”
ธนาคารตอบกลับ – อ้างทำตามขั้นตอน ตำรวจสั่งอายัด
เมื่อเธอติดต่อสอบถามไปยังธนาคาร จึงได้รับคำชี้แจงว่า มีเงินจำนวน 16,000 บาท โอนมาจากบัญชีต้องสงสัย ธนาคารจึงสั่งอายัดเงินทั้งหมดในบัญชีจำนวน 160,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าอาจมีความเชื่อมโยงกัน
ธนาคารยังแนะนำให้เธอติดต่อกับ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อชี้แจง แต่เมื่อเธอลองติดต่อกลับไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีหน่วยงานใดให้ความกระจ่างว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลานานเท่าใด
ตลอดระยะเวลา 7 วัน ที่บัญชีถูกอายัด เธอไม่ได้รับโอกาสชี้แจงใด ๆ ทำได้เพียงนั่งรอ และเฝ้ากังวลว่าเมื่อไรเงินทุนหมุนเวียนของเธอจะกลับมา
พลังโซเชียลทำงาน – ปลดอายัดทันทีหลังเป็นข่าวดัง
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง จนมีผู้แชร์มากกว่า 20,000 ครั้ง และถูกสื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอข่าว ความคืบหน้าก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
คุณวิภารัตน์อัปเดตว่า หลังโพสต์ไปเพียง 18 ชั่วโมง ก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาแจ้งว่าปลดอายัดบัญชีให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่ไม่ได้แจ้งก่อนทำการอายัด และอ้างว่าเป็นการปลดอายัดตรงตาม “กำหนดเวลา” พอดี
แต่สิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตคือ หากไม่มีแรงกดดันจากสังคมออนไลน์และสื่อมวลชน เรื่องนี้อาจจะยืดเยื้อและทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อนต่อไป
ในโพสต์อัปเดต คุณวิภารัตน์ฝากข้อความไปยังทุกหน่วยงานว่า ก่อนที่จะอายัดบัญชีของใคร ควรตรวจสอบให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้สุจริตต้องเดือดร้อนเช่นเดียวกับเธอ
เธอกล่าวว่า
“สุดท้ายอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังทำเรื่องอายัดเงินอยู่ตอนนี้ ให้ตรวจสอบดี ๆ ก่อนอายัด ประชาชนจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนแบบนี้”
สมาคมธนาคารไทยออกมาชี้แจง
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน นายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ตัวแทนสมาคมธนาคารไทย ได้ออกมาแถลงถึงมาตรการระงับบัญชีต้องสงสัย โดยระบุว่า
ธนาคารทุกแห่งดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน
การอายัดเงินจะทำได้เพียง 3 วัน สำหรับยอดเงินที่ต้องสงสัย
หากเป็นบัญชีที่ตำรวจมีหมายสั่ง (บัญชีม้าดำ หรือม้าเทา) จะสามารถอายัดต่อได้อีก 7 วัน รวมเป็นสูงสุด 10 วัน
หลังจากตรวจสอบ หากไม่พบความผิดปกติ ธนาคารจะต้องคืนเงินทันที
เขาย้ำว่า ไม่มีการอายัดเงินตลอดไป อย่างที่ประชาชนหลายคนเข้าใจ
สีของบัญชีม้า – แบ่งชัดเจนเป็น 3 กลุ่ม
สมาคมธนาคารยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ระบบการตรวจสอบบัญชีต้องสงสัยถูกแบ่งออกเป็น 3 เฉดสี ได้แก่
1. ม้าดำ – มีข้อมูลยืนยันจากสำนักงาน ปปง. ว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
2. ม้าเทา – บัญชีที่มีผู้เสียหายร้องเรียนแล้ว แบ่งเป็น “เทาเข้ม” และ “เทาอ่อน”
3. ม้าน้ำตาล – ยังไม่พบผู้เสียหาย แต่มีพฤติกรรมต้องสงสัย แบ่งเป็น “น้ำตาลเข้ม” และ “น้ำตาลอ่อน”
โดยมาตรการทั้งหมดนี้ถูกนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นการทำธุรกรรมผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ และการหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดีย
กระแสความกังวลของประชาชน
แม้ธนาคารจะออกมาชี้แจง แต่กรณีแม่ค้าทุเรียนก็สะท้อนปัญหาสำคัญที่ประชาชนวิตกกังวล นั่นคือ ความเสี่ยงของการถูกอายัดบัญชีโดยไม่รู้ตัว เพราะทุกวันนี้การโอนเงินถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน และผู้รับโอนเองไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ส่งมีความสุจริตหรือไม่
หลายความเห็นบนโลกออนไลน์ตั้งคำถามว่า หากการอายัดบัญชีเกิดขึ้นโดยไม่มีช่องทางให้ผู้บริสุทธิ์พิสูจน์ตัวเอง จะถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนหรือไม่
บางคนแสดงความไม่มั่นใจต่อความปลอดภัยของเงินฝาก และกังวลว่าหากเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบธนาคารของประเทศ
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ – เมื่อผู้คนเริ่มแห่ถอนเงิน
หลังเกิดกระแสข่าว มีรายงานว่าประชาชนบางส่วนเกิดความไม่มั่นใจ จนมีการไปเบิกถอนเงินสดออกจากบัญชีมากกว่าปกติในบางสาขา แม้สมาคมธนาคารไทยจะยืนยันว่าเป็นเพียงบางกรณี ไม่ได้กระทบต่อเสถียรภาพโดยรวม แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าเรื่องนี้ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนทางจิตใจให้ประชาชนจริง ๆ
บทสรุป – บทเรียนจากเคสแม่ค้าทุเรียน
กรณี แม่ค้าทุเรียนถูกอายัดบัญชี 1.6 แสนบาท สะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ของระบบการจัดการบัญชีต้องสงสัยในไทย ที่แม้จะมีเจตนาดีในการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน แต่กลับทำให้ประชาชนผู้สุจริตได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
สิ่งที่ควรปรับปรุงคือ
การสื่อสารที่โปร่งใสระหว่างธนาคารและลูกค้า
การสร้างช่องทางที่ชัดเจนให้ผู้ถูกอายัดสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้
การอบรมเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ ก่อนดำเนินมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
สุดท้าย เหตุการณ์นี้ยังแสดงให้เห็นถึง พลังของโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชน ที่ช่วยผลักดันให้เรื่องราวของประชาชนตัวเล็ก ๆ ถูกหยิบยกขึ้นมา จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที
ไทยจะสงบเมื่อไหร่ หมด"ฮุน เซน" ก็ยังมี "สม รังสี"
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!โจรลุยน้ำท่วมงัดบ้านครูเกษียณ ขโมยทองคำ 10 บาท แหวนเพชร เงินสด 3 หมื่น
ถูกปรับ 1.5 แสน เพราะใช้บ้านรับ-ส่งลูกชิ้น
เกาะฟูก๊วก…เคยเป็นของกัมพูชาจริงไหม? มาย้อนดูประวัติที่หลายคนอาจไม่เคยรู้!
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
งิ้วในการแสดง: โครงสร้างอันศักดิ์สิทธิ์
กู้ภัยเมืองคอน ลุยน้ำท่วมช่วยหญิงวัย 62 หนีน้ำท่วมติดต้นมะพร้าวนาน 6 ชม
อันวาร์ อิบราฮิม ยันมาเลเซีย ไม่แทรกแซง ข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา
เขมรซ็อก จีนเทลดสัดส่วนหุ้น คลองฟูนันเตโช เหลือ 49% กู้เงินลุยเอง เกือบ 2 หมื่นล้าน
“ทหารไม่รอช้า!เร่งเข้าช่วยประชาชนย่านตาขาว จ.ตรัง ท่ามกลางน้ำท่วมวิกฤต
กัมพูชาลุยโครงการคลองฟูนันเตโช แม้จีนลดสัดส่วนการลงทุน
ในหลวงพระราชทาน “โรงครัวพระราชทาน” ช่วยชาวหาดใหญ่ ด้าน ศบภ.ทภ.4 ระดมกำลังพลช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ต่อเนื่อง
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!โจรลุยน้ำท่วมงัดบ้านครูเกษียณ ขโมยทองคำ 10 บาท แหวนเพชร เงินสด 3 หมื่น
ถ้าเปรียบ ร่างกายมนุษย์เป็นคอมพิวเตอร์ การเปรียบเทียบระบบอันซับซ้อน
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด!โจรลุยน้ำท่วมงัดบ้านครูเกษียณ ขโมยทองคำ 10 บาท แหวนเพชร เงินสด 3 หมื่น
“ทหารไม่รอช้า!เร่งเข้าช่วยประชาชนย่านตาขาว จ.ตรัง ท่ามกลางน้ำท่วมวิกฤต
ในหลวงพระราชทาน “โรงครัวพระราชทาน” ช่วยชาวหาดใหญ่ ด้าน ศบภ.ทภ.4 ระดมกำลังพลช่วยเหลืออุทกภัยภาคใต้ต่อเนื่อง

