อุทาหรณ์! ชายตุรกีเกือบเสียแขนเพราะถูก 'คนกัด' ทำไมบาดแผลมนุษย์ถึงร้ายแรง?
ในโลกที่เราคิดว่าการถูกสัตว์อย่างหมาหรือแมวกัดเป็นเรื่องอันตราย กลับมีกรณีศึกษาที่น่าตกใจจากตุรกี ที่เผยให้เห็นว่าการถูกคนกัดอาจร้ายแรงยิ่งกว่านั้นเสียอีก
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเมืองอิสตันบูล ชายเจ้าของร้านวัย 60 ปีรายหนึ่งถูกโจรบุกปล้น ระหว่างการต่อสู้ เขาสามารถจับกุมโจรได้คนหนึ่ง แต่โจรกลับกัดเข้าที่มือของเขาอย่างรุนแรงเพื่อดิ้นให้หลุด
แม้ว่าในตอนแรกบาดแผลดูไม่ร้ายแรง และเขาได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากคลินิกท้องถิ่น แต่ไม่นานนักอาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขามีไข้และอาการสั่นอย่างรุนแรง จนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าเขาติดเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงจากน้ำลายของคนร้าย
การติดเชื้อลุกลามอย่างรวดเร็ว แขนของเขาบวมขึ้นเป็นสองเท่าและเปลี่ยนสี แพทย์ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อยับยั้งเชื้อที่ลามขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ต้องพิจารณาการตัดแขนทิ้ง แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจลองใช้วิธี "การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy)"
การรักษาด้วยวิธีนี้ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง หลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ อาการของผู้ป่วยก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แพทย์สามารถล้างแผลและกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออกได้ในที่สุด ทำให้เขารอดพ้นจากการถูกตัดแขน และหลังจากทำกายภาพบำบัดนานกว่า 3 เดือน เขาก็กลับมาใช้งานแขนได้อย่างปกติ
บทเรียนจากกรณีนี้คือ "แบคทีเรียในช่องปากของมนุษย์" นั้นอันตรายอย่างยิ่ง แพทย์ย้ำว่าการถูกคนกัดอาจทำให้แบคทีเรียเหล่านี้แทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงกว่าการถูกสัตว์กัดเสียอีก
เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่เป็นอุทาหรณ์ถึงอันตรายที่คาดไม่ถึง แต่ยังเป็นหลักฐานที่ถูกบันทึกไว้ในวารสารทางการแพทย์ เพื่อเตือนให้ทุกคนตระหนักว่า หากต้องเผชิญกับบาดแผลจากการถูกคนกัด ไม่ควรประมาทเด็ดขาด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดจนสายเกินแก้














