สูตรใหม่คนละครึ่ง 60:40? รบ.อนุทิน จ่ายน้อย แต่ได้เท่าเดิม!
เจาะลึกโครงการ “คนละครึ่ง 2.0” สูตรใหม่ 60:40 สิทธิพิเศษสำหรับผู้ยื่นภาษี 11 ล้านคน
โครงการ “คนละครึ่ง” ถือเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม และยังช่วยหมุนเวียนเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างรวดเร็ว ทว่าล่าสุด ภายใต้รัฐบาลของ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล โครงการนี้ได้ถูกยกเครื่องครั้งใหญ่ พร้อมกับเปิดตัว “สูตรใหม่” ที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นคือ คนละครึ่ง 60:40
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่า สูตรใหม่นี้ต่างจากเดิมอย่างไร ใครคือผู้ได้รับสิทธิ์ ผลดีที่เกิดขึ้นจะเป็นรูปแบบไหน รวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
จาก 50:50 สู่ 60:40 จุดเปลี่ยนสำคัญของโครงการคนละครึ่ง
หากย้อนกลับไป โครงการคนละครึ่งในเวอร์ชันดั้งเดิมจะมีสูตรการช่วยเหลือคือ 50:50 กล่าวคือ รัฐบาลช่วยจ่าย 50% ของราคาสินค้า และประชาชนจ่ายเองอีก 50% ตัวอย่างเช่น
ซื้อสินค้า 100 บาท
รัฐช่วยจ่าย 50 บาท
ประชาชนจ่ายเอง 50 บาท
ซึ่งสูตรนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่การสร้างแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังถูกวิจารณ์ว่า ไม่มีการแยกแยะระหว่างกลุ่มผู้เสียภาษีและผู้ที่อยู่นอกระบบภาษี
นั่นจึงเป็นที่มาของการออกแบบ สูตรใหม่ 60:40 โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือก็คือคนที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งมีอยู่ราว 11 ล้านคนทั่วประเทศ
สูตรคำนวณแบบใหม่ เข้าใจง่ายใน 1 นาที
สูตรใหม่ 60:40
ราคาสินค้า 100 บาท
รัฐช่วยจ่าย 60 บาท
ประชาชนจ่ายจริง 40 บาท
สูตรเดิม 50:50
ราคาสินค้า 100 บาท
รัฐช่วยจ่าย 50 บาท
ประชาชนจ่ายจริง 50 บาท
สรุป: ผู้ที่ได้รับสิทธิ์สูตรใหม่จะจ่ายน้อยลง 10 บาทต่อทุกการใช้จ่าย 100 บาท แม้ดูเหมือนจำนวนเล็กน้อย แต่เมื่อรวมยอดใช้จ่ายทั้งโครงการ ก็ถือว่าเป็นการประหยัดเงินจำนวนมหาศาล
ใครคือผู้ได้สิทธิ์ 60:40?
นาย ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ยืนยันชัดเจนว่า ผู้ที่มีสิทธิ์รับส่วนลดแบบ 60:40 ได้แก่
1. กลุ่มผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ประมาณ 11 ล้านคน)
ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ได้รับสิทธิ์อัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้ร่วมโครงการ
2. ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี
เช่น พนักงานรายวัน, อาชีพอิสระ, เกษตรกรที่ไม่ยื่นภาษี
จะยังคงได้สิทธิ์แบบเดิมคือ 50:50
3. ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ยังคงได้สิทธิ์ในโครงการเช่นเดียวกับสูตร 50:50
ถือเป็นการรักษาความเท่าเทียมสำหรับผู้มีรายได้น้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง สูตรใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อ ให้รางวัลกับพลเมืองที่ทำหน้าที่เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทำไมต้องเป็น 60:40?
รัฐบาลชี้แจงว่า การปรับสูตรในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ ได้แก่
1. ตอบแทนผู้เสียภาษี
ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีมักรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับผลประโยชน์กลับคืนอย่างคุ้มค่า การมอบสิทธิพิเศษครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการสร้างแรงจูงใจและยืนยันว่า “คนเสียภาษีมีคุณค่า”
2. สร้างแรงจูงใจให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น
ประชาชนที่ยังไม่เคยยื่นภาษี อาจเริ่มคิดทบทวน เพราะการเข้าสู่ระบบหมายถึงการได้สิทธิพิเศษที่มากกว่าในอนาคต
ในแง่เศรษฐกิจ นี่คือการผสมผสานระหว่างนโยบายระยะสั้น (Quick Win) และเป้าหมายเชิงโครงสร้างในระยะยาว
ตัวอย่างเปรียบเทียบการใช้สิทธิ์
สมมุติว่าโครงการคนละครึ่งรอบใหม่กำหนดวงเงินสิทธิ์ 3,000 บาทต่อคน
สูตร 50:50 → รัฐช่วยจ่าย 3,000 บาท / ประชาชนจ่าย 3,000 บาท
สูตร 60:40 → รัฐช่วยจ่าย 4,500 บาท / ประชาชนจ่าย 3,000 บาท แต่ได้สินค้าเพิ่มถึง 7,500 บาท
นั่นหมายความว่า ผู้เสียภาษีจะได้สินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอีก 1,500 บาท เมื่อเทียบกับสูตรเดิม
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
1. กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยทันที
สูตรใหม่ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะชนชั้นกลางและกลุ่มผู้เสียภาษี รู้สึกว่ามีเงินเหลือมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายที่กระจายไปสู่ร้านค้า SMEs และธุรกิจท้องถิ่น
2. สร้างบรรยากาศเชิงบวกในระบบภาษี
ที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมากพยายามเลี่ยงการยื่นภาษีเพราะไม่เห็นประโยชน์ การให้สิทธิพิเศษในโครงการลักษณะนี้ถือเป็น “แรงจูงใจเชิงพฤติกรรม” ที่อาจช่วยเพิ่มจำนวนผู้ยื่นภาษีในอนาคต
3. ความเหลื่อมล้ำเชิงนโยบาย
แม้สูตรใหม่นี้จะช่วยกลุ่มผู้เสียภาษี แต่ก็อาจทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่า ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีกลับไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ยังคงรักษาสิทธิ์ 50:50 ไว้เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
นักเศรษฐศาสตร์หลายฝ่ายมองว่า โครงการ คนละครึ่ง 2.0 จะเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปีนี้ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อแล้ว ยังสร้าง “ความรู้สึกพิเศษ” ให้กับกลุ่มผู้เสียภาษี
ข้อดี:
เพิ่มกำลังซื้ออย่างรวดเร็ว
สร้างแรงจูงใจให้คนเข้าสู่ระบบภาษี
กระจายรายได้สู่ร้านค้า SMEs
ข้อควรระวัง:
ภาระงบประมาณของรัฐอาจสูงขึ้น
อาจเกิดความไม่พอใจในกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์สูตร 60:40
จำเป็นต้องมีระบบควบคุมเพื่อป้องกันการทุจริตหรือใช้สิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์
คนละครึ่ง 2.0 สะท้อนทิศทางนโยบายใหม่ของรัฐบาล
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปรับอัตราส่วน แต่เป็นสัญญาณว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าในทิศทางที่ต้องการ ทำให้ระบบภาษีมีความหมายมากขึ้นสำหรับประชาชน
คนเสียภาษี → ได้รับสิทธิพิเศษ
คนไม่เสียภาษี → ได้สิทธิ์เท่าเดิม แต่ไม่ถูกทอดทิ้ง
เศรษฐกิจโดยรวม → ได้แรงกระตุ้นเพิ่มเติมจากกำลังซื้อ
นี่จึงเป็นการปรับสมดุลที่พยายามสร้างทั้ง “ความเป็นธรรม” และ “แรงจูงใจ” ไปพร้อมกัน
สรุป
โครงการ คนละครึ่ง 2.0 สูตรใหม่ 60:40 คือการอัปเกรดครั้งสำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ ให้กับผู้เสียภาษี และยังคงรักษาหลักการช่วยเหลือประชาชนทั่วไปเอาไว้
ผู้เสียภาษี → ได้จ่ายน้อยลง ได้ประโยชน์มากขึ้น
ประชาชนทั่วไป → ยังคงได้สิทธิ์ 50:50 เช่นเดิม
เศรษฐกิจไทย → ได้แรงกระตุ้นรอบใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิม
แม้จะมีข้อถกเถียงในบางประเด็น แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สูตร 60:40 คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโครงการคนละครึ่ง และอาจกลายเป็นต้นแบบของนโยบายในอนาคต ที่ผสานทั้งการช่วยเหลือประชาชนและการสร้างแรงจูงใจให้เข้าสู่ระบบภาษีอย่างยั่งยืน





















